ชาวอิตาลีนับหมื่นร่วมพิธีศพแบร์ลุสโคนี

บรรดาผู้นับถือศรัทธาของซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี มารวมตัวกันที่เมืองมิลานเพื่อกล่าวคำอำลาในพิธีศพของอดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี

หน้าจอโทรทัศน์ขนาดยักษ์กำลังถ่ายทอดสดภาพในพิธีศพของซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี ภายนอกมหาวิหารดูโอโม ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน (Photo by GABRIEL BOUYS / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 14 มิถุนายน 2566 กล่าวว่า พิธีศพของซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลีผู้ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่มหาวิหารดูโอโมของเมืองมิลาน

บรรดาผู้นับถือศรัทธาและผู้สนับสนุนจำนวนหลายพันคนของอดีตผู้นำมหาเศรษฐีวัย 86 ปีรายนี้ มารวมตัวกันที่จัตุรัสด้านหน้ามหาวิหาร พร้อมรับชมการถ่ายทอดสดการดำเนินพิธีผ่านจอโทรทัศน์ขนาดยักษ์

แบร์ลุสโคนีเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ชาวอิตาลีทั้งชื่นชอบและเกลียดชังไม่แพ้กัน เขาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์หลังยุคสงครามของอิตาลี และได้รับเลือกเข้าสู่วุฒิสภาอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว ในช่วงปีหลังเขาเจ็บป่วยหนักและเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยครั้ง แต่ในทางการเมือง เขายังคงกุมบังเหียนพรรคฟอร์ซาอิตาเลีย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวาในรัฐบาลผสมชุดปัจจุบันของนายกรัฐมนตรีหญิงจอร์เจีย เมโลนี ก่อนพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งเม็ดเลือดชนิดหายาก และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในมิลานตั้งแต่วันศุกร์ จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน

ประธานาธิบดีแซร์โจ มัตตาเรลลา ของอิตาลี และนายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี มาร่วมเป็นแขกกิตติมศักดิ์ในพิธี พร้อมด้วยมัตเตโอ ซัลวินี ผู้นำพรรคฝ่ายขวาจัด โดยสหภาพยุโรปส่งเปาโล เจนติโลนี คณะกรรมาธิการยุโรปด้านเศรษฐกิจ มาเป็นตัวแทนร่วมพิธี

มีการลดธงลงครึ่งเสาในอาคารสาธารณะทุกแห่งตั้งแต่วันจันทร์ เพื่อไว้อาลัยแด่ผู้นำที่มีอิทธิพลแผ่ขยายไปไกลกว่าแค่แวดวงการเมือง โดยความสนใจในแวดวงโทรทัศน์, หนังสือพิมพ์ และความคลั่งไคล้กีฬาของเขา สร้างอิทธิพลให้กับตัวเขาอย่างกว้างขวาง รวมทั้งชื่อเสียงด้านลบจากเรื่องผู้หญิงและเรื่องราวทางเพศที่เป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง แม้แต่ในช่วงปีสุดท้ายของชีวิต

รัฐสภาหยุดทำการเป็นเวลา 3 วัน และรัฐบาลได้ประกาศให้วันนี้เป็นวันไว้ทุกข์แห่งชาติ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับกรณีอสัญกรรมของอดีตนายกรัฐมนตรี

แบร์ลุสโคนีได้สร้างสุสานหินอ่อนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสุสานฟาโรห์ที่วิลล่าของเขาในเมืองอาร์โคเร ใกล้เมืองมิลาน เพื่อเป็นที่พำนักสุดท้ายของครอบครัวและเพื่อน ๆ ของเขาเมื่อเสียชีวิตลง ซึ่งครอบครัวของเขาวางแผนที่จะบรรจุเถ้ากระดูกของเขาในสุสานดังกล่าว ตามรายงานของสื่ออิตาลี.

เพิ่มเพื่อน