องค์การยาแห่งยุโรปลงความเห็นว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนน่าจะก่อโรคระดับไม่รุนแรงเป็นส่วนใหญ่ ขณะองค์การอนามัยโลกเตือนประเทศร่ำรวยอาจกลับมากักตุนวัคซีนอีกครั้ง
รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม 2564 กล่าวว่า การประเมินเบื้องต้นขององค์การยาแห่งยุโรป (อีเอ็มเอ) สะท้อนข้อมูลก่อนหน้านี้ขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ที่ว่ามีหลักฐานบ่งชี้ว่าโอมิครอนก่อโรครุนแรงน้อยกว่าเดลตา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่พบส่วนใหญ่ในขณะนี้ แต่มาร์โก คาวาเลรี หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์วัคซีนและภัยคุกคามสุขภาพทางชีวภาพของอีเอ็มเอยอมรับว่า ยังต้องมีการสอบสวนรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมอีก
โอมิครอนถูกตรวจพบครั้งแรกที่ประเทศแอฟริกาใต้เมื่อเดือนที่แล้วและก่อความตื่นตระหนกไปทั่วโลก ด้วยความหวั่นเกรงว่าสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งมากนี้จะแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น, ก่อโรครุนแรงขึ้น หรือหลบหลีกการป้องกันของวัคซีนได้
ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอชโอ กล่าวไว้เมื่อวันพุธว่า ข้อมูลใหม่ที่ได้จากแอฟริกาใต้บ่งชี้ถึงความเสี่ยงเพิ่มขึ้นของการติดเชื้อโอมิครอนซ้ำ
คาวาเลรีก็เปิดเผยเช่นกันว่า ข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่าโอมิครอนแพร่เชื้อง่ายกว่าเดลตา แต่ยังไม่ชัดเจนว่าสายพันธุ์นี้จะมาแทนที่เดลตาหรือไม่ เขาย้ำด้วยว่า ขณะนี้มีวิธีการป้องกันและการรักษาที่ดีขึ้นกว่าเมื่อฤดูหนาวปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน บริษัท ไฟเซอร์ และไบออนเทค ประกาศเมื่อวันพุธว่า วัคซีนโดสที่ 3 ของพวกเขามีประสิทธิภาพในการต่อต้านโอมิครอนได้ และบริษัททั้งสองกำลังพัฒนาวัคซีนสำหรับโอมิครอนโดยเฉพาะ ที่เชื่อว่าน่าจะมีออกมาภายในเดือนมีนาคม
ตอนนี้ประเทศร่ำรวยบางประเทศ เช่น เยอรมนีและอังกฤษกลับมาเผชิญการระบาดหนักในฤดูหนาวแล้ว รัฐบาลต้องออกมาตรการใหม่เพื่อควบคุมการระบาด และความหวั่นเกรงผลกระทบต่อเศรษฐกิจก็กำลังส่งผลสะเทือนตลาดการเงิน
แนวโน้มนี้ทำให้ดับเบิลยูเอชโอเตือนเมื่อวันพฤหัสบดีเรื่องข้อกำจัดในการจัดหาวัคซีนเหมือนที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
เคต โอไบรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายวัคซีนของดับเบิลยูเอชโอ กล่าวว่า ในขณะที่กำลังเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งยังไม่รู้ว่าโอมิครอนจะก่อให้เกิดอะไรขึ้น ก็มีความเสี่ยงที่การจัดหาวัคซีนทั่วโลกจะกลับคืนสู่ประเทศรายได้สูง ที่กักตุนวัคซีนเพื่อปกป้องประชากรของตนอย่างมากเกินจำเป็น
เธอเผยด้วยว่า ดับเบิลยูเอชโอกำลังตรวจสอบข้อมูลจากไฟเซอร์และไบออนเทคเกี่ยวกับโดสกระตุ้นภูมิ ซึ่งอาจมีประโยชน์ต่อการเพิ่มการป้องกันโอมิครอนก็ได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอ
ต่อมา ดับเบิลยูเอชโอมีคำแนะนำในวันเดียวกันว่า วัคซีนบูสเตอร์ "ปลอดภัยและได้ผล" หลังจากฉีดโดสสุดท้ายผ่านไป 3 เดือน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พัทยาอ่วม! ฝุ่นพิษปกคลุมทั้งเมืองดัชนีเกินมาตรฐานเกือบ 18 เท่า
พัทยา 'ขาวโพลนทั้งเมือง' AQI พุ่ง 174 ฝุ่น PM2.5 ทะลุแดง เตือนอันตรายเสี่ยงสุขภาพ
'หมอยง' เตือน 'โควิด' ระบาดหนัก นอน รพ. พุ่ง 5 พันคน/สัปดาห์
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโควิด 19 กำลังระบาดอย่างมากในประเทศไทย
'หมอธีระวัฒน์' แฉข้อมูล องค์การอนามัยโลก พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด กลับเพิ่มมากขึ้นหลังจากการฉีดวัคซีน
ศ. นพ. ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข และ ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
ระวังอันตรายจากวัณโรคปี 67 เสียชีวิตกว่า 1.3 หมื่นราย
รบ.เตือนระวังอันตรายจากวัณโรค ปี 2567 พบผู้ป่วยรายใหม่พุ่งสูงกว่า 113,000 ราย เสียชีวิตกว่า 13,000 ราย รัฐบาลตั้งเป้าลดอัตราการตายจากวัณโรคลง 95% และลดผู้ป่วยรายใหม่ลงให้ได้ถึง 90%


