
21 ต.ค.2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง”ในหัวข้อ 5 กับดัก ของ อภิสิทธิ์
เมื่อวานนี้(วันที่ 20 ตุลาคม 2568) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้นำคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เข้าสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยในการทำงาน ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงท่าทีจุดยืนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง และแนวทางทางการเมืองกับผู้สื่อข่าวในหลายประเด็น
สำหรับผมในฐานะเป็นศิษย์เก่าพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่านายอภิสิทธิ์เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ ด้วยความเห็นพ้องทั้งของคนในพรรคและคนนอกพรรค ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ แต่สิ่งที่อยากจะแสดงความคิดเห็นในฐานะเป็นนักวิเคราะห์การเมืองอิสระว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำพรรคเข้าสู่สนามเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ นายอภิสิทธิ์จะต้องพบกับดักทางการเมือง5ข้อด้วยกัน คือ
1.ระยะเวลาของการเตรียมตัว ที่จะนำพรรคเข้าสู่สนามเลือกตั้งทั่วไป ที่จะเกิดขึ้นค่อนข้างฉุกละหุกและกระชั้นชิด แม้ว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศว่า จะยุบสภาในวันที่ 31 มกราคม 2569 แต่ในข้อเท็จจริงอาจจะยุบก่อนหน้านั้นก็ได้ และล่าสุดก็เห็นท่าทีของนายอนุทินว่า อาจจะยุบสภาเร็วขึ้น จึงทำให้การเตรียมพร้อมในการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ มีข้อจำกัดทางนโยบาย ทั้งตัวผู้สมัครและเงินทุนสนับสนุน
2.การคัดเลือกผู้สมัครส.ส.จะเป็นปัญหาสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคเก่าแก่ และมีวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งจะมีปัญหาเกี่ยวกับการคัดตัวผู้สมัครในระบบเขต ซึ่งมีทั้งคนเก่าและคนใหม่ ซึ่งพรรคจะต้องตัดสินใจว่า จะเลือกใครเป็นตัวแทนของพรรคลงสนามเลือกตั้ง รวมถึงการจัดลำดับในส.ส.ประเภทบัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีผู้อาวุโสอยู่หลายคน จะจัดลำดับในบัญชีรายชื่ออย่างไร เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสเป็นส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อบ้าง และไม่ตัดผู้อาวุโส ซึ่งเป็นคนเก่าแก่ของพรรค
3.จะต้องทำการเมืองในลักษณะเชิงเดียวหรือเชิงเดี่ยว หมายความว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์ประกาศจุดยืนการทำการเมืองแบบสุจริต และประชาธิปไตยบริสุทธิ์ ไม่มีการซื้อเสียง พรรคประชาธิปัตย์ต้องดำเนินแนวทางการหาเสียงกำชับให้ผู้สมัครทุกคน ละเว้นการซื้อเสียงอย่างเด็ดขาด ต้องไม่ทำการเมืองแบบไฮบริด คือประกาศจุดยืนไม่ซื้อเสียง ในขณะที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคบางคนแอบซื้อเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เคยซื้อเสียงมาก่อน และมีฐานะทางการเงินที่พอจะซื้อเสียงได้ ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งภาพลักษณ์และจุดยืนของพรรคได้
4.นายอภิสิทธิ์จะต้องเจอกับวาทะกรรมเรื่องกรณีการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี2553 ที่มีคนตาย 99 ศพ แม้ว่าจะเป็นระยะเวลาที่ผ่านมา 10 กว่าปี ก็จะมีคนขุดเรื่องนี้มาตั้งคำถาม ทั้งที่ในทางคดีความได้หมดสิ้นไปแล้ว และคนที่กล่าวหาเรื่องนี้ก็รับโทษไปแล้ว แต่จะมีคนขุดวาทะกรรมนี้มาใช้อีก ซึ่งก็จะต้องตอบคำถามในเรื่องนี้ตลอดเวลา เพราะเป็นประเด็นการเมืองที่สามารถดิสเครดิตนายอภิสิทธิ์ได้
5.นายอภิสิทธิ์จะต้องเจอกับแรงกดดันทางการเมือง คำถามเรื่องความสำเร็จในการกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคครั้งใหม่ว่า จะนำพาพรรคประชาธิปัตย์ประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน จะได้จำนวนที่นั่งส.ส.กี่คน ซึ่งในระบบบัญชีรายชื่ออาจจะไม่เป็นปัญหา เพราะกระแสความนิยมของนายอภิสิทธิ์จะทำให้คะแนนสูงกว่าผลการเลือกตั้งเมื่อปี2566 ที่ได้คะแนนในระบบบัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ เพียง 900,000 คะแนนเศษ การเลือกตั้งครั้งต่อไปน่าจะมีคะแนนเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน แต่ในระบบเขต ซึ่งนายอภิสิทธิ์ออกมาเปิดเผยว่า มีส.ส.จำนวนหนึ่งที่ไม่ไปต่อกับพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการย้ายพรรค และการเลือกตั้งในระบบเขต จะมีการแข่งขันกันสูง และมีการซื้อเสียงกันอย่างหนัก 80% ของระบบเขตจะซื้อเสียงกันทั้งนั้น เมื่อนายอภิสิทธิ์ประกาศจุดยืนไม่ซื้อเสียง ก็ไม่มีหลักประกันใดว่าในระบบเขตจะได้ส.ส.กี่คน เว้นแต่กระแสนิยมของนายอภิสิทธิ์มาแรงจนดึงคะแนนส.ส.เขตให้ได้รับการเลือกตั้งด้วย
ทั้งหมดนี้น่าจะเป็น5ประเด็น ที่เป็นกับดักของนายอภิสิทธิ์ ในการกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครั้งใหม่ และจะต้องทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าพรรคให้ดีที่สุด สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และสังคมคาดหวังว่า พรรคประชาธิปัตย์จะต้องดีกว่าเดิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
‘เทพไท’ เปิดสาเหตุ 'เพื่อไทย' ไม่กล้ายื่นซักฟอก ทั้งที่ตัวเองได้เปรียบ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิประบุว่า
เทพไท ไม่แปลกใจ 'อภิสิทธิ์-ปชป.' ฉุดกระแสใต้คืนชีพ ห่วง สส.เขต โดนกระสุนดินดำเอาไปกิน
เทพไท ชี้ ผลการสำรวจของนิด้าโพล อาจวัดความนิยมของพรรคการเมือง และจะบ่งบอกถึงส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ แต่สำหรับส.ส.ในระบบเขต ยังเชื่อว่าพรรคการเมืองที่มีทรัพยากรพร้อม มีกระสุนดินดำเป็นจำนวนมาก และยิงเข้าเป้า ก็จะมีโอกาสชนะการเลือกตั้ง
นิด้าโพลชี้ ปชป. มาแรงในภาคใต้ คะแนนนิยม อภิสิทธิ์ นำ อนุทิน
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “กระแสการเมือง ภาคใต้” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18 - 24 พฤศจิกายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในภาคใต้ (จำนวน 14 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี
'น้ำท่วมหาดใหญ่' เพิ่มเงื่อนไขซักฟอก 'อนุทิน'
นายเทพไท เสนพงศ์ โพสต์คลิปพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า น้ำท่วมหาดใหญ่ เพิ่มเงื่อนไขซักฟอกอนุทิน
'อภิสิทธิ์' ถึงกับงง! ศูนย์ประสานงานน้ำท่วมเกิดขึ้นซ้ำซ้อน น่าห่วงเรื่องความเป็นเอกภาพ
"พี่มาร์ค" งงหนัก รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินน้ำท่วมสงขลา ตั้ง ผบ.ทสส. เป็นผู้รับผิดชอบ แต่กลับมีการตั้งศูนย์ประสานงานซ้ำซ้อนกันทั้งที่ทำเนียบฯ-กระทรวงต่างๆ ทำให้น่าเป็นห่วงเรื่องความเป็นเอกภาพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ชี้เป็นโจทย์ใหญ่ต้องเร่งแก้ไขด่วน


