AFP
คำถามที่ว่า เด็กนักเรียนควรเริ่มต้นชั่วโมงเรียนตั้งแต่กี่โมง กลายเป็นประเด็นที่พูดถึงกันทั่วโลกมานานหลายทศวรรษแล้ว นักวิชาการเคยแนะนำให้เริ่มเข้าเรียนในช่วงสาย แต่ในจังหวัดหนึ่งของอินโดนีเซียเลือกที่จะเริ่มชั่วโมงเรียนตอนเช้าตรู่ ซึ่งเด็กๆ จะต้องตื่นนอนตั้งแต่ตอนตี 4
ในสวิตเซอร์แลนด์ นักเรียนส่วนใหญ่เริ่มชั่วโมงเรียนเวลา 7.30 นาฬิกา เรื่องนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักวิชาการ ซึ่งหลายคนมองว่ามันยังเป็นเวลาที่เช้าเกินไปสำหรับเด็กและเยาวชน ในขณะที่อีกฟากหนึ่งของโลกอย่างออสเตรเลีย ที่เริ่มต้นชั่วโมงเรียนเวลา 9 นาฬิกา แต่จังหวัดนูซาเติงการาติมูร์ ทางตอนใต้ของอินโดนีเซีย กำลังทดลองเริ่มชั่วโมงเรียนใหม่เวลา 5.30 นาฬิกา
วิกตอร์ ไลสโกดัต-ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ สาเหตุที่เริ่มชั่วโมงเรียนแต่เช้าในกูปัง เมืองเอกของจังหวัด เพราะต้องการเสริมสร้างระเบียบวินัยของเยาวชนด้วยการไปโรงเรียนแต่เช้า โดยเริ่มแรกจะบังคับใช้กับนักเรียนชั้นมัธยมฯ ปลายจากทั้งหมด 10 โรงเรียน ดังนั้นเด็กนักเรียนอยู่ในข่ายบังคับจะต้องตื่นนอนตั้งแต่ตี 4 “เวลากลับมาจากโรงเรียนทุกวันเขาจะเหนื่อย บางทีก็หลับไปเลย” บรรดาพ่อแม่ของเด็กบอกกับสื่อ ไม่เพียงแต่พ่อแม่ของเด็กในกูปังเท่านั้นที่ข้องใจกับเวลาเข้าเรียนใหม่ นักวิชาการจากหลายสถาบันเองก็ไม่เห็นด้วย พวกเขามองว่าการเข้าเรียนในเวลาเช้าเกินไป จะทำให้เด็กๆ ได้นอนพักผ่อนเพียงไม่กี่โมง และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุของความเครียดด้วย
ในขณะที่ผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 25 ปีต้องการการนอนหลับโดยเฉลี่ย 7-8 ชั่วโมง แต่ความต้องการการนอนหลับของเด็กและเยาวชนกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เด็กทารกนอนหลับประมาณ 19 ชั่วโมงต่อวัน หลังจากนั้นจำนวนชั่วโมงที่ต้องการนอนในแต่ละวันจะค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ ในช่วงวัยแรกรุ่น การผลิตเมลาโทนินของฮอร์โมนการนอนหลับจะเปลี่ยนแปลงโดยพื้นฐานอีกครั้ง ฮอร์โมนจะไม่หลั่งจนกว่าจะถึงช่วงสายของวัน ส่งผลให้คนวัยหนุ่มสาวส่วนใหญ่กลายเป็นนกฮูกในช่วงวัยรุ่น รูปแบบการนอนหลับของพวกเขาจะเปลี่ยนไป ช่วงกลางวันของคนหนุ่มสาวจะนานขึ้น แต่ความต้องการการนอนหลับอย่างเพียงพอยังคงสูงอยู่
ตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) วัยรุ่นต้องการการนอนหลับระหว่าง 8-10 ชั่วโมงต่อวัน แมตธิว วอล์เกอร์-นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยเบิร์กลีย์ มีความเห็นต่อเรื่องการตื่นนอนของวัยรุ่นว่า การเรียกร้องให้วัยรุ่นตื่นนอนตอน 8.30 นาฬิกาจึงไม่ต่างอะไรกับการเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ตื่นนอนตอนตี 4 ระดับเมลาโทนินในร่างกายจะไม่ลดลงอีกจนกว่าจะอายุ 25 ปี จากนั้นจังหวะการนอนหลับจะเข้าสู่สภาวะที่ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่คุ้นเคย
เยาวชนโรงเรียน 10 แห่งในกูปังยังห่างไกลจากจังหวะการนอนหลับของผู้ใหญ่อีกหลายปี สำหรับโครงการนำร่องในจังหวัดทางใต้สุดของอินโดนีเซียนั้น ยังไม่มีใครรู้ได้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ อย่างไร แต่ที่แน่ๆ พวกเขายังต้องลุกจากเตียงตอนตี 4 เพื่อไปโรงเรียนทุกวัน.
