
24 ต.ค. 2568- ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
“Deep State แบบใหม่”: ขบวนการ Scammer กับการทดสอบความกล้าทางศีลธรรมของผู้นำไทย
เมื่อเดือนตุลาคม 2025 รัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีใต้ นำโดยประธานาธิบดี อี แจ-มย็อง ได้เปิดปฏิบัติการพิเศษเพื่อตามล่าขบวนการ Scammer Network ที่ตั้งฐานอยู่ในกัมพูชา หลังพบว่ามีชาวเกาหลีหลายร้อยคนถูกล่อลวงให้ไปทำงานใน “ศูนย์หลอกลวงออนไลน์” และบางรายเสียชีวิตจากการทรมานในค่ายควบคุมของเครือข่ายอาชญากรรม
รัฐบาลเกาหลีใต้ไม่เพียงส่งหน่วยข่าวกรองและตำรวจพิเศษเข้าประสานกับรัฐบาลกัมพูชา แต่ยังประกาศ เขตห้ามเดินทางระดับ Code-Black, ตั้งศูนย์สอบสวนระดับชาติ และประกาศว่าการจัดการ Scammer ข้ามชาติคือ “ภารกิจความมั่นคงแห่งชาติ”
นี่คือสัญญาณชัดเจนว่า “ผู้นำที่กล้าหาญ” ไม่มองปัญหา Scammer เป็นแค่เรื่องอาชญากรรมดิจิทัล แต่คือ “สงครามศีลธรรม” เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีและความไว้วางใจของรัฐชาติ
1. เมื่อความเทากลืนขาว — ศีลธรรมของรัฐเริ่มสั่นคลอน
ในประเทศไทย ขบวนการ Scammer ไม่ได้อยู่แค่ชายแดน แต่ฝังรากอยู่ใน เครือข่ายอำนาจเทา–ทุนเทา–ราชการเทา ที่ใช้เทคโนโลยีและอิทธิพลทางการเมืองเป็นเกราะกำบัง
สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่แค่การหลอกประชาชนผ่านมือถือ แต่คือ “การฟอกศีลธรรมของรัฐ” — เมื่อผู้มีอำนาจบางคนรู้เห็นแต่ไม่ลงมือ เมื่อหน่วยงานรัฐบางแห่งกลายเป็นพื้นที่พักเงินผิดกฎหมาย เมื่อประชาชนเริ่มไม่เชื่อว่ารัฐจะคุ้มครองคนดีได้
นี่ไม่ใช่เพียงอาชญากรรม แต่คือ ภัยความมั่นคงเชิงศีลธรรม (Moral Security Crisis) ที่ทำให้ความถูกต้องถูกลดทอนเหลือเพียงวาทกรรม
2. Deep State ยุคใหม่ — ไม่ได้อยู่ในกองทัพ แต่อยู่ในระบบราชการ
ขบวนการ Scammer คือ “Deep State แบบใหม่” ที่บ่อนทำลายความมั่นคงจากภายในโดยใช้เทคโนโลยี ข้อมูล และเงินสกปรก
มันมีระบบบริหารของตัวเอง — มีทุน, มีคน, มีโครงข่าย, และมีเจ้าหน้าที่รัฐคอยอำนวยความสะดวก เมื่อเงินสกปรกไหลเข้าระบบเศรษฐกิจ ศรัทธาของประชาชนก็ไหลออกจากรัฐ
นี่คือการทำลายชาติอย่างเงียบงัน ที่อันตรายยิ่งกว่ารัฐประหาร
3. จาก Moral Courage สู่ Moral Governance
หากเราจะสู้สงครามนี้ได้ ต้องเปลี่ยนจาก “รัฐที่บริหารด้วยอำนาจ” เป็น “รัฐที่บริหารด้วยศีลธรรมเชิงระบบ” — หรือ Principled Governance Framework
กลไกสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่
1) Moral Intelligence Center (MIC) ศูนย์ข้อมูลกลางตรวจสอบทุนเทา ข้อมูลเทา และข้าราชการเทา
โดยใช้เทคโนโลยี AI และ blockchain เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลจากตำรวจ ธนาคาร และหน่วยความมั่นคง
2) Digital Border Taskforce ทีมปฏิบัติการข้ามหน่วย ปิดเส้นทางฟอกเงินและค่ายหลอกลวง
ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในลักษณะ “ASEAN Moral Shield”
3) National Trust Index ระบบวัดศรัทธาประชาชนต่อรัฐ เพื่อให้การเมืองต้องรับผิดชอบต่อระดับความไว้วางใจของสังคม
นี่คือการยกระดับรัฐไทยจาก “Reactive State” สู่ Principled Techno-Moral State
ที่ไม่เพียงปกป้องคนดี แต่สร้างระบบที่คนดีอยู่ได้โดยไม่ต้องกลัวคนเลว
4. Moral Leadership: พลังนำประเทศไทยออกจากกับดักเทา
Moral Leadership คือหัวใจของการปฏิรูปยุคนี้ ผู้นำที่แท้จริงต้องมี วิสัยทัศน์ (Visionary), คุณธรรม (Moral), และ ความกล้าในการลงมือ (Actionable Leadership)
เขาต้องกล้าชนกับผลประโยชน์ที่ตนเองเคยพึ่งพา กล้าฟื้นศักดิ์ศรีของหน่วยงานที่ถูกบิดเบือน และกล้าประกาศว่านี่คือสงครามแห่งศีลธรรม — ไม่ใช่แค่คดีอาชญากรรม
เพราะในยุคที่เทคโนโลยีเปิดทางให้ความชั่วร้ายข้ามพรมแดน สิ่งเดียวที่ปกป้องรัฐได้ คือ “ศีลธรรมที่มีกลไกและเป็นรูปธรรม”
5. จุดเปลี่ยนทางการเมือง
พรรคการเมืองใด หรือผู้นำใด ที่กล้าจัดการกับขบวนการ Scammer อย่างถึงราก จะไม่เพียงชนะใจประชาชน แต่จะ “ฟื้นศักดิ์ศรีรัฐไทย” กลับคืนมา
เพราะประชาชนไม่ได้ต้องการ Populism ที่ปลอบใจระยะสั้น แต่ต้องการ “Principled Politics” ที่รักษาประเทศระยะยาว
ถ้า พรรคภูมิใจไทย หรือพรรคใดก็ตาม กล้าประกาศสงครามกับขบวนการนี้จริง — แบบไม่มีเทา ไม่มีอุ้ม ไม่มีต่อรอง จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทย
แต่ถ้าทำไม่ได้…สิ่งที่สูญเสียจะไม่ใช่คะแนนเสียง — แต่คือ “เกียรติยศของรัฐไทย” ที่อาจไม่เหลือให้ฟื้นอีก
6. บทส่งท้าย: เรากำลังอยู่ใน Moral War
ขบวนการ Scammer คือเงามืดของรัฐไทย แต่ในความมืดนั้น — ยังมีโอกาสที่จะฟื้น “แสงแห่งศีลธรรม” ขึ้นมาอีกครั้ง
เพราะในสงครามระหว่างอำนาจกับศีลธรรม ความกล้า คืออาวุธเดียวที่ทำให้รัฐอยู่รอด
นี่ไม่ใช่สงครามระหว่างรัฐกับประชาชน แต่คือสงครามที่ประชาชนอยากเห็นรัฐ “กลับมาเป็นของประชาชนอีกครั้ง” ภายใต้ผู้นำที่มีหัวใจแห่งศีลธรรม และความกล้าที่จะลงมือในสิ่งที่ถูกต้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พงศ์พรหม' หนุนกุดหัว 'วุ้นเส้น-นักการเมืองไทยขายชาติ' ตะเพิด 'นักข่าวเทวดา' มีปากแค่เอาไว้ขั้นหู
นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความว่า แยกเป็น 5 เรื่องก่อน 1. ทำไมไอ้วุ้นเส้นถึงชอบปะทะกับไทยนัก แต่ไม่กล้ากับเวียดนาม
ดร.สุวิทย์ ชี้ไทยกำลังติดเชื้อ 'ไวรัสโกงกินทั้งระบบ' ถ้าไม่รักษาอาจไม่มีรัฐของ ปชช.เหลือต่อไป
อดีตรมว.อว. บอกประเทศไทยจะรอดหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักการเมือง แต่ขึ้นอยู่กับว่า ประชาชนจะเลือก รัฐที่เป็นของประชาชน หรือ รัฐที่ถูกยึดโดยผลประโยชน์สีเทา
โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ
โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ
'อนุทิน' รับรู้จัก 'เบน สมิธ' แต่ไม่สนิท ชี้ภาพเก่า 10 ปี รู้อยู่แล้วใครปล่อย
“อนุทิน” รับรู้จัก “เบนสมิท” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน ชี้ภาพที่เห็นออกเป็นรูปเก่า10ปี บอกสื่อก็รู้ว่าใครปล่อย ยันถ้าสนิททำไมไม่ได้สัญชาติ ไทย รับเป็นเหตุต้องพ้น มท. 1 โต้ “โรม” รู้จักผมน้อยไป หลังวิจารณ์ไม่ตั้งใจปราบสแกมเมอร์
ที่ปรึกษาโรม ชี้นับหนึ่งล้างสแกมเมอร์ข้ามชาติ กังขาไม่ออกหมายจับ-กลต.ไม่ขยับ
น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ ที่ปรึกษา ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ(นายรังสิมันต์ โรม) โพสตเฟซบุ๊กว่าหลังจากที่ ปปง. แถลงข่าวเรื่องอายัดทรัพย์
นายกฯอนุทิน นำแถลงยึดทรัพย์หมื่นล้าน 'สแกมเมอร์ข้ามชาติ' ลั่นต้องขยายผลไม่มีหยุดพักปีใหม่
นายกฯ อนุทิน นำแถลง ยึดทรัพย์เครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ "เฉิน จื้อ - ก๊ก อาน - ยิม เลียก - เบน สมิธ" พร้อมยึดทรัพย์มูลค่าหมื่นล้านบาท ยันพร้อมสนับสนุนเจ้าหน้าที่ดำเนินการเต็มที่ เดินหน้าขยายผลต่อไม่มีหยุดพักร้อน มอง "เบน สมิธ" โยงคนในรัฐบาล เป็นเรื่องคนรู้จักกันได้ แต่หากเจอหลักฐานถึงใครไม่มีละเว้น

