อียู-ฟิลิปปินส์หารือฟื้นเจรจาการค้าเสรีอีกครั้ง

สหภาพยุโรปและฟิลิปปินส์เริ่มการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอีกครั้ง พร้อมก้าวสู่ยุคใหม่แห่งความร่วมมือ

ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ (ที่ 2 จากขวา) และเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (ที่ 2 จากซ้าย) ปรบมือแสดงความยินดีหลังพิธีลงนามที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงมะนิลา เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม (Photo by Aaron Favila / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 31 กรกฏาคม 2566 กล่าวว่า สหภาพยุโรปและฟิลิปปินส์เคยเจรจาความร่วมมือภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกันในปี 2558 ภายใต้การนำของประธานาธิบดีเบนิกโน อากีโนในขณะนั้น แต่หยุดชะงักลงในอีก 2 ปีต่อมาภายใต้การนำของโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีคนถัดมาซึ่งใช้ความรุนแรงในการปราบปรามยาเสพติดจนทำให้ความสัมพันธ์ทางการทูตกับชาติตะวันตกตึงเครียดและทำให้การดำเนินการข้อตกลงดังกล่าวต้องหยุดลง

ล่าสุดทั้งสองฝ่ายกลับมาเริ่มเจรจาข้อตกลงฯอีกครั้ง โดยเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เยือนกรุงมะนิลาพร้อมคณะทำงาน และร่วมประชุมกับประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์

"ดิฉันดีใจมากที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องเปิดการเจรจาครั้งใหม่สำหรับข้อตกลงการค้าเสรี" ฟอน เดอร์ เลเยน กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีมาร์กอส

"คณะทำงานของเราจะเร่งดำเนินการทันทีเพื่อกำหนดเงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับการเจรจาอย่างเป็นทางการ" เธอกล่าว และเสริมว่า ข้อตกลงการค้าเสรีมีศักยภาพมหาศาลสำหรับทั้งสองฝ่ายในแง่ของการจ้างงานและการเติบโต

สหภาพยุโรปเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 4 ของฟิลิปปินส์ และการค้าเสรีจะเป็นข้อตกลงทวิภาคีอันดับ 2 ของรัฐบาลมะนิลารองจากญี่ปุ่น

มาร์กอสกล่าวถึงฟิลิปปินส์และสหภาพยุโรปว่าเป็น "หุ้นส่วนที่มีใจเดียวกัน ภายใต้หลักการประชาธิปไตยที่มีร่วมกัน ตลอดจนความเจริญรุ่งเรืองที่ยั่งยืนและครอบคลุมหลักนิติธรรม, สันติภาพ, เสถียรภาพ และสิทธิมนุษยชน"

ปัจจุบัน ฟิลิปปินส์ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพีพลัส) ที่อนุญาตให้ส่งออกสินค้า 6,274 รายการไปยังสหภาพยุโรปโดยปลอดภาษี แต่สถานะนี้จะหมดอายุในสิ้นปี 2566

ภายใต้สิทธิพิเศษดังกล่าวซึ่งมอบให้ประเทศกำลังพัฒนา สหภาพยุโรปจะลดภาษีนำเข้าลงเหลือ 0% จากจำนวน 2 ใน 3 ของประเภทสินค้า แลกกับการปฏิบัติตามอนุสัญญาระหว่างประเทศ 27 ฉบับว่าด้วยสิทธิมนุษยชน, สิทธิแรงงาน, สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล

ผู้ตรวจสอบด้านสิทธิและสมาชิกรัฐสภาสหภาพยุโรปบางคนเรียกร้องให้สหภาพยุโรประงับการขยายข้อตกลงสำหรับฟิลิปปินส์ เนื่องจากการปราบปรามยาเสพติดของอดีตประธานาธิบดีดูเตอร์เตที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันราย

สงครามยาเสพติดยังคงดำเนินต่อไปภายใต้การนำของมาร์กอส แม้มีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนมากขึ้น แต่กลุ่มตรวจสอบในท้องถิ่นประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 350 รายนับตั้งแต่เขาขึ้นครองอำนาจในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว

ฟอน เดอร์ เลเยนเชื่อว่าข้อตกลงการค้าเสรีเป็นพื้นฐานสำหรับการกระจายสายการผลิตและอาจเป็นก้าวกระโดดสำหรับความร่วมมือด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในวงกว้างให้ทันสมัย

เธอกล่าวว่าสหภาพยุโรปจะสนับสนุนเงินทุน 466 ล้านยูโร (ประมาณ 17,500 ล้านบาท) เพื่อช่วยฟิลิปปินส์พัฒนา "พลังงานสีเขียว" และการรีไซเคิลพลาสติก รวมทั้งให้ข้อมูลดาวเทียมเพื่อช่วยให้ฟิลิปปินส์เตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศเลวร้ายได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งการช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของฟิลิปปินส์เพื่อรับประกันการจัดหาวัตถุดิบที่สำคัญ.