'เทพไท' ใช้ฐานะผู้สังเกตการณ์การเมืองฟันธงคดีพ่อลูกตระกูลชิน!

21 ส.ค.2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊กในหัวข้อ “2 พ่อ-ลูก รอดคดี 2:1” ระบุว่า ช่วงนี้มีคดีความสำคัญ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งมีผลต่อสถานการณ์ทางการเมืองและทิศทางทางการเมืองของรัฐบาลชุดนี้ อยู่ 3 คดี คือ

1.คดีมาตรา 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ศาลอาญานัดรับฟังคำพิพากษาในวันที่ 22 สิงหาคม 2568

2.คดีคลิปเสียงหลุดของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม 2568

3.คดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งในวันที่ 9 กันยายน 2568

คดีทั้ง 3 เป็นคดีที่มีความหมายทางการเมือง เป็นคดีสำคัญ เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน มีการวิเคราะห์ มีการทำนาย มีการนำเสนอข้อมูล หรือวิเคราะห์ทิศทางของคดีไปต่างๆนานา ใช้หลักรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ การใช้หมอดู ใช้หลักโหราศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงมีนักวิเคราะห์หลายคน วิเคราะห์ว่าผลของคดีจะออกมาในรูปแบบใดบ้าง

ผมในฐานะผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง จะขออนุญาตวิเคราะห์ 3 คดีนี้ ซึ่งไม่อาจก้าวล่วงดุลพินิจของศาลได้ แต่จะวิเคราะห์ตามความรู้สึกและข้อมูลที่ตัวเองได้ชั่งน้ำหนักแล้ว ประเมินสถานการณ์แล้ว เห็นว่า

1.คดีความผิดมาตรา 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งคดีนี้เป็นการกระทำผิดในต่างประเทศ ซึ่งนายทักษิณได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อที่ประเทศเกาหลีใต้ มีข้อความบางส่วนอาจพาดพิงถึงสถาบันพระกษัตริย์ จึงเข้าข่ายการกระทำผิดมาตรา 112 ทำให้อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง เมื่อดูความเป็นมาเป็นไปของคดีนี้แล้ว เห็นว่าเหตุเกิดในต่างต่างประเทศ และถ้อยคำที่นายทักษิณพูดอาจจะตีความหมายได้หลายทาง ซึ่งสามารถจะสู้คดีได้ จึงประเมินว่าคดีนี้นายทักษิณน่าจะรอด หรือน่าจะชนะคดี แต่เชื่อว่าศาลชั้นต้นนายทักษิณชนะคดี แต่อัยการสูงสุดสามารถที่จะอุทธรณ์ได้ ก็ต้องไปสู้ในชั้นอุทธรณ์หรือศาลฎีกาอีก ซึ่งระยะเวลาอีกยาวนานพอสมควร

2.คดีคลิปเสียงหลุด ที่มีการพูดคุยกันระหว่างนางสาวแพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง เป็นคดีที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ซึ่งคนเป็นนายกรัฐมนตรีไม่พึงกระทำในพฤติกรรมเช่นนี้ ถ้าดูเนื้อหาของคลิปเสียงแล้ว เข้าข่ายกระทำผิดอย่างแน่นอน จึงประเมินว่า คดีนี้เมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณา และให้นางสาวแพทองธารหยุดปฎิบัติหน้าที่ น่าจะมีคำวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธารพ้นจากตำแหน่งไปด้วย ในความผิดฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง

3.คดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ซึ่งคดีนี้มีการไต่สวนบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายส่วน และเห็นได้ว่าข้อมูลจากการไต่สวนไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ไม่มีเหตุที่รับฟังได้ว่านายทักษิณป่วยจริง จนจำเป็นต้องมารักษาตัวนอกเรือนจำที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันได้รับการพักโทษ ไม่ได้เข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียว แสดงให้เห็นว่านายทักษิณยังไม่ได้ถูกจำคุกตามหมายศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อศาลนัดวันฟังคำสั่งแล้ว ยังให้นายทักษิณและผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯคนปัจจุบัน มารับฟังด้วย ก็เป็นเหตุที่บ่งชี้ได้ว่า นายทักษิณยังไม่ได้ถูกคุมขังตามหมายศาลศาลฎีกา น่าจะมีคำสั่งให้นายทักษิณกลับไปจำคุกใหม่

ซึ่งทั้งหมดเป็นบทวิเคราะห์ที่ได้ชั่งน้ำหนักและรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งยืนยันว่าทั้ง 3 คดี ไม่ได้ก้าวล่วงอำนาจศาล แต่ว่าเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลในฐานะที่เป็นนักสังเกตการณ์ทางการเมือง ถ้าหาก 3 คดีสำคัญนี้ ทั้ง 2 พ่อลูกคือนายทักษิณและนางสาวแพทองธาร อาจรอดเพียง 1 คดีไม่รอด 2 คดีนั้น ส่งผลต่อสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยอย่างปฏิเสธไม่ได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน

'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'

นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568