'มาเรียเรสซา'พ้นผิดคดีเลี่ยงภาษี

ศาลฟิลิปปินส์ตัดสินมาเรีย เรสซา ซีอีโอสำนักข่าวแรปป์เลอร์และผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2564 พ้นผิดในคดีเลี่ยงภาษีเมื่อวันพุธ แต่เธอยังโดนฟ้องอีกหลายคดีที่เธอระบุเป็นเหตุจูงใจทางการเมือง                                   

              สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ศาลภาษีอากรฟิลิปปินส์ตัดสินมาเรีย เรสซา วัย 59 ปี ซีอีโอสำนักข่าวแรปป์เลอร์ พ้นผิดในคดีเลี่ยงภาษีเมื่อวันพุธที่ 18 มกราคม 2566 เธอเป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2564 ร่วมกับดมิตรี มูราตอฟ ผู้สื่อข่าวอาวุโสชาวรัสเซีย

              แม้พ้นผิดในคดีนี้ แต่เธอยังถูกดำเนินคดีอื่นอีก 3 คดี รวมถึงคดีหมิ่นประมาททางไซเบอร์ที่อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ ถ้าศาลตัดสินว่าเรสซาทำผิดจริง จะต้องได้รับโทษจำคุกเกือบ 7 ปี

              เรสซากล่าวกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาด้านนอกศาลภาษีอากรในนครเกซอนซิตี มหานครมะนิลา เมื่อวันพุธว่า "วันนี้ ข้อเท็จจริงชนะ ความจริงชนะ" หลังศาลตัดสินว่าเธอและแรปป์เลอร์ บริษัทสื่อออนไลน์ของเธอพ้นผิดข้อกล่าวของรัฐบาล 4 กระทง ที่กล่าวหาว่ามีการเลี่ยงภาษีในการขายพันธบัตรให้กับนักลงทุนต่างชาติในปี 2558

              ศาลภาษีอากรฟิลิปปินส์ตัดสินว่า อัยการล้มเหลวในการพิสูจน์ "โดยปราศจากข้อสงสัยที่สมเหตุสมผล" ว่า มาเรีย เรสซา และบริษัทแรปป์เลอร์หลีกเลี่ยงภาษีเงินได้

              เรสซากล่าวว่า การที่ศาลตัดสินว่าเธอและบริษัทแรปป์เลอร์พ้นผิดแม้ต้องใช้เวลา แต่เป็นคำตัดสิน ไม่ใช่สำหรับแรปป์เลอร์เท่านั้น แต่สำหรับชาวฟิลิปปินส์ทุกคนผู้ที่เคยถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม นับเป็นแสงสว่าง เป็นความหวัง ระบุข้อกล่าวหาที่ฟ้องร้องเธอเป็นเหตุจูงใจทางการเมือง

              เรสซาถูกดำเนินคดีอีกหลายคดี ซึ่งกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของสื่อมวลชน ระบุว่า ที่เธอโดนดำเนินคดี เนื่องจากสำนักข่าวแรปป์เลอร์ของเธอวิพากษ์วิจารณ์อดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต และสงครามยาเสพติดของเขา ปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดของดูเตร์เต ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน

              ผู้สื่อข่าวถามถึงคดีอื่นๆ ที่เรสซาที่โดนฟ้องร้องอยู่ เธอตอบว่าเราจะต่อสู้ต่อไป คุณเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดและคุณต้องเดินหน้าต่อไป

              บริษัทแรปป์เลอร์กำลังยื่นอุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของฟิลิปปินส์ ที่สั่งให้ปิดกิจการ เนื่องจากข้อกล่าวหาละเมิดกฎห้ามต่างชาติเป็นเจ้าของสื่อมวลชนในประเทศ 

              รัฐธรรมนูญฟิลิปปินส์กำหนดการลงทุนในสื่อมวลชนสงวนไว้สำหรับพลเมืองฟิลิปปินส์ หรือองค์กรที่ควบคุมโดยพลเมืองฟิลิปปินส์

              คำสั่งปิดบริษัทแรปป์เลอร์มีขึ้นหลังมีการลงทุนจากโอมิดยาร์เน็ตเวิร์กที่มีสำนักงานอยู่ในสหรัฐ ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งโดยปีแอร์ โอมิดยาร์ ผู้ก่อตั้งอีเบย์

              ต่อมาโอมิดยาร์เน็ตเวิร์กโอนการลงทุนกับแรปป์เลอร์ไปยังผู้จัดการกองทุนในฟิลิปปินส์ เพื่อขัดขวางความพยายามของดูเตร์เตที่ต้องการปิดกิจการของสำนักข่าวแรปป์เลอร์

              เรสซาและสำนักข่าวแรปป์เลอร์เริ่มถูกเล่นงานในปี 2559 เมื่อดูเตร์เตชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีและเริ่มสงครามยาเสพติด แรปป์เลอร์นำเสนอภาพตำรวจที่วิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด และตั้งคำถามว่าเป็นการปราบปรามที่มีพื้นฐานทางกฎหมายหรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง