สหรัฐหาทางลงดาบเมียนมาเพิ่ม เชิญอาเซียนหารือปีหน้า

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวระหว่างเยือนมาเลเซียเมื่อวันพุธว่า สหรัฐกำลังพิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อกดดันรัฐบาลทหารเมียนมากลับสู่วิถีประชาธิปไตย รวมถึงดูว่าการกระทำต่อชาวมุสลิมโรฮีนจาเป็นการล้างเผ่าพันธุ์หรือไม่ เผยประธานาธิบดีโจ ไบเดน เชิญผู้นำอาเซียนประชุมสุดยอดนัดพิเศษปีหน้า

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ แถลงที่กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2564 (Getty Images)

รายงานรอยเตอร์และเอเอฟพีกล่าวว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ มาเยือนมาเลเซียเมื่อวันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนอินโดนีเซียเป็นชาติแรกของการเดินสายเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งไทยเป็นจุดหมายสุดท้าย โดยบลิงเคนกล่าวถึงภูมิภาคอาเซียนว่า มีความสำคัญต่อโครงสร้างของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก "เราหวังอย่างยิ่งว่าจะได้ประชุมสุดยอดวาระพิเศษกับอาเซียนในปีหน้า" บลิงเคนกล่าว

ด้านไซฟุดดิน อับดุลลาห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียจะหารือกับเพื่อนสมาชิกในประชาคมอาเซียน เกี่ยวกับคำเชิญของผู้นำสหรัฐ ระหว่างการประชุมวันที่ 19 มกราคม

บลิงเคนกล่าวว่า การประชุมที่สหรัฐเชิญอาเซียนเข้าร่วมในปีหน้า นอกจากจะหารือเกี่ยวกับวิกฤติในเมียนมาแล้ว ยังคาดว่าจะครอบคลุมประเด็นอื่นๆ เช่น การฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด-19, การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การลงทุน และโครงสร้างพื้นฐาน

รายงานไม่ได้กล่าวถึงเมียนมาว่าอยู่ในคำเชิญของผู้นำสหรัฐด้วยหรือไม่ แต่บลิงเคนยอมรับว่า สถานการณ์ในเมียนมายังไม่ดีขึ้น

"ผมคิดว่า เป็นสิ่งสำคัญในหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนข้างหน้า ที่จะพิจารณาว่า ขั้นตอนและมาตรการเพิ่มเติมอะไรที่เราสามารถดำเนินการได้ ทั้งแบบเอกเทศ และแบบรวม เพื่อกดดันระบอบนี้ ให้นำประเทศกลับคืนสู่วิถีประชาธิปไตย" รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวถึงรัฐบาลทหารเมียนมาที่ยึดอำนาจจากรัฐบาลของนางอองซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ แต่เขาไม่ได้เผยรายละเอียดว่ามาตรการที่ว่านั้นคืออะไร

บลิงเคนกล่าวด้วยว่า สหรัฐกำลังพิจารณาอย่างจริงจังว่า การปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮีนจาในเมียนมานั้น "ถือเป็นการล้างเผ่าพันธุ์" หรือไม่

มีชาวโรฮีนจามากกว่า 730,000 คนหนีจากรัฐยะไข่ข้ามแดนเข้าบังกลาเทศ ภายหลังกองทัพเมียนมาเปิดฉากกวาดล้างเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 เพื่อตอบโต้ที่กลุ่มติดอาวุธโรฮีนจาโจมตีสังหารเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ผู้อพยพลี้ภัยเหล่านี้กล่าวหาเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเมียนมาว่าฆ่าหมู่และข่มขืนชาวบ้าน

สัปดาห์ที่แล้ว ภายหลังมีรายงานจากสื่อท้องถิ่นว่าทหารเมียนมาฆ่าชาวบ้าน 11 คน รวมถึงเด็กหลายคน องค์การสหประชาชาติก็ออกมาเตือนว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าตกใจในเมียนมา ในช่วงที่กองทัพพยายามบดขยี้ฝ่ายต่อต้าน ส่วนรัฐบาลสหรัฐกล่าวว่า รู้สึกเดือดดาลกับรายงานน่าสะอิดสะเอียนที่เชื่อถือได้ว่า ทหารจับชาวบ้านเหล่านี้มัดแล้วเผาทั้งเป็น.

เพิ่มเพื่อน