ฮามาสระดมยิงจรวดใส่อิสราเอลหลายพันลูก เสียชีวิตแล้ว 70 ราย

กลุ่มติดอาวุธได้เริ่ม "สงคราม" กับอิสราเอล ผ่านทางอากาศ, ทางทะเล และทางบกจากฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อมเมื่อวันเสาร์ กลายเป็นความขัดแย้งลุกลามระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ครั้งใหม่ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 70 ราย

ชาวอิสราเอลวิ่งหาที่กำบังจากจรวดที่ยิงมาจากฉนวนกาซา โดยกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม (Photo by AHMAD GHARABLI / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2566 กล่าวว่า "ฮามาส" กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ระดมยิงจรวดหลายพันลูกโจมตีอิสราเอล ตั้งแต่เวลา 06.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (10.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) มีผู้เสียชีวิตแล้ว 70 ราย บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน ตามรายงานชองหน่วยบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน Magen David Adom

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวว่า ประเทศกำลังอยู่ในภาวะสงคราม และให้คำมั่นว่าจะตอบโต้คืน พร้อมสั่งระดมกำลังสำรองของกองทัพทั่วประเทศ เพื่อให้ศัตรูต้องชดใช้การโจมตีครั้งนี้อย่างสาสม

กลุ่มฮามาสที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านและปกครองพื้นที่ในฉนวนกาซา เผยแพร่ภาพวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่านักรบของกลุ่มฯได้จับกุมชาย 3 คนในชุดพลเรือน และอธิบายว่าเป็น "ทหารศัตรู" ในคำบรรยายวิดีโอ

"เราตัดสินใจที่จะยุติความเลวร้ายทั้งหมดจากการยึดครองของอิสราเอล เวลาในการก่ออาชญากรรมโดยไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ สิ้นสุดลงแล้ว" กองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาสกล่าว และเสริมว่า "เราประกาศปฏิบัติการอัลอักซา และระดมยิงจรวดมากกว่า 5,000 ลูกใน 20 นาทีของการโจมตีครั้งแรก"

ขณะที่กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า กองกำลังของตนกำลังต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ในพื้นที่หลายแห่งใกล้ฉนวนกาซา โดยเรียกปฏิบัติการนี้ว่า "ดาบเหล็ก"

ริชาร์ด เฮชท์ โฆษกกองทัพบกกล่าวว่า กลุ่มติดอาวุธได้ร่วมโจมตีพร้อมกันในทุกทาง ผ่านท้องฟ้า, ผ่านทะเล และทางพื้นดิน และไม่ยืนยันรายงานที่ว่ามีชาวอิสราเอลถูกจับเป็นตัวประกัน

ภาพวีดีโอที่ส่งต่อทางเชียลมีเดียแสดงให้เห็นศพของผู้คนในชุดทหารนอนเกลื่อนถนน เช่นเดียวกับผู้ขับขี่รถยนต์และผู้โดยสารที่เสียชีวิตบนทางหลวง

การโจมตีด้วยจรวดจากฉนวนกาซา ซึ่งเฮชท์ระบุว่า มีจำนวนอย่างน้อย 2,200 ลูก ทำให้เกิดเพลิงไหม้รถยนต์หลายคันใต้อาคารที่พักอาศัยในเมืองอัชเคลอนของอิสราเอล ซึ่งอยู่ห่างจากฉนวนกาซาไปทางเหนือประมาณ 10 กิโลเมตร

ทั้งนี้ การแทรกซึมของกลุ่มติดอาวุธจากฉนวนกาซาซึ่งเป็นดินแดนยากจนที่มีประชากร 2.3 ล้านคน เกิดขึ้นน้อยมากนับตั้งแต่กลุ่มฮามาสเข้าควบคุมในปี 2550 อันนำไปสู่การปิดล้อมของอิสราเอลด้วยกำแพงกั้นชายแดนที่เต็มไปด้วยกำลังทหาร

การโจมตีครั้งนี้ดูเหมือนเจาะจงให้เกิดขึ้นในวันถือบวชและช่วงวันหยุดของชาวยิว

ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีกล่าวว่า กองทัพอิสราเอลเริ่มใช้เครื่องบินขับไล่หลายสิบลำโจมตีทางอากาศต่อฉนวนกาซา หลังจากจรวดจำนวนมากข้ามอาณาเขตมาตั้งแต่ช่วงเช้า

นักข่าวพบเห็นชาวปาเลสไตน์ติดอาวุธรวมตัวกันรอบๆ รถถังของอิสราเอล หลังจากที่พวกเขาข้ามเขตแดนจากฉนวนกาซาเข้ามา และพบเห็นการปล้นรถและอาวุธของอิสราเอล และนำกลับไปยังฝั่งฉนวนกาซา

เสียงไซเรนโจมตีทางอากาศดังกึกก้องไปทั่วทางตอนใต้และตอนกลางของอิสราเอล รวมถึงหลายครั้งในกรุงเยรูซาเลม ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ยินเสียงจรวดหลายลูกถูกสกัดกั้นไว้ได้โดยระบบป้องกันภัยทางอากาศ

กองทัพเรียกร้องให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงอันตราย ทำให้ชาวบ้านหลายร้อยคนเร่งออกจากบ้านในฉนวนกาซาเพื่อหนีให้ไกลจากพื้นที่ชายแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือให้มากที่สุด

ล่าสุด กลุ่มฮามาสเรียกร้องให้บรรดานักรบต่อต้านในเขตเวสต์แบงก์ รวมถึงชาติอาหรับและอิสลาม เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยกัน

กลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนซึ่งมีบทบาทต่อสู้กับสงครามทำลายล้างอิสราเอลในปี 2549 ได้ออกมายกย่องชาวปาเลสไตน์ว่าเป็นผู้กล้าหาญ

ขณะที่ชาติตะวันตกต่างประณามการโจมตีครั้งนี้อย่างรุนแรง โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปที่ถือว่ากลุ่มฮามาสเป็นกลุ่มก่อการร้าย

สหประชาชาติออกมาประณามเช่นกัน พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการโจมตีทั้งหมดทันที

ความรุนแรงระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์เพิ่มสูงขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยในเดือนพฤษภาคม การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลด้วยการยิงจรวดใส่ฉนวนกาซาได้สังหารชาวปาเลสไตน์ 34 ราย และชาวอิสราเอล 1 ราย

ความรุนแรงก่อตัวอีกครั้งภายหลังความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นในเดือนกันยายน เมื่ออิสราเอลปิดชายแดนไม่ให้ผู้คนจากฝั่งกาซาผ่านเข้าออกเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ทำให้เกิดการประท้วงของชาวปาเลสไตน์ตามแนวชายแดน ด้วยการเผายางรถยนต์, ขว้างก้อนหินและระเบิดขวดใส่กองทหารอิสราเอล ซึ่งทหารตอบโต้กลับด้วยการยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนจริง

หลายฝ่ายเชื่อว่า ความไม่สงบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่สร้างความแตกแยกโดยรัฐบาลหัวรุนแรงของเนทันยาฮู.

เพิ่มเพื่อน