รัฐมนตรีต่างประเทศ G7 ขู่ผู้ให้การสนับสนุนรัสเซียว่าจะต้องชดใช้มูลค่ามหาศาล ในวาระปิดประชุม

รัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม G7 กล่าวเตือนล่วงหน้ากับชาติที่ให้ความช่วยเหลือรัสเซียทำสงครามในยูเครนว่าอาจต้องเผชิญกับค่าเสียหายจำนวนมหาศาล ขณะที่พร้อมจะเดินหน้าจับมือกันต่อไปเพื่อท้าทายอำนาจจีน

สมาชิกของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ จี7 (ด้านหน้า-จากซ้ายไปขวา) รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น, รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ (ด้านหลัง-จากซ้ายไปขวา) รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา, รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส, รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี, ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงร่วมกันของสหภาพยุโรป, รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ และรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่เมืองคารุอิซาวะ จังหวัดนากาโน่ ประเทศญี่ปุ่น (Photo by HANDOUT / Foreign Ministry of Japan / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 18 เมษายน 2566 กล่าวว่า การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม จี7 (G7) ที่เมืองคารุอิซาวะ จังหวัดนากาโน่ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 16-18 เมษายน บรรดาตัวแทนจากประเทศเศรษฐกิจชั้นนำได้ร่วมหารือกันในหลายประเด็น ก่อนเปิดเผยว่าจะไม่มีการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซียจากประเด็นการรุกรานยูเครน แต่จะหันไปเล่นงานผู้ที่ช่วยเหลือรัสเซียในการหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร รวมถึงการสนับสนุนด้านอาวุธยุโธปกรณ์แทน

บรรดารัฐมนตรียังแจ้งให้รัฐบาลปักกิ่งทราบเกี่ยวกับความเห็นแย้งกรณี "กิจกรรมทางทหาร" ในทะเลจีนใต้ และยืนยันว่านโยบายไต้หวันของพวกเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะมีความเห็นตรงกันข้ามก่อนหน้านี้

การเจรจา 3 วันมุ่งเน้นประเด็นการสู้รบในยูเครนและความท้าทายในภูมิภาคจากอิทธิพลทางทหารและเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นของจีน รวมถึงข้อเรียกร้องให้เกาหลีเหนือ "ละเว้น" การทดสอบนิวเคลียร์ครั้งใหม่หรือการยิงขีปนาวุธ และประเด็นปัญหาอื่นๆด้านนโยบายทั่วโลกในวงกว้าง

บรรดารัฐมนตรีมีการหารือประเด็นสงครามกลางเมืองในซูดานระหว่างกองทัพและกองกำลังกึ่งทหาร และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่าย "ยุติการสู้รบทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขล่วงหน้า"

นอกจากนี้ยังมีการประณามการลิดรอนสิทธิสตรีและชนกลุ่มน้อยของกลุ่มตอลิบันในอัฟกานิสถาน

บทสรุปของนักการทูตจากญี่ปุ่น อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, เยอรมนี, อิตาลี ฝรั่งเศส และสหภาพยุโรป เห็นชอบให้ดำเนินการคว่ำบาตรรัสเซียต่อไปอย่างเข้มข้นมากขึ้น และเพิ่มความพยายามในการตอบโต้ผู้ที่สนับสนุนอาวุธให้รัฐบาลมอสโกหรือการสนับสนุนอื่นๆ โดยการขู่ว่าผู้ให้การสนับสนุนรัสเซียต้องจ่ายค่าความเสียหายจำนวนมหาศาล

ที่ประชุมจี7 ยังร่วมแถลงจุดยืนในการยกระดับความร่วมมือในการต่อต้าน "การบีบบังคับทางเศรษฐกิจ" ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติด้านการนำเข้าหรือส่งออกอาวุธเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง และสนับสนุนการปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน เพราะเป็นสิ่งจำเป็นต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของโลก

"เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ จี7 ที่เราสามารถยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรถึงความมุ่งมั่นของเราต่อระเบียบระหว่างประเทศที่เสรีและเปิดกว้างตามหลักนิติธรรม" โยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นกล่าวในฐานะเจ้าภาพการประชุม

แม้จะไม่กล่าวถึงจีนโดยตรง แต่คำเตือนเรื่องการให้การสนับสนุนรัสเซียในยูเครนก็ถูกมองว่าเป็นข้อความถึงจีน ซึ่งก่อนหน้านี้ชาติตะวันตกแถลงเตือนรัฐบาลปักกิ่งไม่ให้สนับสนุนอาวุธแก่รัฐบาลมอสโก

ถ้อยแถลงสุดท้ายของพวกเขาจุดชนวนให้เกิดปฏิกิริยารุนแรงจากจีน โดยหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลปักกิ่ง กล่าวโต้ว่า บรรดารัฐมนตรี จี7 เพิกเฉยข้อเท็จจริงที่เป็นกลางในกรณีการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างโจ่งแจ้ง และใส่ร้ายป้ายสีจีนอย่างมุ่งร้าย

"ถ้อยแถลงของพวกเขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง, อคติ และมีเจตนาชั่วร้ายที่จะต่อต้านและปราบปรามจีน" หวัง เหวินปินกล่าวกับผู้สื่อข่าว พร้อมเสริมว่า รัฐบาลปักกิ่งได้ยื่นคำประท้วงไปยังรัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุมดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นจะยังคงเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำ จี7 ในเดือนหน้าที่เมืองฮิโรชิมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น ต้องการให้ประเด็นการลดอาวุธนิวเคลียร์เป็นแผนสำคัญในการหารือร่วมกัน.

เพิ่มเพื่อน