นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวที่มีโอกาสได้พูดคุยกับประธานาธิบดีจีนเป็นครั้งแรกในรอบปี พร้อมแสดงความกังวลด้านกิจกรรมทางทหารของรัฐบาลปักกิ่ง รวมทั้งกรณีห้ามนำเข้าอาหารทะเลญี่ปุ่น
นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ขณะแถลงข่าวในระหว่างการประชุมเอเปกที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน (Photo by Brendan SMIALOWSKI / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีโอกาสได้หารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ระหว่างการมาเข้าร่วมประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก 2023 ที่สหรัฐอเมริกา
คิชิดะกล่าวว่า เขาได้แสดงความกังวลอย่างจริงจังต่อกิจกรรมทางทหารที่เพิ่มขึ้นของจีนใกล้กับญี่ปุ่น รวมถึงความร่วมมือกับรัสเซีย
"ผมได้เน้นย้ำถึงความสำคัญอย่างยิ่งยวดของสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวันต่อประชาคมระหว่างประเทศรวมถึงญี่ปุ่น" คิชิดะกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่นหลังการเจรจานอกรอบกับผู้นำจีน
"นอกจากนี้ ผมยังแสดงความกังวลอย่างจริงจังในประเด็นทะเลจีนตะวันออก และเรียกร้องให้จีนรื้อทุ่นลอยน้ำที่ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่น" คิชิดะกล่าว โดยอ้างถึงเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศ
ขณะที่สื่อของจีนรายงานอีกด้านว่า ผู้นำจีนบอกกับคิชิดะในการประชุมที่ซานฟรานซิสโกว่า ญี่ปุ่นและจีนจะต้องปฏิบัติตามกระแสแห่งกาลเวลา, ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ร่วมกัน และจัดการกับความแตกต่างอย่างเหมาะสม
ผู้นำจีนยังกล่าวด้วยว่า ทั้งสองประเทศจะต้องมุ่งมั่นสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ตรงตามข้อกำหนดของยุคใหม่
ช่วงที่ผ่านมา ความตึงเครียดทางทหารเพิ่มสูงขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกจากการกระทำของจีนในทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาท และการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน
นอกจากนี้ กองเรือของจีนยังได้แผ่ขยายออกไปในมหาสมุทรแปซิฟิกมากขึ้นอีกด้วย
เมื่อเดือนกันยายน รัฐบาลโตเกียวกล่าวว่าตรวจพบเรือ 6 ลำ รวมถึงเรือฟริเกต, เรือพิฆาต, เรือสนับสนุนการต่อสู้เร็ว 1 ลำ และเรือบรรทุกเครื่องบินซานตง ซึ่งแล่นไปทางใต้ประมาณ 650 กิโลเมตรจากเกาะมิยาโกจิมะ ทางตะวันออกของไต้หวัน และยืนยันการตรวจพบเครื่องบินไอพ่นและเฮลิคอปเตอร์บินขึ้นลงจากซานตง แต่จีนก็ไม่ได้แสดงความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการฝึกซ้อมใดๆ ที่เกิดขึ้นในแปซิฟิกตะวันตก
ในประเด็นการห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น คิชิดะกล่าวว่า เขาเรียกร้องผู้นำจีนให้มีการตอบสนองอย่างสงบโดยอาศัยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และให้ยกเลิกข้อจำกัดในการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารญี่ปุ่นโดยทันที
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะแสวงหาแนวทางแก้ไขผ่านการเจรจาและการอภิปรายบนพื้นฐานของทัศนคติที่สร้างสรรค์
จีนสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นทั้งหมด หลังจากที่ญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะสู่มหาสมุทรแปซิฟิกตั้งแต่เดือนสิงหาคม โดยรัฐบาลปักกิ่งประณามรัฐบาลโตเกียวว่าปฏิบัติต่อทะเลเหมือนกับ "ท่อระบายน้ำ"
ต่อมารัสเซียก็ปฏิบัติตามและสั่งห้ามการนำเข้าด้วย แม้ญี่ปุ่นยืนยันว่าการปล่อยดังกล่าวปลอดภัยตามความเห็นที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานเฝ้าระวังปรมาณูของสหประชาชาติ หรือสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ
คิชิดะกล่าวอีกว่า เขายังได้เรียกร้องให้ปล่อยตัวพลเมืองญี่ปุ่นที่ถูกควบคุมตัวในจีน
กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นระบุ ชาวญี่ปุ่นอย่างน้อย 17 คนถูกทางการจีนควบคุมตัวนับตั้งแต่กฎหมายป้องกันการจารกรรมที่แก้ไขเพิ่มเติมของจีนมีผลบังคับใช้ในปี 2558
เมื่อเดือนที่แล้ว สถานทูตญี่ปุ่นยืนยันว่าพลเมืองของตนคนหนึ่งซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทยาแอสเทลลัสของญี่ปุ่น ถูกจับกุมอย่างเป็นทางการ ไม่กี่เดือนหลังจากที่รัฐบาลปักกิ่งกล่าวว่าได้ควบคุมตัวชายผู้นี้ด้วยข้อกล่าวหาว่าเป็นสายลับ
ผู้นำญี่ปุ่นทิ้งท้ายว่า ประเทศของเขาและจีนให้คำมั่นในการเปิดโอกาสสื่อสารในประเด็นเหล่านี้และประเด็นอื่นๆต่อไป ในฐานะมหาอำนาจที่มีความรับผิดชอบในการอยู่ร่วมกัน รวมทั้งเป็นผู้นำภูมิภาคและสังคมระหว่างประเทศ อันมีส่วนสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพของโลก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อิ๊งค์’ โชว์30บ. เวทีผู้นำเอเปก
นายกฯ อิ๊งค์โชว์ผลงาน 30 บาทรักษาทุกที่ บนเวทีผู้นำภาคเอกชนเอเปก พร้อมชวนลงทุนด้านธุรกิจดูแลสุขภาพในไทย มั่นใจหลังให้นโยบาย “บีโอไอ”