ที่ประชุมจี7 หารือเรื่องสานสัมพันธ์กับจีน แต่เตือนเรื่องกิจกรรมทางทหาร

ผู้นำกลุ่มจี7 เตือนจีนเกี่ยวกับ "กิจกรรมทางทหาร" ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แต่กล่าวว่าทางกลุ่มยังต้องการสาน "ความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์และมั่นคง" กับรัฐบาลปักกิ่ง

บรรดากลุ่มผู้นำจี7 และผู้นำจากชาติที่ได้รับเชิญ (แถวบน - จากซ้ายไปขวา) มาเธียส คอร์แมนน์ เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา, คริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ, ชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป, นายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี, นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย, ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส, ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา, นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา, นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีส ของออสเตรเลีย, เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และฟาทีห์ บิรอล ผู้อำนวยการบริหารของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (แถวล่าง - จากซ้ายไปขวา) เดวิด มัลพาส ประธานธนาคารโลก, อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ, นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี ของอิตาลี, นายกรัฐมนตรีมาร์ก บราวน์ ของหมู่เกาะคุก, ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้, ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย, นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น, ประธานาธิบดีอะซาลีย์ อัสซุมานีย์ ของคอโมโรส, ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล, นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ของเวียดนาม, นายกรัฐมนตรีริชี ซูนัค ของอังกฤษ และดร.เอ็นโกซี โอคอนโจ-อิเวียลา ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก ถ่ายภาพร่วมกันระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี7 ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม (Photo by Brendan SMIALOWSKI / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม 2566 กล่าวว่า การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี7 และชาติที่ได้รับเชิญ (อินเดีย, บราซิล, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, เวียดนาม, ออสเตรเลีย, ยูเครน) ดำเนินต่อไปในประเด็นการแผ่ขยายอำนาจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของจีน

ในแถลงการณ์ฉบับสุดท้ายที่ออกในการประชุมสุดยอดที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น บรรดาชาติสมาชิกต่างแสดงความกังวลเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการทหารของรัฐบาลปักกิ่งภายใต้การนำของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง

อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มฯยังเปิดกว้างสำหรับการกลับมาจับมือระหว่างประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลกกับกลุ่มมหาอำนาจตะวันตกและญี่ปุ่น เพื่อหลีกเลี่ยงความตึงเครียดเพิ่มเติมซึ่งไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลก

"เราพร้อมที่จะสานความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์และมั่นคงกับจีน โดยตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมอย่างตรงไปตรงมาและแสดงความกังวลของเราโดยตรงต่อจีน" กลุ่มจี7 กล่าวในถ้อยแถลง

"แนวนโยบายของเราไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทำร้ายจีน และไม่ได้พยายามขัดขวางความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีน” ถ้อยแถลงกล่าวเพิ่มเติม พร้อมเสริมว่ากลุ่มประเทศ จี7 ไม่ได้มุ่งแบ่งแยกหรือหันเข้าหากันเพื่อผลประโยชน์

ถึงกระนั้น ถ้อยแถลงดังกล่าวก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความกังวลในวงกว้างของกลุ่มฯเกี่ยวกับการที่รัฐบาลปักกิ่งจงใจใช้มาตรการทางการค้าตอบโต้ข้อพิพาททางการทูต และความมุ่งมั่นของ จี7 ที่จะคลี่คลายห่วงโซ่อุปทานให้พ้นจากอิทธิพลของจีน

"ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจจำเป็นต้องพึ่งพาการลดความเสี่ยงและกระจายความเสี่ยง" ถ้อยแถลงระบุ และมีการให้คำมั่นว่าจะลดการพึ่งพาจีนมากเกินไปในห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญของประเทศกลุ่มสมาชิก

กลุ่มฯยังออกคำเตือนต่อ "การใช้กำลังทางทหาร" ของจีนในทะเลจีนใต้ และย้ำว่า "สันติภาพและเสถียรภาพ" ในช่องแคบไต้หวันนั้น "จำเป็น" ต่อความมั่นคงของโลก รวมทั้งการเรียกร้องให้จีนใช้อิทธิพลของตนกับรัสเซีย เพื่อหยุดการรุกรานทางทหารและถอนทหารออกจากยูเครนทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข

ในวันเสาร์ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เดินทางถึงฮิโรชิมาเพื่อเข้าร่วมประชุมกับกลุ่มผู้นำ หลังได้รับเชิญก่อนหน้านี้ พร้อมข่าวดีที่รัฐบาลวอชิงตันยกเลิกการกีดกันและยอมให้ยูเครนสามารถใช้เครื่องบินรบเอฟ-16 ได้

เซเลนสกีได้รับการต้อนรับอย่างดีจากบรรดาผู้นำ และร่วมประชุมนอกรอบกับผู้นำหลายชาติ เช่น อิตาลี, ฝรั่งเศส, อังกฤษ และอินเดีย.

เพิ่มเพื่อน