การเสียชีวิตของนักศึกษาหญิงชาวเม็กซิกันวัย 18 ปี ก่อให้เกิดความโกรธแค้นพุ่งถาโถมเข้าใส่เจ้าหน้าที่ทางการที่ถูกกล่าวหาว่าเพิกเฉยต่อคดีฆาตกรรมและการหายตัวไปของผู้หญิงหลายพันคนในแต่ละปี

ผู้คนถือป้ายในขบวนประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ เดบานี เอสโคบาร์ นักศึกษาหญิงชาวเม็กซิกันวัย 18 ปี ซึ่งหายตัวไปเมื่อวันที่ 9 เมษายน ก่อนถูกพบเป็นศพในถังเก็บน้ำของโมเทลแห่งหนึ่ง ในเมืองมอนเตร์เรย์ รัฐนวยโวเลออง เมื่อวันที่ 21 เมษายน (Photo by Julio Cesar AGUILAR / AFP)
เอเอฟพีรายงานเหตุประชาชนเม็กซิโก เดินขบวนประท้วงเรียกร้องความปลอดภัยในชีวิต เมื่อวันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2565 กล่าวว่า เดบานี เอสโคบาร์ นักศึกษาหญิงวัย 18 ปี จากรัฐนวยโวเลออง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเม็กซิโก ได้หายตัวไปในแถบชานเมืองมอนเตร์เรย์ ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน ก่อนพบเป็นศพในถังเก็บน้ำของโมเทลแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 21 เมษายน
เอสโคบาร์ หายไปหลังกลับจากงานปาร์ตี้กับเพื่อนสาว 2 คน มีผู้พบเห็นว่าเธอโดยสารรถยนต์รับจ้างคันหนึ่งออกจากงานไป และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลย จนวันที่ 21 เมษายน พนักงานของโมเทลแห่งหนึ่งชื่อนวยว่า คาสตีญา ซึ่งตั้งอยู่ละแวกเส้นทางกลับบ้านของเอสโคบาร์ ได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากถังเก็บน้ำที่ไม่ได้ใช้งาน ก่อนเปิดออกมาแล้วพบศพเธออยู่ภายในนั้น และได้รับการชันสูตรว่าเสียชีวิตเพราะถูกทำร้ายร่างกาย
ดูจากรูปการณ์ กรณีนี้คาดว่าจะเป็นคดีฆาตกรรม โดยผู้ต้องสงสัยคือคนขับรถยนต์รับจ้างคันดังกล่าว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการกลับไม่ได้ดำเนินการสอบสวนใดๆ จนสร้างความแปลกใจและไม่พอใจต่อสาธารณชนทั้งในเม็กซิโก ลามไปจนถึงสหรัฐอเมริกา
คดีอยู่ในความสนใจของชาวเม็กซิโก และตั้งแต่วันที่พบศพเอสโคบาร์ ผู้คนเริ่มออกมาเดินประท้วง เพื่อตำหนิการทำงานอันหละหลวมของเจ้าหน้าที่ และเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเอสโคบาร์ โดยเฉพาะในวันที่จัดพิธีศพให้เอสโคบาร์ในวันที่ 24 เมษายน ประชาชนจำนวนมากโดยเฉพาะผู้หญิง พากันออกมาเดินประท้วงเรียกร้องการดูแลความปลอดภัยของผู้หญิงเป็นพิเศษ เนื่องจากเม็กซิโกมีคดีอาชญากรรมผู้หญิงในอัตราค่อนข้างสูง
การเสียชีวิตของเดบานี เอสโคบาร์ ได้สร้างแรงกระเพื่อมใหญ่ในสังคมของประเทศที่มีกรณีคนสูญหายเกือบ 100,000 คน และการฆาตกรรมส่วนใหญ่ล้วนไม่ได้รับความสนใจอย่างจริงจังจากเจ้าหน้าที่ทางการหรือแม้กระทั่งสื่อมวลชน
จากตัวเลขของทางการในปีที่แล้ว เม็กซิโกเกิดคดีฆาตกรรม 33,308 คดีทั่วประเทศ และประมาณ 10% ของเหยื่อเป็นผู้หญิง ขณะที่กรณีคนสูญหายที่เป็นผู้หญิงของทั้งประเทศอยู่ที่ 2,800 คน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พบศพเฒ่าอเมริกัน ถุงดำคลุมหัว มือไพล่หลังใส่กุญแจ ดับปริศนาในโรงแรม
ทิ้งปมปริศนา! พบศพพ่อเฒ่าอเมริกัน ถูกคลุมหัวใส่กุญแจมือ คาห้องพักโรงแรมหรูย่านนาจอมเทียน
ผู้คนนับหมื่นประท้วงต่อต้านคอร์รัปชัน ในบัลแกเรีย
เมื่อวันจันทร์ ประชาชนหลายหมื่นคนออกมาเดินขบวนประท้วงรัฐบาลต่อต้านการทุจริตในบัลแกเรีย การเดินขบวนที่จัตุรัสรัฐสภาในกรุงโซเฟีย เมืองหลวงของบัลแกเรีย นับเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี ผู้ประท้วงพากันตะโกนว่า “มาเฟีย!” และ “ลาออก!” พร้อมเรียกร้องให้เปลี่ยนรัฐบาล
'จตุพร' ปลุกม็อบต้าน 'ทรัมป์-อันวาร์' 22 พ.ย. ฟาดฝ่ายค้านหัวหด
'คณะรวมพลัง' นัดสำแดงพลังเอกราชชาติ ม็อบหน้าสถานทูต 22 พ.ย. ต้าน 'ทรัมป์-อันวาร์' รุมข่มเหงไทย ฟาดฝ่ายค้านหัวหดกลัวสหรัฐ
‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’ เซ็ง! ทหารไทยขาขาด แต่รัฐบาลแค่ประท้วงทางการทูต
นันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อคว
'บิ๊กเล็ก' เบรกด่วน! ยังไม่ส่งตัวเชลยศึกเขมร 'มทภ.2' คาดระเบิดใหม่
'บิ๊กเล็ก' สั่งเลื่อนส่งมอบตัวเชลยศึก พร้อมทำหนังสือประท้วง สั่งแม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจสอบระเบิดใหม่หรือเก่า ส่อของใหม่ ฮึ่มหากพบเจตนา ต้องดำเนินการมากกว่านี้แน่


