รัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มจี 7 ประสานเสียงเตือนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน หากรัสเซียรุกรานยูเครนจะเผชิญกับผลลัพธ์ร้ายแรง ด้านอังกฤษฝากถึงอิหร่าน การเจรจาที่เวียนนาสัปดาห์หน้าเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว
เอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 2564 ว่า การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ นาน 2 วัน ที่เมืองลิเวอร์พูลของอังกฤษ เป็นเวทีที่โลกตะวันตกจะได้แสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวที่แข็งแกร่งในการรับมือกับภัยคุกคามระดับโลกและการทัดทานระบอบเผด็จการอำนาจนิยมทั่วโลก
การประชุมซึ่งปิดฉากในวันอาทิตย์ ประกาศว่า จี 7 มีความเป็นหนึ่งเดียวกันในการประณามการสร้างเสริมทางทหารของรัสเซียใกล้ชายแดนยูเครน และเรียกร้องให้รัสเซียลดขอบเขตความรุนแรงลง
หน่วยข่าวกรองของสหรัฐประเมินว่า รัสเซียอาจกำลังวางแผนรุกโจมตียูเครนจากหลายทางอย่างเร็วในปีหน้า โดยใช้กำลังทหาร 175,000 นาย แต่รัสเซียปฏิเสธคำกล่าวหานี้ และย้อนว่าการวางกำลังทหารเป็นมาตรการป้องกันของรัสเซียต่อกรณีที่ยูเครนขยับเข้าใกล้ชิดกับองค์การนาโตมากขึ้น
รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ เจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐรายหนึ่งกล่าวว่า ประเทศประชาธิปไตยมากมายพร้อมจะเข้าร่วมกับกลุ่มจี 7 ซึ่งได้แก่ อังกฤษ, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น และสหรัฐ ในการดำเนินการ
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จัดประชุมทางไกลกับประธานาธิบดีปูติน และได้เตือนผู้นำรัสเซียอีกเช่นกัน
ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า ที่ประชุมจี 7 มีความเห็นเป็นหนึ่งเดียวกันว่า รัสเซียจะเผชิญกับผลกระทบใหญ่หลวงหากรุกรานยูเครน
"รัสเซียไม่ควรสงสัยเลยว่า การรุกรานทางทหารต่อยูเครนอีกจะเผชิญกับผลกระทบใหญ่หลวงและค่าใช้จ่ายสูง" รอยเตอร์รายงานอ้างร่างแถลงการณ์ที่ประชุม "เราขอยืนยันอีกครั้งทั้งความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของเราต่ออธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของยูเครน รวมถึงสิทธิของรัฐอธิปไตยที่จะตัดสินอนาคตของตนเอง"
ด้านสถานทูตรัสเซียประจำกรุงลอนดอนออกแถลงการณ์ดักคอจี 7 ตั้งแต่ค่ำวันเสาร์ว่า การที่อังกฤษมักใช้วลีว่า "การรุกรานของรัสเซีย" ระหว่างการประชุมครั้งนี้ เป็นการชักนำให้เข้าใจผิดและตั้งใจสร้างเหตุผลเพื่อให้จี 7 ได้มารวมตัวกัน
ที่ประชุมกล่าวถึงอิหร่านด้วย โดยทรัสส์เตือนว่า การเจรจาครั้งใหม่ที่กรุงเวียนนาของออสเตรียในวันพฤหัสบดี ระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตก เพื่อรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 จะเป็นโอกาสสุดท้ายที่อิหร่านจะได้เข้าร่วมโต๊ะเจรจาด้วยความตกลงใจที่จริงจัง "ยังมีเวลาสำหรับอิหร่านที่จะมาทำความตกลงกับข้อตกลงนี้" เธอกล่าวระหว่างการแถลงข่าว
รัฐบาลสหรัฐในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนตัวจากข้อตกลงฉบับนี้เมื่อปี 2561 แต่ไบเดนประกาศว่ารัฐบาลของเขาพร้อมจะกลับสู่ข้อตกลง อย่างไรก็ดี ชาติตะวันตกกล่าวหาอิหร่านว่าทำให้ความคืบหน้าเมื่อต้นปีนี้กลับมาเสื่อมถอยลงและกำลังถ่วงเวลา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อิหร่าน' พร้อมใช้อาวุธนิวเคลียร์แล้วหรือยัง?
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนพูดถึงอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ฝ่ายปกครองของมัลลาห์น่าจะพัฒนาระเบิดปรมาณู
อิหร่านขู่ยิวอย่าเอาคืนหลังเจอถล่ม
ตะวันออกกลางระอุ! อิหร่านเปิดฉากโจมตีอิสราเอลด้วยโดรนและขีปนาวุธสางแค้นสถานทูตในซีเรียถูกถล่ม “เนทันยาฮู”
‘นพดล’ ชี้ข่าวดีหาก ‘อิหร่าน’ ยุติโจมตี ‘อิสราเอล’ ห่วงคนไทยขอให้ฟังคำเตือนสถานทูต
กรรมาธิการห่วงใยชีวิตของคนไทยเกือบ 30,000 คนที่ทำงานในประเทศอิสราเอล และเข้าใจว่ามีแรงงานบางส่วนเริ่มเดินทางกลับไปทำงานเพราะต้องมีรายได้เลี้ยงครอบครัว
‘พีระพันธุ์’ สั่งปลัดพลังงาน จับตาผลกระทบด้านพลังงาน สงคราม ’อิหร่าน-อิสราเอล’
รมว.พลังงานเผยสั่งการให้ท่านปลัดฯและหน่วยงานทุกหน่วยของกระทรวงพลังงานติดตามรายงานสถานการณ์ คาดการณ์ผลกระทบและแนวทางในการรับมือด้านพลังงานตลอดเวลาเช่นกัน
'ปชป.' แนะรัฐบาลเร่งวางแผนรับมือวิกฤตเศรษฐกิจหลังอิหร่านโจมตีอิสราเอล
“อลงกรณ์”หวั่นสงครามขยายตัวส่งผลน้ำมันเงินเฟ้อพุ่งส่งออกลดเศรษฐกิจทรุดกระทบปากท้องประชาชน