'ไทยเริ่มรุกแล้ว แต่กัมพูชาจะสะดุดในเวทีโลกจริงหรือ' ดร.ปณิธาน มีคำอธิบายชัด

28 ก.ย.2568-รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง “ไทยเริ่มรุกแล้ว แต่กัมพูชาจะสะดุดในเวทีโลกจริงหรือ” เนื้อหาระบุ

1. ในเวที UNGA เมื่อวานนี้ ไทยได้สกัดกั้นกัมพูชาไม่ให้ใช้เวทีสหประชาชาติ บิดเบือนข้อเท็จจริงแต่ฝ่ายเดียวได้อย่างทันท่วงที จนได้รับการชื่นชมจากคนไทยจำนวนมาก รวมทั้งได้รับการตอบรับจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่ (United Nations General Assembly- UNGA) ด้วยการปรบมือหลายครั้ง

2. เหตุการณ์นี้ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการทูตเชิงรุกของรัฐบาลใหม่ในสงครามกัมพูชา-ไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจจะเป็นจุดหักเหนำไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมาได้ หากไทยสามารถสกัดกัมพูชาในทุกเวทีนานาชาติเช่นนี้ได้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง

3. สาเหตุของความสำเร็จในครั้งนี้ น่าจะมีอย่างน้อย 2 ประการ คือ:

3.1) ความสามารถส่วนตัวของรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยคนปัจจุบัน ซึ่งมีประสบการณ์ในเวที UN และเวทีระดับนานาชาติมาก่อนหลายปี รวมทั้งยังเคยทำงานให้ฝ่ายการเมืองหรือรัฐบาลที่ผ่านมาเรื่องการต่างประเทศ และยังเคยช่วยร่างสุนทรพจน์สำคัญให้นายกรัฐมนตรีในอดีตมาแล้วอีกด้วย ดังนั้น จึงสามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้เมื่อกัมพูชากล่าวหาไทยในเวที UNGA อย่างรุนแรง

3.2) บทบาทหรือการแทรกแซงของสหรัฐฯ และของปธน.ทรัมป์ ซึ่งในวันที่ 26 ที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุม UNGA นั้น Deputy Secretary of State ของสหรัฐฯ ได้เชิญรมต.ต่างประเทศของไทย รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชา และผู้แทนของมาเลเซีย ให้พบพูดคุยหารือกันสี่ฝ่ายเรื่องแนวทางยุติความขัดแย้งและข้อเสนอสำคัญของปธน.ทรัมป์ที่จะมีในเรื่องนี้ ซึ่งปธน.ทรัมป์ก็จะเดินทางมาร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนที่มาเลเซียในเดือนหน้านี้และหวังไว้ว่าจะได้แถลงถึงความสำเร็จในเรื่องนี้ในวันนั้นด้วย

บรรยากาศในการประชุมสี่ฝ่ายดังกล่าวเป็นไปด้วยดี แต่หลังจากนั้น กัมพูชาก็ขึ้นเวที UNGA โจมตีไทยอย่างรุนแรง จนทำให้ทางรมต.ของไทยต้องเปลี่ยนสุททรพจน์ที่ได้เตรียมไว้และปรับแนวทางชี้แจงจากเดิมมาเป็นการแก้ข้อกล่าวหาพร้อมทั้งระบุชัดเจนถึงพฤติกรรมของกัมพูชาที่บิดเบือน ไม่ทำตามข้อตกลง ต่อหน้าในที่ประชุมอย่าง ลับหลังอีกอย่างตามที่ปรากฎเป็นข่าว (บางส่วนได้ระบุไว้ในสุทรพจน์ข้อ 24 – โปรดดูเอกสารคำแปลข้างล่าง)

และที่สำคัญคือการกระทำเช่นนี้ของกัมพูชา ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่รับรู้รับทราบมานานแล้ว เกิดขึ้นต่อหน้าทั้งสหรัฐฯและมาเลเซียอย่างชัดเจนด้วย ทำให้ไทยสามารถใช้ข้อเท็จจริงดังกล่าวมาใช้ในที่ประชุม UNGA เพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือของกัมพูชาได้อย่างมีน้ำหนักและเหมาะสม

4. สรุป การทูตแบบเชิงรุกของไทยที่เพิ่งจะเกิดขึ้นนี้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเพราะความสามารถส่วนตัวของรัฐมนตรี หรือเพราะความจำเป็นบังคับในเหตุการณ์เฉพาะหน้า หรือเพราะมีการแทรกแซงของสหรัฐฯ ที่กลายเป็นผลดีกับไทย หรือจะด้วยเหตุบังเอิญหรือโชคเข้าข้างก็ตาม ก็ได้ผ่านไปด้วยดี นับตั้งแต่นี้ไทยจะต้องเตรียมตัวไปสกัดกัมพูชาอย่างต่อเนื่องล่วงหน้าที่เวทีนานาชาติที่สำคัญอื่นๆ ที่กำลังจะมาถึงเร็ว ๆ นี้ เช่น การประชุมสุดยอดอาเซียน การประชุมเอเปค

ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ยิ่ง ๆ ขึ้นต่อไป และถ้าเป็นเช่นนั้น สันติภาพและความสงบสุขที่ประชาชนทั้งสองประเทศต้องการนั้นก็จะเริ่มเป็นจริง และเราก็อาจจะหลีกเลี่ยงการทำสงครามกันอีกระลอกที่กำลังมีแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้นได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สถานการณ์แรงงานข้ามชาติปี 2568 จับตาพรรคการเมืองปั่นกระแส บิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีทางการเมือง

เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วสำหรับปี 2568 หลายภาคส่วนมีการวิเคราะห์-สรุปสถานการณ์ในด้าน”การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม-เทคโนโลยี

เสธ ทบ. เผยพบร่างทหาร 2 นาย เหตุปะทะพื้นที่ปราสาทตาควาย 'เนิน 350' แล้ว

พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการปะทะในพื้นที่ปราสาทตาควาย และบริเวณเนิน 350 จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนั

โคราชเดือด! ถล่มยิงเป้าผู้นำเขมร

สโมสรกีฬายิงธนูโคราชเปลี่ยนเป้าซ้อมเป็นรูปผู้นำกัมพูชา ทั้งฮุน เซน–ฮุน มาเนต รวมถึงโฆษกกองทัพและอินฟลูเอนเซอร์เขมร ลูกค้าแห่ทดลองยิง ระบุเป็นกิจกรรมผ่อน

ทัพเรือเผยเหตุเขมรบุกหนัก เคยใช้สไนป์เปอร์ลอบยิง ผบ.หน่วย ก่อนเปิดฉากรบ

โฆษกกองทัพเรือเปิดเผย ช่วงก่อนการโจมตีบ้านเรือน 3 หลัง ฝ่ายกัมพูชามีความพยายามยั่วยุหลายครั้ง รวมถึงเหตุใช้พลซุ่มยิงลอบยิงผู้บังคับหน่วยระดับผู้นำ ก่อนสถานการณ์พัฒนาไปสู่การสู้รบ

ทภ.2 สรุปชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทะเป็นระยะ โดรนฝ่ายตรงข้ามหนาแน่น

กองทัพภาคที่ 2 รายงานภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบการปะทะต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ฝ่ายตรงข้ามใช้งานโดรนและอาวุธหนักหนาแน่น ขณะฝ่ายไทยยิงตอบโต้ทำลายที่ตั้งยิงและยานพาหนะได้หลายครั้ง สถานการณ์ยังอยู่ในการควบคุม

ทภ.2 มีหลักฐานเขมรละเมิดอนุสัญญาเจนีวา-กฎหมายมนุษยธรรม 3 ประการ

กองทัพภาคที่ 2 เปิดข้อมูลการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาตลอด 13 วัน ระบุพบพฤติกรรมทางทหารของฝ่ายกัมพูชาที่เข้าข่ายละเมิดอนุสัญญาเจนีวาและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ชี้ชัดการใช้โบราณสถานเป็นฐาน การดึงพลเรือนร่วมปฏิบัติการ และการนำพลเรือนเข้าสู่พื้นที่การรบ