ผู้พิพากษาศาลซานฟรานซิสโกของสหรัฐขัดขวางรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ จากการยกเลิกโครงการสมัยรัฐบาลบารัค โอบามา ที่คุ้มครองสถานะตามกฎหมายของผู้อพยพรุ่นเยาว์ที่ติดตามพ่อแม่เข้าสหรัฐอย่างผิดกฎหมายตอนเป็นเด็ก

แฟ้มภาพ ผู้ได้รับสิทธิในโครงการดาการ่วมการชุมนุมสนับสนุนโครงการนี้ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2560 ภาพ AFP

    ผู้พิพากษาวิลเลียม อัลซัพ จากศาลซานฟรานซิสโก มีคำตัดสินความยาว 49 หน้ากระดาษเมื่อวันอังคารที่ 9 มกราคม 2561 สั่งให้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ฟื้นโครงการผ่อนผันการดำเนินการสำหรับผู้มาถึงรุ่นเยาว์ (ดากา) อีกครั้ง

    ผู้พิพากษาอัลซัพกล่าวว่า ทัศนะของกระทรวงยุติธรรมที่เห็นว่าโครงการนี้ผิดกฎหมายนั้น ยืนอยู่บนพื้นฐานของสมมติฐานทางกฎหมายที่มีข้อบกพร่อง

    คำสั่งของผู้พิพากษาท่านนี้กล่าวด้วยว่า เว้นเสียแต่คำสั่งของท่านจะถูกล้มล้างโดยศาลอุทธรณ์ ผู้ที่เคยอยู่ในโครงการดากาจะมีสิทธิตามกฎหมายที่จะยื่นใบสมัครใหม่ และรัฐบาลจักต้องเผยแพร่ประกาศต่อสาธารณะตามเหตุอันควร ว่าโครงการนี้กลับมามีผลบังคับอีกครั้ง

    กลุ่มผู้อพยพรุ่นเยาว์ที่ติดสอยห้อยตามพ่อแม่เข้าเมืองสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย หรือที่เรียกกันว่า "ดรีมเมอร์" เกือบ 700,000 คน จะได้รับการคุ้มครองจากการถูกเนรเทศและสามารถทำงานในสหรัฐได้อย่างถูกกฎหมาย ตามนโยบายที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโอบามาดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2560

    ด้านเดวิน เอ็ม. โอมัลลีย์ โฆษกกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า คำสั่งของศาลวันนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนว่าด้วยข้อเท็จจริงของกระทรวงยุติธรรม และกระทรวงจะยังคงปกป้องจุดยืนนี้ต่อไป

    ทรัมป์เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนกันยายนว่า เขากำลังจะยกเลิกโครงการดากานี้ แต่เขาชะลอคำสั่งไว้ก่อน ระหว่างรอให้สภาคองเกรสร่างกฎหมายในระยะเวลา 6 เดือน หรือจนถึงเดือนมีนาคม.