เวียนนาคว้าที่ 1 จากการจัดอันดับ "เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก"

กรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย กลับมาคว้าตำแหน่งเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกได้อีกครั้ง ตามรายงานประจำปีของดิอีโคโนมิสต์ (The Economist) นิตยสารดิจิทัลระดับโลกฉบับตีพิมพ์ล่าสุด

แฟ้มภาพ รถม้าแล่นผ่านอาสนวิหารเซนต์สตีเฟนในกรุงเวียนนา เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 ซึ่งเป็นปีล่าสุดที่เมืองหลวงของออสเตรียแห่งนี้ครองอันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ตามรายงานประจำปีของดิอีโคโนมิสต์ นิตยสารดิจิทัลระดับโลก (Photo by JOE KLAMAR / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน 2565 กล่าวว่า การจัดอันดับ “เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก” ประจำปี 2565 ของดิอีโคโนมิสต์ (The Economist) นิตยสารดิจิทัลระดับโลกฉบับตีพิมพ์ล่าสุดที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดี กรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย กลับมาครองอันดับ 1 ได้อีกครั้ง หลังเคยได้อันดับสูงสุดในหัวข้อเดียวกันเมื่อปี 2561 และ 2562

การจัดอันดับในปีนี้ไม่ได้นำกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนเข้ามาร่วมจัดอันดับด้วย เพราะมีการสู้รบในประเทศตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ เช่นเดียวกับกรุงมอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซีย ที่ถูกตัดออกเพราะการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก

เวียนนาคว้าตำแหน่งสูงสุดกลับคืนมาจากโอ๊คแลนด์ได้ในปีนี้ ขณะที่เจ้าของตำแหน่งเดิมร่วงลงไปอยู่อันดับที่ 34 เนื่องจากมาตรการจำกัดการระบาดของโคโรนาไวรัสที่ค่อนข้างเข้มงวด ตามรายงานของแผนกวิจัยและวิเคราะห์ของดิอีโคโนมิสต์

“เวียนนาอยู่ในอันดับที่ 12 จากการจัดอันดับเมื่อตอนต้นปี 2565 เนื่องจากการปิดทำการของพิพิธภัณฑ์และร้านอาหารซึ่งเป็นจุดขายสำคัญของเมือง ก่อนจะกลับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 หลังจากทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ” รายงานของดิอีโคโนมิสต์ระบุ

ปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณา คือ "ความมั่นคงและโครงสร้างพื้นฐานที่ดี, เสน่ห์ของเมืองและอัธยาศัยของชาวเมือง, การสนับสนุนด้านการดูแลสุขภาพที่ดี และโอกาสที่เปิดกว้างทางวัฒนธรรมและความบันเทิง"

ผลการจัดอันดับล่าสุด มีเมืองในทวีปยุโรป 6 เมืองติดอยู่ใน 10 อันดับแรก ได้แก่ เวียนนา (ออสเตรีย) ในอันดับ 1, โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก) อันดับ 2, ซูริก (สวิตเซอร์แลนด์) อันดับ 3, เจนีวา (สวิตเซอร์แลนด์) อันดับ 6, แฟรงก์เฟิร์ต (เยอรมนี) อันดับ 7 และอัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์) อันดับ 9

แคนาดาเป็นประเทศที่มาแรงในการจัดอันดับล่าสุด เพราะมีถึง 3 เมืองที่ติด 10 อันดับแรก ได้แก่ คาลการี อันดับ 3 ร่วม, แวนคูเวอร์ อันดับ 5, และโตรอนโต อันดับ 8

ส่วนอันดับ 10 เป็นการครองอันดับร่วมกันระหว่าง โอซาก้า (ญี่ปุ่น) และเมลเบิร์น (ออสเตรเลีย)

ขณะที่อันดับของเมืองที่น่าสนใจอื่นๆได้แก่ ปารีส (ฝรั่งเศส) อันดับ 19, มอนทรีออล (แคนาดา) อันดับ 23,

บรัสเซลส์ (เบลเยียม) อันดับ 24, ลอนดอน (สหราชอาณาจักร) อันดับ 33, บาร์เซโลนา (สเปน) อันดับ 35, มาดริด (สเปน) อันดับ 43, มิลาน (อิตาลี) อันดับ 49, นิวยอร์ก (สหรัฐอเมริกา) อันดับ 51 และปักกิ่ง (จีน) อันดับ 71

ขณะที่ ดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศซีเรียที่ได้รับความเสียหายจากการทำสงคราม คว้าตำแหน่งเมืองน่าอยู่น้อยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับล่าสุด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ก้อง'บิดจบอันดับ5 ที่เรดบลู ริงออสเตรีย บวกแต้ม'โมโต2'เพิ่มตามเป้า

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” บิดทะยานคว้าท็อป 5 ในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 สนามที่ 10 รายการ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ บวกแต้มได้ตามเป้า ที่ เรดบูล ริง ประเทศออสเตรีย ขณะ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ดาวรุ่งชาวไทยจาก “ฮอนด้า ทีม เอเชีย” ขยับผลงานอย่างต่อเนื่อง ไล่แซงคู่แข่งบิดคว้าอันดับ 23 ในการลงบิดด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดของ โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

'ก๊องส์'บุก'ออสเตรีย' ล่าโพเดียม 2 ศึกชิงแชมป์ดาวรุ่ง 'จูเนียร์ จีพี-รุกกีส์ คัพ'

"ก๊องส์" ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจากโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" เตรียมเดินหน้า ลุยศึกนักบิดดาวรุ่งระดับโลก 2 รายการ อย่าง “เอฟไอเอ็ม จูเนียร์ จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ” ภายใต้สังกัด "ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์" ด้วยรถหมายเลข 33 และ “เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ” ด้วยรถหมายเลข 5 ในครึ่งฤดูกาลหลัง ประกาศนำประสบการณ์ที่ผ่านมาในครึ่งฤดูกาลแรกมาพัฒนาและสร้างผลงานเพื่อขอบคุณทุกกำลังใจจากแฟนชาวไทย หลังสร้างประวัติศาสตร์เป็นคนไทยคนแรกที่คว้าชัยชนะมาครองได้จากรายการ “เอฟไอเอ็ม จูเนียร์ จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ”