ป.ป.ช. เปิดทรัพย์สิน 'ซาบีดา' พ้น รมช.มหาดไทย มี 229 ล้าน

9 กันยายน 2568 - สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมีรายชื่อที่น่าสนใจคือ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ กรณีพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 โดย น.ส.ซาบีดา แจ้งสถานะอยู่กินกันฉันสามีภริยากับ นายอนันต์ ปาทาน มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 229,576,169 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 3,045,919 บาท
 
ทรัพย์สินส่วนตัวของ น.ส.ซาบีดา แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 209,289,842 บาท ประกอบไปด้วย เงินสด 3 แสนบาท เงินฝากบัญชีธนาคาร 5 บัญชี มูลค่ารวม 22,322,332 บาท เงินให้กู้ยืม 1 สัญญา กับ หจก.ทรัพย์ดิน ยอดหนี้คงเหลือ 7,100,000 บาท ที่ดินใน จ.อุทัยธานี, จ.นครสรรค์ และ จ.ชัยนาท จำนวน 64 แปลง มูลค่ารวม 110,279,800 บาท
 
โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างจำนวน 5 หลัง เป็นโรงเรือนเลี้ยงสัตว์และบ้านพักอาศัยที่ จ.อุทัยธานี มูลค่ารวม 24,700,000 บาท ยานพาหนะ 2 คัน มูลค่า 12,645,400 บาท สิทธิและสัมปทาน 2,151,309 บาท ทรัพย์สินอื่น 29,791,000 บาท
 
นอกจากนี้ น.ส.ซาบีดา แจ้งว่ามีหนี้สินรวม 207,191 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี และมีรายได้ต่อปี รวม 2,003,914 บาท ประกอบด้วย เงินเดือนและเบี้ยประชุม 1,023,914 บาท และค่าเช่าที่ดิน 980,000 บาท
 
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบทรัพย์สินหนี้สินกับเมื่อครั้งที่ น.ส.ซาบีดา เคยยื่นเมื่อเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567 ที่แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 234,805,675 บาท ถือว่า น.ส.ซาบีดา มีทรัพย์สินลดลง 5,229,506 บาท
 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จ่อฟันซ้ำ! 'ผบ.คุก - 19 ผู้คุม' พักราชการ-ให้ออกไว้ก่อน

'โฆษกกรมราชทัณฑ์' เผยอีก 1-2 วันนี้ เตรียมเปลี่ยนแปลงคำสั่ง 'ผบ.เรือนจำฯ-จนท.' รวม 20 ราย ส่อ 'พักราชการ-ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่ 'ดีเอสไอ' ลุยสอบปากคำเก็บหลักฐานมัดผิด

รมว.ยุติธรรม สั่งทบทวน แก้ไขหลักเกณฑ์ เอื้อนักโทษเทวดา ตามข้อสังเกตปปช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 พ. ย. ที่ผ่านมา  พลตำรวจโท  รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทำหนังสือบันทึกข้อความ

'รัดเกล้า' สวน บก.ลายจุด ผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง ขึ้น ศาลฎีกาฯแผนกคดีอาญา หากถูกกล่าวหาทุจริต

ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดในการปฏิบัติหน้าที่ จะไม่ขึ้นศาลอาญาทั่วไป แต่จะต้องขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง