ศาลบราซิลสั่งจำคุกเกือบ 9 ปีอดีตประธานาธิบดี คดีทุจริตคอร์รัปชัน

ศาลสูงสุดของบราซิลตัดสินจำคุกอดีตประธานาธิบดีเป็นเวลา 8 ปี 10 เดือน ฐานคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผลพวงจากภารกิจกวาดล้างการทุจริตคอร์รัปชันขนานใหญ่ หรือ "ปฏิบัติการล้างรถ"

แฟ้มภาพ อดีตประธานาธิบดีเฟอร์นันโด คอลลอร์ เด เมลโล ของบราซิล (Photo by EVARISTO SA / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน 2566 กล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีเฟอร์นันโด คอลลอร์ เด เมลโล ของบราซิล ถูกศาลสูงสุดตัดสินโทษจำคุกเป็นเวลา 8 ปี 10 เดือน ในข้อหาทุจริตคอร์รัปชัน

ศาลฯระบุว่าคอลลอร์ เด เมลโล รับสินบน 20 ล้านเรียล (ประมาณ 137 ล้านบาท) ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาตั้งแต่ปี 2553-2557 เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำสัญญาธุรกิจระหว่างบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งกับบริษัทน้ำมันของรัฐในเครือเปโตรบราส (Petrobras)

คอลลอร์ เด เมลโล วัย 73 ปี ซึ่งเป็นผู้นำประเทศบราซิลตั้งแต่ปี 2533-2535 ถือเป็นบุคคลที่มัวหมองในการเมืองของบราซิล เขาเป็นประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยคนแรกของประเทศหลังช่วงเวลาการปกครองแบบเผด็จการทหารตั้งแต่ปี 2507-2528 และเขาชิงลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกถอดถอนและฟ้องร้องจากข้อกล่าวหาทุจริตคอร์รัปชัน

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ผู้พิพากษาศาลสูงตัดสินว่าเขามีความผิดคดีทุจริตและฟอกเงินในกรณีเปโตรบราส ด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 2 โดยหัวหน้าผู้พิพากษาในขณะนั้นเสนอให้ลงโทษจำคุกคอลลอร์ เด เมลโล เป็นเวลา 33 ปี

"ข้อเท็จจริงในการพิจารณาคดีนั้นร้ายแรงอย่างยิ่ง และแสดงให้เห็นถึงการใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิดเพื่อการส่งเสริมผลประโยชน์ส่วนบุคคล" ผู้พิพากษากล่าว

ศาลระบุว่า "วุฒิสมาชิกในขณะนั้นได้ใช้อิทธิพลทางการเมืองเพื่อส่งเสริมการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารของบริษัทย่อยในเครือเปโตรบราส และสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการจัดทำสัญญาธุรกิจ ส่วนการฟอกเงินนั้นดำเนินการผ่านเงินฝากมากกว่า 40 บัญชีในชื่อเฟอร์นันโด คอลลอร์ เด เมลโล และอีก 65 บัญชีของบริษัทที่เขาเป็นเจ้าของ"

เฟอร์นันโด คอลลอร์ เด เมลโล เคยเป็นดาวเด่นทางการเมืองและฉายแววเจิดจรัสจนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2532 ด้วยวัยเพียง 40 ปี โดยครั้งนั้นสามารถเอาชนะลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนปัจจุบันของบราซิล

ด้วยภาพลักษณ์ที่ร่าเริงและไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด คอลลอร์ เด เมลโลได้รับการคาดหมายว่าจะมีบทบาทในการปฏิรูปสังคมและการเมือง

แต่ภายในระยะเวลา 2 ปีที่ครองอำนาจ ผู้คนหลายพันคนออกมาชุมนุมตามท้องถนนเพื่อเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง และสภาคองเกรสก็เปิดกระบวนการถอดถอนตามข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตที่ฝังแน่นในแวดวงการเมือง และในเวลาต่อมา ภารกิจกวาดล้างการทุจริตคอร์รัปชันขนานใหญ่ หรือ "ปฏิบัติการล้างรถ" ก็ได้เริ่มต้นขึ้นเพื่อให้เกิดการปฏิรูป

ปฏิบัติการล้างรถ (Operation Car Wash) นำไปสู่การเอาผิดพฤติกรรมฟอกเงินของบรรดานักการเมืองและผู้มีอิทธิพลในทุกวงการของบราซิล โดยใช้ทั้งการดำเนินการจับกุมและใช้เทคนิคการต่อรองให้รับสารภาพ จนสามารถเปิดโปงขบวนการทุจริตของนักการเมืองและนักธุรกิจที่ยักยอกเงินหลายพันล้านดอลลาร์ออกไปจากบริษัทน้ำมันของรัฐ โดยหนึ่งในผู้ที่โดนปฏิบัติการกวาดล้างในขณะนั้น ก็คือลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนปัจจุบันของบราซิลนั่นเอง.

เพิ่มเพื่อน