สหรัฐฯ แบนอุปกรณ์จาก Huawei และ ZTE ของจีน เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงด้านความปลอดภัย

ทางการสหรัฐฯ ประกาศห้ามนำเข้าหรือขายอุปกรณ์สื่อสารที่มี "ความเสี่ยงที่ไม่อาจยอมรับได้ต่อความมั่นคงของชาติ" ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์จาก Huawei Technologies และ ZTE สองบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน

แฟ้มภาพ โลโก้ Huawei บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและอุปกรณ์โทรคมนาคมสัญชาติจีน มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครเชินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน (Photo by AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2565 กล่าวว่า คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (Federal Communications Commission) ประกาศห้ามนำเข้าหรือขายอุปกรณ์สื่อสารของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (Huawei Technologies) และแซดทีอี (ZTE) ซึ่งเป็นบริษัทด้านเครือข่ายโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน

ทั้งสองบริษัทดังกล่าวอยู่ในรายชื่อบริษัทที่ถูกระบุว่าเป็นภัยคุกคาม และกฎใหม่นี้ห้ามการอนุญาตนำเข้าหรือขายอุปกรณ์เฉพาะในอนาคต และกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการออกประกาศห้ามการใช้งานในปัจจุบัน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการดำเนินการล่าสุดเพื่อป้องกันเครือข่ายของสหรัฐฯ จากการเข้าถึงโดยเครือข่ายของบริษัทโทรคมนาคมจีน และเกิดขึ้นในช่วงความขัดแย้งที่ดำเนินมาอย่างยาวนานระหว่าง 2 ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้แสดงความระวังมากขึ้นต่อบริษัทโทรคมนาคมและเทคโนโลยีของจีนในช่วงไม่กี่ปีมานี้

“คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะปกป้องความมั่นคงของชาติด้วยการรับประกันว่าจะไม่มีการอนุญาตให้ใช้อุปกรณ์สื่อสารที่ไม่น่าเชื่อถือภายในเขตแดนของเรา และกฎใหม่เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันภัยคุกคามด้านความปลอดภัย” เจสสิก้า โรเซนวอร์เซล ประธานหญิงของคณะกรรมการฯ กล่าวในแถลงการณ์

นอกจากหัวเว่ยและแซดทีอีแล้ว คำสั่งห้ามดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อบริษัทอื่นๆ รวมถึงบริษัทอุปกรณ์กล้องวงจรปิดอย่าง หางโจว ฮิควิชัน (Hangzhou Hikvision) และ ต้าหัว เทคโนโลยี (Dahua Technology)

ก่อนหน้านี้ สหรัฐอเมริกาได้สั่งแบนหัวเว่ยจากทุกระบบโทรคมนาคมในรัฐบาลสหรัฐฯ และห้ามไม่ให้ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยในภาคเอกชน ด้วยความกลัวว่าอุปกรณ์ของหัวเว่ยอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือโดยหน่วยข่าวกรองของจีน

ในปี 2562 หัวเว่ยถูกขึ้นบัญชีดำทางการค้าไม่ให้มีการดำเนินธุรกิจใดๆ กับซัพพลายเออร์ของสหรัฐฯ และโดนตัดออกจากระบบปฏิบัติการมือถือแอนดรอยด์ของกูเกิล ด้วยข้ออ้างด้านความมั่นคงของชาติ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดผลวิเคราะห์แนวคิด 'รมว.ดีอี' ปราบสแกมเมอร์ สะท้อนยุทธศาสตร์ความมั่นคงรูปแบบใหม่

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้ง ซูเปอร์โพล และศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ วอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity & Risk Management) เปิดเผยบทวิเคราะห์แนวคิดของนาย ไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

'นพรุจ' หนุนศาลรัฐธรรมนูญค้ำความมั่นคงชาติ ซัด 'แพทองธาร' ทำประชาชนสิ้นหวัง

'นพรุจ' ยื่นหนังสือหนุนให้กำลังใจศาลรัฐธรรมนูญค้ำความมั่นคงชาติ ซัด 'แพทองธาร' ไร้ประสบการณ์บริหาร ทำประชาชนสิ้นหวัง ท่ามกลางวิกฤตศรัทธาการเมือง-เศรษฐกิจ-ชายแดน

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ย้อนเหตุการณ์ปิดด่าน ถามนายกฯคุยฮุนเซนแค่ 'เทคนิคเจรจา' หรือ

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ เทคนิคเจรจา มีเนื้อหาดังนี้

นายกฯ ประชุม 3 ชม.ก่อนแถลงขออภัยปมคลิปเสียงพ่วงซัดพฤติกรรมฮุน เซน

นายกฯ น้ำตาคลอ แถลงขออภัย ปชช.ที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ หลังคลิปเสียงหลุด บอกคุยกองทัพแล้วเข้าใจดี จุดยืนตรงกันปกป้องอธิปไตย ปลุกคนในชาติสามัคคี ซัดการกระทำ 'ฮุน เซน' ทั่วโลกไม่ยอมรับ

'บิ๊กอ้วน' ลั่น เปลี่ยนผ่านการเกณฑ์ทหารแบบบังคับสู่ระบบสมัครใจ กำลังเป็นรูปธรรม

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ "ทหารเกณฑ์สมัครใจ คือ โอกาสของชีวิต" มีเนื้อหาดังนี้