ศรีลังกาพับแผนสร้างประเทศเกษตรอินทรีย์ 100% ลุยนำเข้าเคมี

พิษวิกฤติเศรษฐกิจ ศรีลังกายกเลิกแผนการสร้างประเทศเกษตรอินทรีย์เต็มรูปแบบชาติแรกของโลก ประกาศจะยกเลิกข้อห้ามนำเข้าเคมีเกษตรทั้งยาฆ่าแมลงและปัจจัยทางการผลิตอื่นๆ ทันที

รายงานเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน 2564 กล่าวว่า ประเทศเกาะในภูมิภาคเอเชียใต้แห่งนี้กำลังเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจรุนแรง การขาดแคลนเงินตราต่างประเทศส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหาร, น้ำมันดิบ และสินค้าจำเป็นอื่นๆ

เมื่อเดือนที่แล้ว ทางการศรีลังกาตัดสินใจยกเลิกข้อจำกัดการนำเข้าปุ๋ยเคมีสำหรับต้นชา ซึ่งเป็นพืชส่งออกหลักของประเทศ

วันศุกร์ที่จะถึงนี้ องค์กรเกษตรกรวางแผนจะเดินขบวนมายังรัฐสภาในกรุงโคลัมโบ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลนำเข้าสารเคมีที่จำเป็นเพื่อปกป้องผลิตผลทางการเกษตร แต่กระทรวงเกษตรของศรีลังกาชิงประกาศในวันอาทิตย์ว่า รัฐบาลจะยุติคำสั่งห้ามนำเข้าสารเคมีทางการเกษตรทุกชนิด ซึ่งรวมถึงสารฆ่าวัชพืชและยากำจัดศัตรูพืช

อุดิธ ชายาซิงห์ รัฐมนตรีเกษตร กล่าวกับสถานีนิวส์เฟิร์สทีวีว่า รัฐบาลจะอนุญาตการใช้สารเคมีที่จำเป็นอย่างเร่งด่วน รัฐบาลตัดสินใจด้วยเห็นถึงความจำเป็นในการรับประกันความมั่นคงทางอาหาร

นับแต่ศรีลังกาเริ่มห้ามการนำเข้าสารเคมีทางการเกษตรเมื่อเดือนพฤษภาคม พื้นที่เกษตรจำนวนมากถูกทิ้งร้าง ปัญหาการขาดแคลนในประเทศเลวร้ายลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาข้าว, ผัก และวัตถุดิบหลักอื่นๆ สูงขึ้นเท่าตัวทั่วประเทศ ซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ต้องปันส่วนขายข้าวสารโดยอนุญาตให้ซื้อได้คนละ 5 กิโลกรัม

ประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา เคยให้เหตุผลในการห้ามนำเข้าสารเคมีเกษตรว่า เขาต้องการทำให้การเกษตรของศรีลังกาเป็นเกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซ็นต์

นโยบายนี้ถูกนำเสนอหลังจากเศรษฐกิจของประเทศที่ขาดแคลนเงินสดแห่งนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวและการส่งเงินกลับประเทศของแรงงานในต่างแดนลดลงอย่างมาก

เมื่อปีที่แล้วทางการศรีลังกาพยายามรักษาเงินตราต่างประเทศไว้ ด้วยการห้ามสินค้านำเข้าหลายชนิด อาทิ อาหารบางอย่างและเครื่องเทศ เดือนที่ผ่านมารัฐบาลยังปิดโรงกลั่นน้ำมันที่มีเพียงแห่งเดียวของประเทศ เนื่องจากขาดแคลนเงินดอลลาร์เพื่อนำเข้าน้ำมันดิบ.