การเดินทางเยือนไต้หวันของแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สร้างความขุ่นเคืองหนักให้จีนแผ่นดินใหญ่ จนต้องแสดงศักยภาพทางทหารบริเวณช่องแคบไต้หวัน โดยไต้หวันเองไม่ได้หวั่นเกรงแต่อย่างใดแม้จีนจะเล็งซ้อมรบเพิ่มเติมใกล้เส้นแบ่งแยกดินแดน ขณะที่เพโลซีเดินทางออกจากไต้หวันแล้ว และกำลังมุ่งหน้าสู่เกาหลีใต้ ก่อนจบภารกิจทัวร์เอเชียที่ญี่ปุ่น

แฟ้มภาพ เครื่องบินขับไล่ SU-35 ของจีน (Photo by JOHANNES EISELE / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 3 สิงหาคม 2565 กล่าวว่า แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวันในฐานะชาติพันธมิตรที่มีพันธสัญญาต่อกันด้านประชาธิปไตยและความมั่นคงในภูมิภาค ซึ่งการเหยียบแผ่นดินในอาณาเขตของจีนเหมือนเป็นการยั่วยุและสร้างความโกรธเคืองอย่างหนักให้จีนจนต้องส่งกำลังทหารออกมาซ้อมรบในทะเลนอกชายฝั่งไต้หวัน เพื่อเป็นการแสดงแสนยานุภาพตามความจำเป็น และเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการในการปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเด็ดเดี่ยว
ไต้หวันเองไม่ได้แสดงท่าทีหวั่นเกรงต่อการกระทำเช่นนั้นแต่อย่างใด โดยประธานาธิบดีไช่ อิง เหวิน กล่าวว่า ไต้หวันและประชากรทั้ง 23 ล้านคน ไม่หวาดกลัวการคุกคามของจีน และจะยังคงเดินหน้ารักษาประชาธิปไตยต่อไปในดินแดนแห่งนี้ พร้อมขอบคุณเพโลซีและสหรัฐอเมริกา ที่แสดงการสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อไต้หวันในช่วงเวลาวิกฤตินี้
จีนถือว่าไต้หวันซึ่งปกครองตนเองในระบอบประชาธิปไตย เป็นอาณาเขตของตน และให้คำมั่นว่าจะยึดเกาะไต้หวันคืนมาให้ได้วันใดวันหนึ่ง หากจำเป็น ขณะที่จีนเองก็พยายามแยกไต้หวันออกจากการมีตัวตนบนเวทีประชาคมโลก อีกทั้งยังต่อต้านประเทศที่มีการปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับไต้หวัน เสมือนหนึ่งประเทศที่แบ่งแยกออกจากจีน
ทางด้านแนนซี เพโลซี และคณะผู้แทนของเธอ เดินทางออกจากไต้หวันแล้วในเย็นวันพุธ เพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นจุดแวะต่อไปของเธอในภารกิจทัวร์เอเชีย ก่อนจะเดินทางต่อไปยังญี่ปุ่นหลังจากนั้น
รัฐบาลปักกิ่งเรียกตัวนิโคลัส เบิร์นส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ มาเพื่อตำหนิการเยือนไต้หวันของเพโลซี ขณะที่กองทัพของจีนประกาศว่าอยู่ในภาวะพร้อมปฏิบัติการและจะทำการตอบโต้ทางการทหาร อันเนื่องมาจากการเยือนดังกล่าว โดยใช้ข้ออ้างการซ้อมรบในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นแนวเดินเรือสากลที่สำคัญ
ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ กล่าวเมื่อวันพุธว่า พวกเขากังวลต่อการที่จีนซ้อมรบในน่านน้ำดังกล่าว ขณะที่เกาหลีใต้เรียกร้องให้มีการเจรจา เพื่อคงไว้ซึ่งสันติภาพในภูมิภาค
รัฐบาลปักกิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อไต้หวันเมื่อวันพุธ ด้วยการประกาศจำกัดการนำเข้าผลไม้และปลาจากไต้หวัน โดยอ้างว่าตรวจพบสารกำจัดศัตรูพืชตกค้าง รวมถึงโคโรนาไวรัสบนอาหารเหล่านั้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขำไม่ออก! อดีต รมว.กต. โวรัฐบาลอิ๊งค์เจรจาสหรัฐ-จีน กดดันกัมพูชาเคารพข้อตกลงสันติภาพได้สำเร็จ
"มาริษ" แนะดึงจีนร่วมกดดันกัมพูชาให้เคารพข้อตกลง-รักษาสมดุลมหาอำนาจ-สื่อสารสหรัฐฯ โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง
กระแสชื่นชม สมเด็จพระราชินี จากชาวจีนสะท้อนอะไร
ความคิดเห็นของชาวจีนจำนวนมากพูดตรง ๆ เลยว่า “งดงาม สง่างาม มีความสูงศักดิ์” และ “ดูจริงใจ ไม่ใช่การแสดง”
ไทยหวังพึ่งจีนได้หรือไม่ ในกรณีถูกสหรัฐฯกดดัน 'เอ็ดดี้' มีคำตอบ
ไทยสามารถหวังพึ่งจีนในมิติของการสนับสนุนทางการทูตและเศรษฐกิจเพื่อคานอำนาจได้ แต่ไม่สามารถคาดหวังความช่วยเหลือทางทหารโดยตรงในปัญหาชายแดนกับกัมพูชา


