มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหภาพยุโรปที่มีต่อรัสเซียผู้ทำการรุกรานยูเครน ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันเสาร์ โดยพุ่งเป้าที่บุคคลและองค์กร 121 ราย รวมถึงผู้ผลิตโดรนของอิหร่าน
เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (ซ้าย), ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน (กลาง) และชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป (Photo by KENZO TRIBOUILLARD / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 กล่าวว่า สหภาพยุโรปเห็นพ้องอนุมัติการคว่ำบาตรใหญ่ครั้งใหม่ต่อรัสเซีย ในขวบปีที่ 2 ของการรุกรานยูเครน
มาตรการดังกล่าวซึ่งตกลงร่วมกันเมื่อวันศุกร์ก่อนการประกาศอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ เป็นมาตรการคว่ำบาตรรอบที่ 10 ของสหภาพยุโรปที่มุ่งเป้าตัดช่องทางทางการเงินและเสบียงทางการทหารของรัสเซียที่ใช้ในการรุกรานยูเครน
การคว่ำบาตรครั้งใหม่นำโดยสหรัฐฯและอังกฤษ ขณะที่บทบาทของกลุ่มจี7 คือกดดันและมอบบทลงโทษสำหรับประเทศใดก็ตามที่สนับสนุนรัสเซียในการทำสงคราม
"มาตรการต่อเนื่องของสหภาพยุโรปเป็น 'การคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา' ซึ่งจะทำให้คลังแสงสงครามของรัสเซียหมดสิ้นลงและกัดกินลึกเข้าไปในเศรษฐกิจของพวกเขา" เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวในแถลงการณ์ และเสริมว่า "เรากำลังเพิ่มแรงกดดันต่อผู้ที่พยายามหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรของเรา"
มาตรการคว่ำบาตรล่าสุดของสหภาพยุโรปพุ่งเป้าไปที่หน่วยงานรัสเซียเพิ่มอีก 96 แห่ง ซึ่งหมายรวมทั้งหน่วยธุรกิจเอกชน, หน่วยงานของรัฐ และธนาคารรัสเซียอีก 3 แห่ง ตามแถลงการณ์ของสหภาพยุโรป
ในรอบนี้มีหน่วยงานของอิหร่าน 7 แห่งโดนคว่ำบาตรไปด้วย โดยมีรายใหญ่คือผู้ผลิตโดรนระเบิดตัวเองทุกรายที่รัสเซียใช้เพื่อโจมตีเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานและอาคารที่อยู่อาศัยในยูเครน
ขณะที่คำสั่งห้ามการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไปยังรัสเซียได้รับการขยายขอบเขตไปถึงสินค้าประเภทใช้ 2 ทาง เช่น สินค้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, ยานพาหนะเฉพาะทาง, ชิ้นส่วนเครื่องจักร, ชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับรถบรรทุกและเครื่องยนต์ไอพ่น, เสาอากาศ, เครน, โดรน, และกล้องตรวจจับความร้อน
นอกจากนี้มาตรการคว่ำบาตรสื่อโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซียก็จะได้รับการยกระดับขึ้น เช่น การระงับใบอนุญาตออกอากาศของสื่อภาษาอาหรับของกลุ่มสื่อที่ควบคุมโดยรัฐบาลมอสโก และมาตรการใหม่ยังกำหนดให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปต้องรายงานรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ยึดจากเศรษฐีชาวรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตรจากการสนับสนุนรัฐบาลมอสโก และอายัดเงินของธนาคารกลางรัสเซีย
โจเซฟ บอร์เรล ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรปกล่าวว่า หน่วยงานและบุคคลทั้งหมด 121 รายอยู่ในรายชื่อการคว่ำบาตรล่าสุด โดยรายละเอียดจะถูกเปิดเผยในภายหลังเมื่อมีการประกาศเผยแพร่อย่างเป็นทางการของสหภาพยุโรป
การอยู่ในรายชื่อฯหมายถึง การอายัดทรัพย์สินในสหภาพยุโรปและการห้ามออกวีซ่าเดินทางเข้าออกดินแดนของบุคคลและหน่วยงานดังกล่าว
บอร์เรลกล่าวว่า การคว่ำบาตรรอบล่าสุดยังขยายขอบเขตไปที่ผู้ที่รับผิดชอบในการเนรเทศและบังคับให้เด็กยูเครนอย่างน้อย 6,000 คนต้องถูกรับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
"เราจะเพิ่มแรงกดดันรัสเซียต่อไป และจะทำต่อไปตราบเท่าที่จำเป็น จนกว่ายูเครนจะได้รับการปลดปล่อยจากการรุกรานของรัสเซียผู้เหี้ยมโหด" บอร์เรลกล่าวทิ้งท้าย.