
'ครูวีระ' ชี้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คนไทยเพียงต้องการรักษาแผ่นดินไทยเท่านั้น มิได้ต้องการรุกรานชาติกัมพูชา แต่หลายกลุ่มแยกไม่ออก 'รักชาติ' กับ 'ชาตินิยม' แตกต่างกันอย่างไร จึงมีคนโลกสวยเป็นจำนวนมาก
19 พ.ย.2568 - นายวีระ สุดสังข์ หรือ "ฟอน ฝ้าฟาง" ศิลปินมรดกอีสาน ปี 2558 อดีตครูสอนภาษาไทย นักเขียนอิสระ ผู้ก่อตั้งกลุ่มวรรณกรรมลำน้ำมูลและสโมสรนักเขียนภาคอีสาน โพสต์เฟซบุ๊ก
เรื่อง รักชาติ,ชาตินิยม มีเนื้อหาดังนี้
ชาติ,ชา-ติ,ชาตะ แปลว่า เกิด, เกิดที่ไหน? เกิดบนแผ่นดินแผ่นน้ำ ถ้าไม่มีแผ่นดินแผ่นน้ำก็ไม่มีที่เกิดหรือไม่ได้เกิด เกิดที่ไหนจึงเป็นคนที่นั่น
สำนึกรักชาติ คือ สำนึกรักสถานที่เกิด, เคารพสถานที่เกิด, หวงแหนสถานที่เกิด, ปกปักรักษาสถานที่เกิด ยอมสละชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อรักษาสถานที่เกิด ใครรุกรานมิได้ นี่คือแนวทางรักชาติซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของสัตว์และมนุษย์ที่เป็นทั้งสัญชาตญาณและจิตวิญญาณ ลักษณะการแสดงออกอย่างนี้ คือ รักชาติ "ไม่ใช่ชาตินิยม" แต่เป็นการแสดงความปรารถนาดีต่อชาติอันประกอบด้วยเพื่อนมนุษย์ วัฒนธรรม ประเพณี ศาสนาและสถาบันต่างๆในชาติ ทั้งชาติของตนเองและชาติของคนอื่นๆ
"ชาตินิยมนั้นคือ ความสุดโต่งในชาติของตน" เป็นความปรารถนาในอำนาจที่เหนือกว่า เช่น ปรารถนาแผ่นดินอื่น ปรารถนาชาติอื่น เพื่อปกครองชาติอื่น อันเป็นความปรารถนาที่ไม่หวังดีต่อผู้อื่น จึงรุกรานผู้อื่น
ปัญหาชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาขณะนี้ คนไทยเพียงต้องการรักษาแผ่นดินไทยเท่านั้น มิได้ต้องการรุกรานชาติกัมพูชาเพื่อปกครองกัมพูชาแต่อย่างใด
หลายคน หลายกลุ่ม หลายองค์กร หลายสถาบันที่แสดงความรักชาติอย่างมุ่งมั่น บ้างแสดงออกทางความคิด บ้างแสดงออกทางการกระทำ บ้างเผชิญหน้าอยู่ที่ชายแดน บ้างพิการและเสียชีวิตไปจำนวนไม่น้อย
แต่ก็มีหลายคน หลายกลุ่ม หลายองค์กรที่ออกมาแสดงความเห็นว่า นี่คือลักษณะของชาตินิยมและพยายามต่อต้าน คัดค้าน เอ่ยอ้างมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน เพราะพวกเขาแยกไม่ออกว่า รักชาติและชาตินิยมนั้นแตกต่างกันอย่างไร? จึงมีบุคคลที่แสดงออกในลักษณะโลกสวยเป็นจำนวนมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความสมดุลของการรักษาอธิปไตยและการใช้กำลัง : สำหรับข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา
รศ.ดร.บุญส่ง ชเลธร สถาบันรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เผยแพร่บทความเรื่อง ความสมดุลของการรักษาอธิปไตยและการใช้กำลัง : สำหรับข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา มีเนื้อหาดังนี้
เดือด! 'ครูวีระ' ร่ายกลอนฟาด 'นายพลสีส้ม' ขี้ขลาดนักก็ปิดปากไปอยู่หลุมหลบภัย
จากกรณี พล.ท.พงศกร รอดชมภู หรือ เสธ.โหน่ง อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และอดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ได้ออกมาตำหนิผู้เชียร์ให้ทำสงครามใหญ่กับกัมพูชา ว่าเป็นพวกคลั่งชาติ มีส่วนทำให้ประเทศไทยสูญเสียงบประมาณมหาศาล
'หมอตุลย์' หนุน 'อนุทิน' จัดการกัมพูชาจนกว่าจะศิโรราบ ค้าน 'อันวาร์' ให้เจรจากันอีกครั้ง
นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยแพร่จดหมายเปิดผนึก มีใจความว่า
'เสธ.หิ' ลั่น สู้กับคนพาล อย่าใช้วิถีของบัณฑิต ถึงเวลากำราบ ลูกหลาน 'พระยาละแวก'
'เสธ.หิ' ลั่น สู้กับคนพาล อย่าใช้วิถีของบัณฑิต ซัด 'กัมพูชา' ไร้สำนึกความจริงใจแก้ปัญหา บอก ถึงเวลากำราบ ลูกหลานพระยาละแวก รบให้รู้กันไปเลย
'หมอวรงค์' ย้อน 'บิ๊กเล็ก' ก็พลาดเหมือนกัน เรื่องการทหาร การสู้รบ ก็ไม่ควรพูดผ่านสื่อ
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความกรณี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ท้วงติงทหารเก่า ผู้รู้ ให้ส้มภาษณ์ทำให้กัมพูชาต่อจิ๊กซอว์ได้ ว่า
เพจดัง แนะไทยกระตุ้น 'ทรัมป์' รับผิดชอบ กดดันกัมพูชา คนไทยต้องมีสติ หาพวกมาจัดการคนบ้า
เพจเฟซบุ๊ก thaiarmedforce.com โพสต์ข้อความว่า ผลการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติมีนัยยะที่ชัดเจน โดยเฉพาะข้อสุดท้ายคือ อนุญาตให้กองทัพใช้กำลังได้ตามกฎการปะทะหรือ Rule of Engagement


