รัฐบาลฟิลิปปินส์เตรียมวางกำลังตำรวจปราบจลาจลหลายร้อยนายที่เกาะท่องเที่ยวตากอากาศ "โบราเคย์" เพื่อคุมการเคลื่อนย้ายนักท่องเที่ยวและป้องปรามการประท้วงที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่พอใจคำสั่งปิดเกาะนาน 6 เดือน

นักท่องเที่ยวพักผ่อนบนชายหาดในเมืองมาเลย์ของเกาะโบราเคย์ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2561 / AFP

    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันอังคารที่ 17 เมษายน 2561 ว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ได้วางแผนเตรียมความพร้อมสำหรับการกันนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวฟิลิปปินส์ออกจากเกาะแห่งนี้นับตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน เพื่อให้ทางการได้เริ่มการทำงานกำจัดสิ่งปฏิกูลและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ผิดกฎหมายบนเกาะท่องเที่ยวชื่อดังของโลกแห่งนี้

    ดูเตร์เตเคยกล่าวไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า เกาะเล็กๆ ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ที่เคยมีหาดทรายขาวสะอาด กลายเป็นบ่อปฏิกูล และขู่จะปิดเกาะนี้ โดยกล่าวหาธุรกิจบนเกาะโบราเคย์ว่าทิ้งน้ำเสียตรงลงสู่น้ำทะเลสีเทอร์คอยส์โดยไม่มีการบำบัด รัฐบาลของเขายืนกรานด้วยว่า รัฐบาลมีสิทธิตามกฎหมายที่จะวางกำลังตำรวจและห้ามนักท่องเที่ยวเข้าเกาะนี้

    เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซีซาร์ บียัก ผู้กำกับการตำรวจในภูมิภาคนั้น ประกาศกลางเวทีสาธารณะที่จัดขึ้นบนเกาะและออกอากาศทางโทรทัศน์ทั่วประเทศว่า ทางการจะวางกำลังตำรวจมากกว่า 600 นาย ซึ่งรวมถึงตำรวจหน่วยสลายฝูงชน 138 นาย เพื่อรับมือกับช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ ที่มักเกิดความสับสน ไม่แน่นอนและขวัญเสีย

    นายตำรวจผู้นี้เสริมด้วยว่า มาตรการที่เจ้าหน้าที่จะใช้กับชาวบ้านบนเกาะนี้คือ ทุกคนจะต้องทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ ซึ่งเขาคาดว่าน่าจะได้รับภายใน 3 วันก่อนการปิดเกาะ และจะไม่ได้รับอนุญาตให้แล่นเรือหรือว่ายน้ำตอนกลางคืน ส่วนการเดินทางเข้าเกาะนี้จะถูกจำกัดให้เข้าได้ทางท่าเรือขนาดเล็กๆ เพียงแห่งเดียว

    โบราเคย์มีพื้นที่ประมาณ 6,175 ไร่ อยู่ห่างจากกรุงมะนิลาทางทิศใต้ 300 กิโลเมตร นักธุรกิจบนเกาะนี้กล่าวเตือนว่า การปิดเกาะอย่างปุบปับอาจทำให้ธุรกิจหลายแห่งล้มละลาย และแรงงานจำนวนมากต้องตกงาน เกาะนี้มีแรงงานในภาคการโรงแรม, ร้านอาหารและการท่องเที่ยวถึง 17,000 คน ไม่รวมแรงงานก่อสร้างอีก 11,000 คน ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเกาะนี้ 2 ล้านคน สร้างรายได้มากว่า 1 พันล้านดอลลาร์.