เปิดคำยืนยันจาก อาจารย์หมออ๊อด เจ้าพ่อนิติเวชผู้ชันสูตรศพน้ำท่วมหาดใหญ่

4 ธันวาคม 2568 - ผศ.นพ.ธนพันธ์ ชูบุญ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และนักเขียนชื่อดัง "เรื่องเล่าของหมอสูติ" โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ตู้นึงเก็บได้ ๒๐ ร่างใช่ไหม" เมื่อช่วงค่ำ ผมได้คุยกับอาจารย์หมออ๊อด เจ้าพ่อนิติเวชที่ทำการชันสูตรร่างผู้เสียชีวิตในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมาครับ เขาเป็นหัวหน้าทีม

มันน่าสนใจมากที่ได้รับรู้เรื่องการทำงานของทีมเขา ทีมที่อยู่ในกระแสของสังคม สื่อต่างๆที่ลงตัวเลขผู้เสียชีวิตตั้งแต่หลักร้อย หลายร้อย มีบางคนบอกว่าถึงสิบร้อยไปนู่น ๕๕

“ถูกต้องเลยครับถ้าหมุนดีๆได้มากสุดก็ไม่เกิน ๒๕ ร่าง เพราะเราไม่ได้ซ้อนศพเลยครับ ส่วนตรงกลางนั้นเว้นไว้สำหรับเป็นทางเดินเวลาไปยกศพข้างในครับ” เขาส่งรูปสภาพภายในตู้คอนเทนเนอร์ที่วางอยู่บริเวณลานหลังโรงพยาบาล ม.อ. ที่มีอยู่จำนวน ๗ ตู้ ซึ่งจริงๆแล้วมันใช้ได้เพียง ๕ ตู้เท่านั้น อีก ๒ ตู้มันใช้การไม่ได้มาตั้งแต่แรก

ภายในตู้ก็คือร่างผู้เสียชีวิตที่ถูกห่อหุ้มด้วยถุงสีขาว มีการปิดถุงและผูกรัดไว้อย่างเรียบร้อย

“ล่าสุด ๑๔๓ ศพ โดยแบ่งเป็นศพที่เราย้ายมาจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ซึ่งตายในโรงพยาบาล ๕๔ ศพ (อย่าลืมนะครับว่าโรงพยาบาลหาดใหญ่ไฟดับ ศพที่ถูกเก็บอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนน้ำท่วมมีอยู่ ๕๔ ร่าง ซึ่งเหล่านี้จะต้องรีบขนย้ายมาฝากไว้ที่ ม.อ. ไง) และ ๑ ศพลอยมาติดที่ป้ายหน้าโรงพยาบาล“ ถึงตรงนี้ ทดเลขไว้ก่อนเลยว่าเรารับโอนย้ายสำมะโนมาจากหาดใหญ่ ๕๕ ร่าง

“เป็นของ ม.อ. เอง ๕๕ ศพ โดยเป็นศพที่ระบุตัวบุคคลได้จากภายนอกที่แจ้งว่าเป็นโรคธรรมชาติที่นำมาฝากในช่วงน้ำท่วม ๑๓ ศพ และที่เหลือเป็นศพทั้งระบุตัวบุคคลได้และระบุตัวคนไม่ได้ซึ่งอ้างว่าเกี่ยวกับน้ำท่วมรวมแล้ว ๔๑ ครับ อีก ๑ ที่เหลือเสียชีวิตจากโรคหัวใจ” ออ เข้าใจแล้ว เรายังรับร่างมาจากที่อื่นอีก ๑๓ ร่าง ซึ่งตายจากโรคภัยมาก่อนน้ำท่วม และที่ถูกระบุว่าเกิดจากเหตุน้ำท่วมจริงๆก็ ๔๑ คน

“ส่วนที่เกิน ๑๑๐ ศพตามที่แจ้งข้างต้นเป็นศพที่เก็บจากข้างนอกล้วนๆ” ครับ นั่นก็หมายความว่า อีก ๓๓ ร่างก็ถูกส่งมาจากข้างนอก และคาดว่าน่าจะเกิดจากน้ำท่วมนั่นแหละ

รวมแล้ว มีร่างที่เราดูแลตอนนี้คือ ๑๔๓ ร่าง ได้นอนในห้องเก็บศพของ ม.อ.เอง ๑๑๐ ร่าง นอนในคอนเทนเนอร์ ๓๓ ร่าง ใช้ตู้ไปทั้งหมด ๕ ตู้

แม่เจ้า! โรงพยาบาลผมมีห้องเย็นที่ใหญ่ขนาดนั้นเลยหรือ

“ครับพี่แป๊ะ อันที่จริงเราเก็บร่างได้มากที่สุด ๑๑๙ ร่างเลยนะพี่” ดูเหมือนอาจารย์อ๊อดจะภูมิใจในที่ทำงานของเขามาก

“พี่แป๊ะรู้ไหม ต้องขอแจ้งว่างานนี้ถ้าเราไม่ได้นักศึกษาแพทย์มาช่วยเราตายอย่างเขียดครับ” ผมนึกถึงเพลงของใครสักคนที่มีเนื้อร้องว่า “ตายหยังเขียด”

“นักเรียนแพทย์มาช่วยอะไรวะอ๊อด” เรื่องนี้ผมไม่เคยรู้

“นักศึกษาแพทย์ช่วยเป็นแรงงานหลักในการรับศพใหม่ครับ น้องๆเป็นแรงงานหลักในการย้ายศพออกจากตู้คอนเทนเนอร์ ๓ องศา ออกมาชันสูตร เป็นแรงงานหลักในการย้ายศพหลังการชันสูตรเข้าคอนเทนเนอร์ -๑๐ องศา เป็นแรงงานหลักในการปล่อยศพในวันที่ระบุชื่อตระกูลศพได้

และนักศึกษาแพทย์ได้ผลาญเงินค่าพิซซ่าของผมไปหลายพันบาทด้วยครับ ๕๕๕“ คือไอ้ ๕๕๕ ของอาจารย์อ๊อดนั้น คนที่รู้จักจะเข้าใจได้ว่ามันดังขนาดไหน

“หมดเงินไปเท่าไหร่ พี่ขอหารได้ไหม” ผมรู้สึกตื้นตันมากนะครับที่ได้รู้ว่าลูกศิษย์แพทย์อุทิศตนมากขนาดไหน ผมนึกถึงตัวเอง งานนี้ผมไม่กล้าเข้าไปช่วยจริงๆ

“ไม่เป็นไรครับ ๕๕๕ สุขใจที่เห็นน้องนักศึกษาแพทย์ได้ทำงานอย่างจริงจัง สุขใจที่เห็นน้องนักศึกษาแพทย์ได้ฝึกอะไรบางอย่างจากประสบการณ์จริง

และสุขใจที่ได้เห็นความเสียสละ ความอดทนที่ยิ่งใหญ่ของนักศึกษาแพทย์“

“เป็นสิอ๊อด กูอยากมีส่วนร่วม ถือซะว่าได้อุทิศให้คนที่เสียชีวิตด้วย” เอ๊า คุยไปคุยมา ออกกูซะงั้น

“แม้ว่าเราจะอยู่กับศพมาตลอดชีวิตของการเป็นแพทย์แต่ก็บอกตรงๆว่ามันสะเทือนใจที่สุดครับ” ในช่วงหนึ่งของการคุย เราพูดถึงความรู้สึกต่อการเสียชีวิตของบางราย
“ในการทำงานผมหัวเราะตลอดครับ แต่พี่แอนรู้ดีว่าผมแอบร้องไห้ครับ” พี่แอนที่อาจารย์อ๊อดกล่าวถึงนั้น เธอคืออีกคนที่เป็นแขนขาของทีมนิติเวช ม.อ.

“เพราะมีคนเห็นผมไปแอบร้องไห้ในห้องเตรียมสารละลาย แล้วเข้ามากระซิบบอกผมว่า สู้ๆนะ เห็นแหละไปทำอะไรอยู่ในห้องเตรียมสารละลาย น้ำตาผมมันออกมาเองครับพี่” ใช่ครับ จากเรื่องที่เขาเล่ามา เป็นผมก็คงร้องไห้เหมือนกัน อย่าลืมนะครับ พวกผมก็เป็นคน แม้ถูกฝึกมาอย่างดี แต่บางทีมันก็มีความเปราะบางในบางจุด

“สงสารทุกศพสุดๆ” เราจบการสนทนาเรื่องศพด้วยคำๆนี้ของคุณหมออ๊อด

“พี่แป๊ะต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มแจ้งเลยครับ ผมบอกหมดเปลือกเพราะมันคือความจริงและผมอยากให้มีการสื่อสารออกไปครับ อยากให้มีการสื่อสารออกไปด้วยข้อมูลที่เป็นจริงและผมเชื่อว่าหลายคนเชื่อเราครับ จำนวนศพที่ถูกรายงานออกไปเป็นฐานข้อมูลของสงขลานครินทร์เท่านั้น ดังนั้นศพที่ไม่ได้ถูกนำเข้ามาซึ่งไม่แน่ใจว่ายังมีอีกเท่าไหร่ไม่อยู่ในฐานข้อมูลนี้ครับ“

“และสุดท้ายที่อยากจะบอกอีกอย่างคือการกั้นพื้นที่ไม่ใช่เป็นไปเพื่อการปิดข่าวแต่เป็นการกั้นเพื่อแสดงขอบเขตการทำงานให้ชัด จะได้ไม่ต้องมีคนอื่นเข้ามาเป็นไทยมุงหรือวุ่นวายในสถานที่ทำการครับ ส่วนใครจะแอบถ่ายเอามาได้แล้วแสดงความคิดเห็นอย่างไรก็เรื่องของเขาครับ“

โห..ผมโชคดีขนาดไหนที่ได้คุยกับนิติแพทย์ที่ชื่ออ๊อดคนนี้

เลยเก็บมาเล่าให้ฟังนะครับ

ธนพันธ์ ชูบุญ กราบขอบคุณที่ทำให้พวกเขาได้เจอญาตินะครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน

'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้

#TOAไม่ทิ้งกัน รวมพลัง ‘ทีโอเอ อาสา’ เดินหน้าฟื้นฟูชาวใต้หลังน้ำลด ส่งมอบถุงยังชีพ – สิ่งของบรรเทาทุกข์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้เต็มสูบ

บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีความห่วงใยและเข้าใจถึงความยากลำบากของพี่น้องประชาชนชาวใต้ที่ต้องเผชิญวิกฤตการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่

สส.ศาสตรา สะท้อนปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่ จี้รัฐบาลเร่งแก้ขยะเน่าเหม็นแล้ว เงินเยียวยายังล่าช้า

สส.สงขลา เข้าสภาฯ สะท้อนปัญหาชาวหาดใหญ่ เรียกร้องรัฐบาล เร่งจ่ายเงิน 9,000 บาทให้เร็วเหมือนวันแรก จี้ เก็บขยะเน่าเสีย วอน ออกมาตรการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรม สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว

'บวรศักดิ์' แถลงตั้งอนุกรรมการ 5 คณะ ถอดบทเรียนมหาอุทกภัยหาดใหญ่

"บวรศักดิ์" แถลงตั้ง 5 อนุกรรมการ ถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย แก้ครบวงจร ตั้งแต่พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา ทำระบบให้ใช้ได้ทุกพื้นที่ รายงานผลทุก 2 สัปดาห์ เผยนำทีมกรรมการ ลงดูหน้างานจริง 6 ธ.ค. หวังคนหาดใหญ่นอนหลับ สบายใจ

“น้ำท่วมหาดใหญ่” สสส. ไม่ทอดทิ้ง! ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายฯ เตรียมเปิดโมเดล 3 เฟส ช่วยทันที-ฟื้นบ้าน-สร้างภูมิคุ้มกันภัยพิบัติ

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่