
เปิด 3 แนวคิดพ่อดีเด่นแห่งชาติ 2568 'ชลิต' เผยหัวใจสำคัญในการเลี้ยงดูบุตร เน้นการวางรากฐานทางคุณธรรมให้มั่นคง สอนให้เป็นคนดีที่พัฒนาตัวเองได้เสมอ 'ชวรัตน์' ใช้ 'คุณธรรมนำชีวิต'เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ลูกเติบโตเป็นคนดีและมีคุณภาพต่อสังคม 'พชร' ระบุ การศึกษาคือมรดกล้ำค่าที่สุด การมอบความรัก ความอบอุ่น และการอบรมเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม เพื่อให้บุตรเติบโตเป็นคนดี
5 ธ.ค. 2568 - นางวราภัสร์ พรรณไพรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และความหลากหลายทางสังคม วุฒิสภา เปิดเผยความคืบหน้าในการมอบรางวัล "พ่อดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2568" ซึ่งเตรียมจัดพิธีมอบรางวัลในวันที่ 9 ธันวาคม 2568 นี้ โดยมุ่งเน้นเพื่อเป็นการเผยแพร่ หลักการเป็นพ่อที่ดี ที่สร้างพลเมืองคุณภาพและเป็นแบบอย่างแก่สังคม โดยคณะกรรมการจัดงานฯ มุ่งหวังให้แนวคิดเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจ ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวไทยตามรอยเบื้อง พระยุคลบาทของในหลวง รัชกาลที่ 9
พล.อ.อ. ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี กล่าวว่า หัวใจสำคัญในการเลี้ยงดูบุตรคือ การสร้าง "คนดี" ที่พัฒนาตัวเอง ได้เสมอ โดยการเป็นพ่อที่เน้นการวางรากฐานทางคุณธรรมให้มั่นคง โดยถือว่าความดีเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดที่เด็กควรมี : สำหรับผม บทบาทของความเป็นพ่อคือการวางรากฐานชีวิตให้บุตรหลานเติบโตเป็น ‘คนดี’ ที่มีทั้งความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบต่อสังคม ผมเชื่อว่าความดีเป็นคุณสมบัติสำคัญที่สุดที่เด็กควรมี ผมจึงพยายามปลูกฝังคุณธรรมตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ เช่น การรู้จักขอบคุณ การแบ่งปัน ไปจนถึงเรื่องใหญ่ เช่น ความซื่อสัตย์ การรักษาวินัย และการยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง”
พล.อ.อ ชลิต ได้เน้นย้ำถึงเป้าหมายในการเลี้ยงดูว่าต้องการความดีและความยั่งยืน: “ผมสอนเขาว่าไม่ได้ต้องการให้เขาเป็นคนเก่งที่สุด แต่ต้องการให้เขาเป็น คนดีที่พัฒนาตัวเองได้เสมอ เพราะคนที่รู้จักพัฒนาและปรับปรุงตัวเอง คือคนที่สามารถสร้างอนาคตที่มั่นคงได้ ผมเชื่อว่าสิ่งนี้สำคัญกว่าความสำเร็จชั่วคราวใด ๆ”
“ในเรื่องการเป็นแบบอย่าง ผมพยายามดำเนินชีวิตอย่างตรงไปตรงมา ไม่โกง ไม่เอาเปรียบใคร เพื่อให้ลูกเห็นว่าการเป็นคนดีเริ่มต้นจากพฤติกรรมเล็ก ๆ ที่ทำให้เป็นนิสัยในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ผมให้ความสำคัญกับความรัก ความอบอุ่น และความมั่นคง เราพูดคุยกันเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องปัญหา ความรู้สึก หรือเรื่องราวในแต่ละวัน ผมเปิดพื้นที่ให้ลูก ได้คิด ได้ลอง และได้เรียนรู้จากความผิดพลาด” พล.อ.อ. ชลิต กล่าว
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้ก่อตั้ง บริษัทซิโน – ไท และบิดาของนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการในการเลี้ยงดูบุตร คือ การใช้ “คุณธรรมนำชีวิต” เพราะเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ลูกเติบโตเป็นคนดีและมีคุณภาพต่อสังคม: “สำหรับผมนั้น บทบาทของความเป็นพ่อคือการเป็นทั้งผู้ให้ ผู้ปกป้อง และผู้ชี้นำทางชีวิตแก่บุตรหลาน และการเป็นแบบอย่างที่ดี รวมทั้งได้กล่าวเน้นย้ำถึงหลักการสำคัญในการอบรมเลี้ยงดูบุตรหลาน เพราะผมเชื่อว่าคุณธรรมเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้เด็กเติบโตเป็นคนดีและมีคุณภาพ... ผมจึงพยายามปลูกฝังความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน และรับผิดชอบให้กับลูกผ่าน การปฏิบัติจริง มากกว่าการสอนด้วยคำพูดเพียงอย่างเดียว”
นายชวรัตน์ ยังกล่าวต่ออีกว่า การส่งเสริมให้บุตรมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง: ผมมักบอกลูกเสมอว่า ‘คนที่เก่งกว่าเราในวันนี้ ก็คือเราในวันพรุ่งนี้’ เพื่อให้เขารู้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่ดีที่สุดเริ่มต้นจากตัวเอง และเห็นว่าความสำเร็จเกิดจากความเพียรและความตั้งใจ ไม่ใช่เพียงพรสวรรค์หรือโชคชะตา” ในด้านการเป็นแบบอย่างที่ดี ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของการเป็นผู้นำ
นายชวรัตน์ระบุว่า: “ในชีวิตประจำวัน ผมพยายามทำหน้าที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็น ทั้งการพูดจา การทำงาน และความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง ผมจึงตั้งใจทำทุกอย่างด้วยความจริงใจและโปร่งใส เพื่อให้เขาเห็นว่า ‘การทำดีไม่ต้องให้ใครเห็น แต่ผลของความดีจะปรากฏเสมอ’”
นายพชร ยุติธรรมดำรง อดีตอัยการสูงสุด - กล่าวว่า "การศึกษาคือมรดกล้ำค่าที่สุด" โดยเปิดเผยถึงหลักการสำคัญในการดูแลบุตรสาวทั้ง 3 คน และในบทบาทของความเป็นพ่อ นับตั้งแต่เมื่อผมได้สมรสและมีครอบครัว ผมให้ความสำคัญกับการมอบความรัก ความอบอุ่น และการอบรมเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม เพื่อให้บุตรเติบโตเป็นคนดี สามารถยืนหยัดด้วยตนเอง และเป็นกำลังสำคัญของครอบครัวในอนาคต
นายพชร ยังกล่าวเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการที่ภรรยาของท่านเป็นถึงอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา: “ผมและภรรยาให้ความสำคัญกับการศึกษาของบุตรเป็นอย่างยิ่ง... ผมจึงเชื่อมั่นว่า การศึกษาเป็นมรดกที่ล้ำค่าที่สุด ที่จะติดตัวบุตรไปตลอดชีวิต และเป็นพื้นฐานในการดำรงตนอย่างมั่นคงในภายภาคหน้า”ปัจจุบันบุตรสาวทั้ง 3 คนต่างประสบความสำเร็จอย่างสูงในการศึกษาและสร้างครอบครัวที่มั่นคงแล้ว
นายพชร ทิ้งท้ายถึงผลลัพธ์ที่ส่งผลต่อสังคม: “ผมเห็นว่า สถาบันครอบครัวถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง ครอบครัวถือเป็นจุดเริ่มต้นของสังคม หากเราสร้างครอบครัวได้ดี และเป็นแบบอย่างที่ดีของบุตรหลาน สังคมก็จะเรียบร้อยและน่าอยู่ หากคนไทยมีความคิดเช่นเดียวกันนี้ ความแตกแยกในครอบครัว และความวุ่นวายในสังคมหรือบ้านเมืองของเราก็จะไม่มี หรือมีน้อยที่สุด”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วุฒิสภา เชิดชู 'พ่อดีเด่นแห่งชาติ' ปี 68 รวม 45 คน มอบรางวัล 9 ธ.ค.นี้ที่รัฐสภา
กมธ.พัฒนาสังคม วุฒิสภา คัดเลือก 'พ่อดีเด่นแห่งชาติ' ประจำปี2568 5 ประเภท รวม 45 คน เพื่อน้อมรำลึก ในหลวง ร. 9 และยกย่องเชิดชูเกียรติพ่อผู้มีบทบาทสำคัญต่อสถาบันครอบครัว 'ชวรัตน์-บุญสิน-บวรศักดิ์-ไตรรงค์" ได้รางวัลด้วย พร้อมจัดงานมอบรางวัล 9 ธ.ค.นี้ที่รัฐสภา
'อนุทิน' ยินดีสภาสูงได้ประมุขใหม่
'อนุทิน' ยินดีประธาน-รองประธานวุฒิสภา คนใหม่ ชี้ทุกคนมีความเหมาะสม เชื่อทำงานร่วมกันในฝ่ายนิติบัญญัติได้และส่วนรวมได้ประโยชน์
'อัยการ' แจงยิบ ปมเร่งแต่งตั้งอสส.คนใหม่เร็วกว่าปกติ - แก้วาระการดำรงตำแหน่งประธานก.อ.
อัยการแจงเหตุกอ.เร่งแต่งตั้งอสส.คนใหม่ หวั่นกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ ประมาณส.ค.อาจทำให้ไม่สามารถมีอสส.ได้ทัน จึงต้องดำเนินการล่วงหน้า ส่วนแก้วาระประธานก.อ.เริ่มตั้งแต่สมัย'วงศ์สกุล'เป็นอสส.'อรรถพล'เป็นประธานกอ. ครม.เห็นชอบในหลักการ อัยการทั่วประเทศ กว่า 90 % ก็เห็นพ้องด้วย
‘นารี’อสส.หญิงคนแรก กอ.ชงวุฒิสภาเห็นชอบ
"นารี ตัณฑเสถียร" ผงาดนั่งอัยการสูงสุดหญิงคนแรกของประเทศ
กอ.มติเอกฉันท์ ให้ออก‘เนตร’ ผิดวินัยร้ายแรง
ก.อ.มีมติเอกฉันท์ให้ออก “เนตร นาคสุข” ใช้ดุลพินิจไม่รอบคอบสั่งไม่ฟ้อง “บอส” ขับรถชน ตร.ตาย
ให้ออกจากราชการ! 'ก.อ.' เชือด 'เนตร นาคสุข' ใช้ดุลพินิจไม่รอบคอบ สั่งไม่ฟ้องคดีบอส
นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ. )เป็นประธาน การประชุม ก.อ. โดยในที่ประชุมได้มีลงมติ ผลสอบคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหา คดีขับรถชน


