ระเบิดพลีชีพหญิง คร่าชีวิต 4 ราย ใกล้สถาบันจีนในปากีสถาน

หญิงรายหนึ่งจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในปากีสถาน จุดระเบิดฆ่าตัวตายใกล้รถมินิบัสที่มีเจ้าหน้าที่จากสถาบันขงจื๊อในสังกัดมหาวิทยาลัยการาจีโดยสารอยู่ ทำให้มีผู้เสียทั้งหมด 4 ราย และ 3 รายในนั้นเป็นชาวจีน

ตำรวจเดินตรวจสถานที่รอบๆ รถมินิบัสที่เสียหายจากเหตุระเบิดพลีชีพใกล้กับสถาบันขงจื๊อในสังกัดมหาวิทยาลัยการาจี เมื่อวันที่ 26 เมษายน โดยผู้ก่อเหตุเป็นนักรบหญิงจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในปากีสถาน (ภาพโดย Rizwan TABASSUM / AFP)

เอเอฟพีรายงานเหตุระเบิดพลีชีพใกล้รถมินิบัสคันหนึ่ง ในเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน เมื่อวันอังคารที่ 26 เมษายน 2565 กล่าวว่า หญิงรายหนึ่งจุดระเบิดฆ่าตัวตายใกล้รถมินิบัสของสถาบันขงจื๊อในสังกัดมหาวิทยาลัยการาจี ที่มีผู้โดยสารเป็นเจ้าหน้าที่จากสถาบันดังกล่าว เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย

หญิงคนดังกล่าว ทราบในภายหลังว่าเป็นนักรบหญิงของกองทัพปลดปล่อยบาลูจ (บีแอลเอ) ซึ่งเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในปากีสถาน ที่ได้ออกมายอมรับว่าระเบิดพลีชีพในการาจีครั้งนี้เป็นฝีมือของพวกตน

ตำรวจการาจียืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 4 รายจากการโจมตีดังกล่าว เป็นคนขับมินิบัสและเจ้าหน้าที่ 3 รายจากสถาบันขงจื๊อ ซึ่งเป็นโครงการด้านวัฒนธรรมและการศึกษาที่จีนดำเนินการในมหาวิทยาลัยทั่วโลก

เชห์บาซ ชาริฟ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของปากีสถาน ประณามการโจมตีดังกล่าวในทันทีผ่านทางทวิตเตอร์

“ข้าพเจ้าขอแสดงเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียชีวิตอันมีค่ารวมถึงเพื่อนชาวจีนของเราจากการจู่โจมที่เลวร้ายในการาจีในวันนี้” เขากล่าว

ชาริฟเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังจากที่อิมรอน ข่านถูกขับออกจากตำแหน่งโดยคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจเมื่อต้นเดือนนี้ และการแก้ปัญหาการฟื้นคืนชีพของกลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนจะเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา

เป้าหมายหลักของการโจมตีโดยกองทัพปลดปล่อยบาลูจ มักจะเป็นคนจีน เพราะความไม่พอใจที่จีนเข้ามามีบทบาทในปากีสถานจากการสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งเข็มขัด หนึ่งเส้นทาง - Belt and Road Initiative (บีอาร์ไอ) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาทั่วโลกที่รัฐบาลจีนเริ่มใช้ในปี 2556 ในการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานในประเทศและต่างประเทศเกือบ 70 แห่ง

ความตึงเครียดได้ปะทุขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในภูมิภาคบาลูจิสถาน หลังจากการลงทุนของจีนหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก เพื่อยกระดับการเชื่อมโยงด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการมูลค่า 54,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.85 ล้านล้านบาท) ที่รู้จักกันในชื่อระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน โดยทั้งสองประเทศระมัดระวังภัยคุกคามด้านความปลอดภัยสำหรับโครงการดังกล่าวอยู่เสมอ

กลุ่มแบ่งแยกดินแดนมีความขุ่นเคืองมาช้านานต่อโครงการเหมืองแร่และพลังงานในภูมิภาคแถบนี้ ซึ่งมีแต่จีนที่กอบโกยผลประโชน์มหาศาลกลับไป โดยที่ชาวปากีสถานไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย และกำลังจะถูกผลักดันออกจากที่ดินของตนเอง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ช่างภาพขอโทษ หลัง 'ใบเฟิร์น' แฉทริป #ปากีไม่ตรงปก ยอมรับละเลยหน้าที่

หลังจากนักแสดงสาว ใบเฟิร์น-อัญชสา มงคลสมัย โพสต์แฉพฤติกรรมช่างภาพที่รับหน้าที่ถ่ายภาพให้ลูกทัวร์แบบ Private photo trip แต่กลับไม่ค่อยถ่ายลูกทัวร์ เพราะมัวแต่ถ่ายภาพงานส่วนตัวของตนเอง (ถ่ายรูปรีวิวสินค้า) และถ่ายรูปให้กันเองอยู่ 2คน

เสียความรู้สึก! 'ใบเฟิร์น' โพสต์จองทัวร์แต่ไม่ตรงปก ช่างภาพหัวหมอถ่ายแต่งานตัวเอง

จองทัวร์ไปปากีสถานแบบ Private photo trip แต่นักแสดงสาว ใบเฟิร์น-อัญชสา มงคลสมัย กลับต้องมาเสียความรู้สึกเมื่อรูปแบบทัวร์ไม่ตรงปกกลายเป็นการ Join trip แถมช่างภาพที่รับหน้าที่ถ่ายภาพให้ลูกทัวร์กลับสนใจแต่การถ่ายภาพงานส่วนตัวของตนเองจนลูกทัวร์บางคนได้ภาพแค่เพียง 2ภาพเท่านั้น โดยสาวใบเฟิร์นได้โพสต์เหตุการณ์ทั้งหมดลงในเพจ "Bivoyage - ใบบันทึกเดินทาง"