‘เทพไท’ ชี้ อนุทินรู้ตัวรัฐบาลอยู่ในไม่ถึง 4 เดือน

5 ต.ค. 2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง”ในหัวข้อ อนุทิน รู้ดี 4เดือนนี้ อาจไม่รอด

ผมได้ยินข่าวนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้นำหมอช้างมาผูกข้อมือเนื่องในงานวันเกิดครบรอบ 67 ปี ให้กับนายอนุทิน ได้กล่าวอวยพรให้นายอนุทินเป็นนายกครบ4ปี ซึ่งนายอนุทินตอบแบบติดตลกว่า “เอา4เดือนนี้ให้รอดก่อน”

การตอบคำถามของนายอนุทิน สามารถตีความได้เป็น2นัยยะคือ นัยยะแรก คงกล่าวในลักษณะถ่อมตน ซึ่งเป็นนิสัยของคุณอนุทินอยู่แล้ว แต่อีกนัยยะหนึ่งนายอนุทินน่าจะรู้ดีว่า อายุของรัฐบาลชุดนี้จะให้รอด4เดือนนั้น เหมือนเดินอยู่บนเส้นด้าย ถ้าดูจากการอภิปรายนโยบายของพรรคฝ่ายค้าน2พรรค คือพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน จะเห็นได้ชัดว่าประเด็นการอภิปรายนโยบายมุ่งไปสู่การกรุยทาง หรือโหมโรงไปสู่ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และในขณะนี้มีประเด็นล่อแหลมที่อาจจะถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ใน2ประเด็นใหญ่ๆ คือ

ประเด็นที่1 เกี่ยวกับคดีฮั้วส.ว. และคดีที่ดินเขากระโดง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรม จะเห็นได้ชัดว่า การวางตัวพลตำรวจโทรุทธพล เนาวรัตน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมล่าสุดการแต่งตั้งนายศุภชัย ใจสมุทร เป็นโฆษกของกระทรวงยุติธรรม เป็นการวางตัวบุคคลเพื่อมาดูแล2คดีนี้ มีการชี้แจง ตอบโต้ กดดัน เร่งรัด ทำทุกรูปแบบเหมือนกับการมาคุ้มครอง2คดีใหญ่ ซึ่งเป็นหัวใจของครูใหญ่แห่งบ้านบุรีรัมย์ และล่าสุดถูกกล่าวหาว่า มีการแต่งตั้งคณะทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มาจากบุคคลที่ทำคดีฮั้วส.ว. และคดีที่ดินเขากระโดงทั้งสิ้น จึงทำให้มีข้อสงสัยจากพรรคฝ่ายค้าน และอาจจะถูกหยิบยก2คดีนี้ นำไปสู่ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้

ประเด็นที่2 เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของรัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านจริยธรรม จะเห็นได้ว่ามีรัฐมนตรีบางคนหมิ่นแหม่ต่อการขัดต่อจริยธรรม มีการอภิปรายจากส.ส.พรรคประชาชนอย่างน้อย2คนที่พุ่งเป้าไปยังพฤติกรรมคุณสมบัติของรัฐมนตรี คือนายรังสิมันต์โรม และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้พูดถึงเรื่องกรณีที่มีนักธุรกิจต่างชาติบางคน ที่เกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ เป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนเซ็น และมาเกี่ยวข้องกับผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย และรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมสนใจ และการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรวันแถลงนโยบาย ก็ไม่ได้รับคำตอบจากผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่ถูกพาดพิงเลย จึงทำให้สังคมสงสัย ทั้ง2ประเด็นนี้ น่าจะมีน้ำหนักเพียงพอ ที่จะทำให้พรรคฝ่ายค้าน2พรรค สามารถยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดนี้ได้

แม้ว่าสิ้นเดือนนี้จะมีการปิดสมัยประชุมสภาฯแล้ว แต่ในเดือนธันวาคมจะมีการเปิดสมัยประชุมของสภาผู้แทนราษฎร และเป็นไปได้มากที่สุด คือพรรคฝ่ายค้านทั้ง2พรรค ถ้าตกลงกันได้และสามารถที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ แค่ล่ารายชื่อเตรียมยื่นญัตติ ก็เชื่อว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็ตัดสินใจยุบสภาทันที คงไม่ปล่อยให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เข้าในวาระการประชุม ซึ่งจะทำให้นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ไม่สามารถยุบสภาได้ หากมีการอภิปราย จะถูกคว่ำกลางสภาฯ

จึงเชื่อว่าภายในเดือนธันวาคมนี้ หลังจากเปิดสมัยประชุมสามัญแล้ว รัฐบาลก็จะประกาศยุบสภาทันที

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มีคำตอบ! รัฐบาลอนุทินมี ‘ศุภจี‘ เป็นจุดเด่น ทำไมปล่อยให้มี ’ธรรมนัส’ เป็นจุดอ่อน

คุณศุภจีคือตัวแทนของ "ภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ" ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ดึงดูดชนชั้นกลางและคนเมือง และเป็นเกราะป้องกันทางการเมือง เมื่อฝ่า

น้ำลด งานฟื้นฟูเยียวยาเดินเร็ว กับการเมืองปั่น 'พันศพ' ที่ไม่มีอยู่จริง

แม้น้ำจะลดลงเพียงไม่กี่ชั่วโมง งานฟื้นฟูและการเยียวยาก็เดินหน้าในทันที ทว่าในช่วงที่ข้อมูลจริงยังไม่ครบ กลับมีบางกลุ่มปั้นตัวเลขผู้เสียชีวิตให้สูงเกินจริงจนสังคมไขว้เขว เหตุ