สหรัฐอเมริกาตกลงขายอาวุธมูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์แก่ไต้หวัน โดยให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมการป้องกันตัวเองของเกาะแห่งนี้ต่อไป ทำจีนเดือดและขู่ตอบโต้

แฟ้มภาพ ขีปนาวุธต่อต้านเรือ Harpoon AGM-84 จำนวน 2 ลูก และเครื่องบินขับไล่ติดอาวุธ F-16V ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ถูกนำออกมาใช้ในการฝึกซ้อมทางทหารที่ฐานทัพอากาศฮวาเหลียนของไต้หวัน เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม (Photo by Sam Yeh / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2565 กล่าวว่า สหรัฐอเมริกาตกลงขายอาวุธมูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 39,000 ล้านบาท) ให้กับไต้หวันเมื่อวันศุกร์ โดยในแพ็คเกจอาวุธที่ซื้อขายกันมีทั้งขีปนาวุธทางอากาศและทางน้ำรุ่นใหม่ราว 200 ลูก, ระบบปฎิบัติการและติดตั้ง, ระบบเตือนภัยการรุกล้ำ รวมถึงการบำรุงรักษา
การซื้อขายดังกล่าวเกิดขึ้น 1 เดือนหลังจากแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯเยือนไต้หวัน และกระตุ้นให้จีนแผ่นดินใหญ่เปิดตัวการซ้อมรบหลายครั้งรอบเกาะไต้หวันเพื่อแสดงแสนยานุภาพ
จาง ตุนหาน โฆษกสำนักงานประธานาธิบดีไต้หวัน ออกแถลงการณ์ขอบคุณสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนด้านความมั่นคงและการป้องกันตัวเองของไต้หวันอย่างต่อเนื่อง
"การซื้อขายอาวุธครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ทหารของเราต่อสู้ในสถานการณ์ปะทะจริงในพื้นที่สีเทาได้ แต่ยังเพิ่มความสามารถในการเตือนล่วงหน้าหากถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยไกล” จางกล่าว
จีนแผ่นดินใหญ่ถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของของตนมาตลอด และเรียกร้องให้สหรัฐฯ เพิกถอนการขายอาวุธในทันที
หลิว เผิงหยู โฆษกประจำสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันกล่าวว่า การอนุมัติขายอาวุธให้ไต้หวันเปรียบเสมือนการสนับสนุนให้เกิดการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ รวมถึงสันติภาพในภูมิภาค และจีนจะใช้มาตรการตอบโต้ตามกฎหมาย
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งอนุมัติการขายอาวุธดังกล่าว แถลงว่า อาวุธเหล่านี้จำเป็นสำหรับความมั่นคงของไต้หวัน และเน้นย้ำว่าสหรัฐฯ ยังคงยอมรับแค่เพียงประเทศจีนเท่านั้น ไม่ใช่ไต้หวัน
"สหรัฐฯขอเรียกร้องให้จีนแผ่นดินใหญ่ยุติแรงกดดันทางการทหาร, ทางการทูต และทางเศรษฐกิจต่อไต้หวัน และหันมาใช้การเจรจาอย่างจริงใจกับไต้หวัน ซึ่งสหรัฐฯ จะยังคงสนับสนุนการแก้ไขปัญหาในภูมิภาคนี้โดยสันติ ให้สอดคล้องกับความปรารถนาและผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนในไต้หวันต่อไป” โฆษกสหรัฐฯระบุในถ้อยแถลง
อนึ่ง กระบวนการขายอาวุธของสหรัฐฯต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาเสียก่อน ถึงจะทำการขายให้ประเทศใดๆได้ และการอนุมัติขายให้ไต้หวันในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าทุกฝ่ายในสหรัฐฯให้การสนับสนุนไต้หวันเป็นอย่างดี.
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2565 กล่าวว่า สหรัฐอเมริกาตกลงขายอาวุธมูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 39,000 ล้านบาท) ให้กับไต้หวันเมื่อวันศุกร์ โดยในแพ็คเกจอาวุธที่ซื้อขายกันมีทั้งขีปนาวุธทางอากาศและทางน้ำรุ่นใหม่ราว 200 ลูก, ระบบปฎิบัติการและติดตั้ง, ระบบเตือนภัยการรุกล้ำ รวมถึงการบำรุงรักษา
การซื้อขายดังกล่าวเกิดขึ้น 1 เดือนหลังจากแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯเยือนไต้หวัน และกระตุ้นให้จีนแผ่นดินใหญ่เปิดตัวการซ้อมรบหลายครั้งรอบเกาะไต้หวันเพื่อแสดงแสนยานุภาพ
จาง ตุนหาน โฆษกสำนักงานประธานาธิบดีไต้หวัน ออกแถลงการณ์ขอบคุณสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนด้านความมั่นคงและการป้องกันตัวเองของไต้หวันอย่างต่อเนื่อง
"การซื้อขายอาวุธครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ทหารของเราต่อสู้ในสถานการณ์ปะทะจริงในพื้นที่สีเทาได้ แต่ยังเพิ่มความสามารถในการเตือนล่วงหน้าหากถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยไกล” จางกล่าว
จีนแผ่นดินใหญ่ถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของของตนมาตลอด และเรียกร้องให้สหรัฐฯ เพิกถอนการขายอาวุธในทันที
หลิว เผิงหยู โฆษกประจำสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันกล่าวว่า การอนุมัติขายอาวุธให้ไต้หวันเปรียบเสมือนการสนับสนุนให้เกิดการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ รวมถึงสันติภาพในภูมิภาค และจีนจะใช้มาตรการตอบโต้ตามกฎหมาย
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งอนุมัติการขายอาวุธดังกล่าว แถลงว่า อาวุธเหล่านี้จำเป็นสำหรับความมั่นคงของไต้หวัน และเน้นย้ำว่าสหรัฐฯ ยังคงยอมรับแค่เพียงประเทศจีนเท่านั้น ไม่ใช่ไต้หวัน
"สหรัฐฯขอเรียกร้องให้จีนแผ่นดินใหญ่ยุติแรงกดดันทางการทหาร, ทางการทูต และทางเศรษฐกิจต่อไต้หวัน และหันมาใช้การเจรจาอย่างจริงใจกับไต้หวัน ซึ่งสหรัฐฯ จะยังคงสนับสนุนการแก้ไขปัญหาในภูมิภาคนี้โดยสันติ ให้สอดคล้องกับความปรารถนาและผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนในไต้หวันต่อไป” โฆษกสหรัฐฯระบุในถ้อยแถลง
อนึ่ง กระบวนการขายอาวุธของสหรัฐฯต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาเสียก่อน ถึงจะทำการขายให้ประเทศใดๆได้ และการอนุมัติขายให้ไต้หวันในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าทุกฝ่ายในสหรัฐฯให้การสนับสนุนไต้หวันเป็นอย่างดี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กระจ่าง! อัยการเปิดไทม์ไลน์ ทำไมออกหมายจับ 'สันธนะ'
'รองโฆษกอัยการ' เปิดไทม์ไลน์ ทำไมออกหมายจับ'สันธนะ' คดีอุ้มเรียกค่าไถ่ชาวไต้หวัน เหตุเบี้ยวนัดตำรวจส่งตัวอัยการฟ้อง ยันไม่เคยมีหนังสือร้องขอความเป็นธรรมตามที่กล่าวอ้าง
ไทย รอด! พายุโซนร้อนฟงวอง ขึ้นไปไต้หวันแทน
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเ
'อิชิอิ'ย้ำลูกทีมต้่องมุ่งมั่น บุกชนะไต้หวันถึงถิ่น เร่งแก้จุดบกพร่อง
การแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่มดี นัดที่สี่ ระหว่าง ทีมชาติไชนีส ไทเป พบกับ ทีมชาติไทย ซึ่งจะแข่งขันในวันที่ 14ตุลาคมนี้ ณ ไทเป มูนิซิปัล สเตเดียม ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2568 เวลา 14.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ณ ห้องแถลงข่าว ไทเป มูนิซิปัล สเตเดียม ฝ่ายจัดการแข่งขันจัดงานแถลงข่าวความพร้อมก่อน
'อิชิอิ'เรียก'สันติภาพ-ทรงวุฒิ' เข้ามาแทน'เจริญศักดิ์-โจนาธาร' ที่มีอาการบาดเจ็บ
“มาซาทาดะ อิชิอิ” หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย เรียกตัว “สันติภาพ จันทร์หง่อม” แบ็คขวาจากสโมสร ชลบุรี เอฟซี และ “ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ” กองหลังจากสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด เข้ามาแทนที่ “เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์” และ “โจนาธาร เข็มดี” ที่มีอาการบาดเจ็บ


