กษัตริย์แห่งเนเธอร์แลนด์ ทรงกล่าวคำ 'ขอโทษ' อย่างเป็นทางการ

สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์ ทรงขออภัยอย่างเป็นทางการในนามของราชวงศ์และประเทศเนเธอร์แลนด์ สำหรับการก่อให้เกิดทาสในอดีตและผลที่ตามมา

พระองค์ตรัสเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในพิธีรำลึกครบรอบ 150 ปีของการเลิกทาสในดินแดนอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ ทรงรู้สึกเสียพระทัยอย่างลึกซึ้งเป็นการส่วนพระองค์ “วันนี้ข้าพเจ้ายืนอยู่ต่อหน้าท่านทั้งหลายในฐานะกษัตริย์ของท่าน และเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล วันนี้ข้าพเจ้าขอกล่าวขอโทษด้วยตัวข้าพเจ้าเอง ต่อความเป็นทาสทุกรูปแบบ การเป็นทาสเป็นสิ่งที่ต่ำต้อยและไร้มนุษยธรรมที่สุด”

จอห์น เลียร์ดัม-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ NOS ของเนเธอร์แลนด์ว่า เขาน้ำตาจะไหลเมื่อได้ยินกษัตริย์กล่าวคำขอโทษ เขาบอกว่ามันเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ ในขณะที่นักเคลื่อนไหวหลายคนคาดหวังว่าคำพูดจะตามมาด้วยการกระทำ ยกตัวอย่างเช่น ค่าชดเชย เพราะแค่คำพูดไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าบรรลุผลสำเร็จ

เมื่อปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีมาร์ก รุตเต เคยกล่าวยอมรับว่าเนเธอร์แลนด์เคยมีบทบาทในการค้าทาส และเคยกล่าวขอโทษในนามของรัฐบาล เขากล่าวถึงการใช้แรงงานทาสในอดีตอาณานิคมของประเทศว่าเป็น “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” และสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ก็ทรงยินดีกับการตัดสินใจของผู้นำรัฐบาลอย่างชัดเจนในสุนทรพจน์วันคริสต์มาสของพระองค์

ในช่วงศตวรรษที่ 16-17 พ่อค้าทาสชาวดัตช์ทำการเคลื่อนย้ายผู้คนราว 600,000 คนจากแอฟริกาไปยังอเมริกาใต้และแคริบเบียน ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นหนึ่งในมหาอำนาจอาณานิคมที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 17 เมื่อเร็วๆ นี้มีความตระหนักมากขึ้นว่า ความมั่งคั่งของเมืองและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในเนเธอร์แลนด์นั้นมีรากฐานมาจากประวัติศาสตร์ยุคอาณานิคมของประเทศ

วันที่ 1 กรกฎาคม 1863 เนเธอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศสุดท้ายของโลก ที่ได้ยกเลิกการเป็นทาสและการค้าทาสในอาณานิคมขณะนั้นอย่างเป็นทางการ แต่ทว่าทาสที่ถูกซื้อตัวไปแล้วยังต้องทำงานให้กับนายคนนั้นไปอีกสิบปี.