อิสราเอลพบอุโมงค์ใต้โรงพยาบาลในกาซา พร้อมเผยแพร่ภาพที่อ้างว่าฮามาสพาตัวประกันมายังสถานที่นี้

แพทย์เร่งอพยพทารกจากโรงพยาบาลในใจกลางพื้นที่สู้รบมุ่งหน้าสู่อียิปต์ ขณะที่อิสราเอลพบเครือข่ายอุโมงค์ใต้โรงพยาบาลดังกล่าว

ภาพที่ถ่ายจากกล้องวงจรปิดและเผยแพร่โดยกองทัพอิสราเอล เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน เผยให้เห็นว่านักรบฮามาสนำตัวประกันเข้ามายังโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ในกาซาซิตี เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม (Photo by Israeli Army / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า การต่อสู้ดุเดือดในฉนวนกาซาล่วงเลยกว่า 6 สัปดาห์แล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด แม้จะมีผู้บาดเจ็บกว่า 30,000 คนและผู้เสียชีวิตรวมสองฝ่ายกว่า 14,200 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นเด็กมากกว่า 5,500 ราย ขณะที่สถานการณ์ปล่อยตัวตัวประกัน 240 คนยังไม่มีความคืบหน้า

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลเผยว่า ได้ค้นพบอุโมงค์ใต้โรงพยาบาลอัล-ชิฟา ในกาซาซิตี ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา โดยทอดยาวอย่างซับซ้อนราว 55 เมตร และเผยแพร่คลิปที่ระบุว่าพบ "ตัวประกัน" ภายในสถานที่ดังกล่าว

ถ้อยแถลงระบุว่า "กองกำลังของเราค้นพบอุโมงค์ก่อการร้ายความยาวยาว 55 เมตร ที่ความลึก 10 เมตรใต้กลุ่มโรงพยาบาลชิฟา ซึ่งอุโมงค์ดังกล่าวทอดยาวลอดใต้โรงพยาบาลไปสิ้นสุดที่ห้องนิรภัย

มีรายงานว่ากองทหารได้ปฎิบัติการจากอาคารหนึ่งไปอีกอาคารหนึ่ง และได้จุดชนวนระเบิดที่ชั้นล่างและชั้นใต้ดินของโรงพยาบาลเพื่อค้นหาอุโมงค์ของกลุ่มฮามาส นอกจากนี้ยังได้เผยแพร่ภาพวงจรปิดซึ่งดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาของวันที่ 7 ตุลาคม โดยระบุว่าเป็นภาพตัวประกันชาย 2 คนถูกนำตัวมายังโรงพยาบาลอัล-ชิฟา อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันข้อมูลดังกล่าวอย่างเป็นทางการ

ในเมืองข่าน ยูนิส ทางตอนใต้ กองทัพอิสราเอลได้โปรยใบปลิวที่มีข้อความเรียกร้องให้ประชาชนอพยพไปยังที่พักพิงซึ่งไม่ได้ระบุรายละเอียด ท่ามกลางการโจมตีในเกือบทุกพื้นที่ของฉนวนกาซา

องค์การอนามัยโลกได้ประเมินสถานการณ์ในโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซาและเป็นจุดศูนย์กลางของสงครามในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และระบุว่าเป็น "เขตอันตรายสูงสุด" พร้อมเรียกร้องให้อพยพผู้คนออกทั้งหมด

หน่วยงานของสหประชาชาติยังระบุอีกว่า แพทย์ปาเลสไตน์อพยพทารกคลอดก่อนกำหนด 31 รายออกจากโรงพยาบาลอัล-ชิฟาเมื่อวันอาทิตย์ ในปฏิบัติการที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมให้คำมั่นที่จะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ที่ยังคงอยู่ที่นั่นด้วย โดยเป้าหมายของการอพยพคือเดินทางเข้าอียิปต์

ชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน อัล ธานี ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีกาตาร์ที่ช่วยเจรจาปล่อยตัวตัวประกันของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาเพื่อแลกกับการหยุดยิง กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ความคืบหน้าในการเจรจาเป็นไปอย่างเชื่องช้า แต่ก็ใกล้ได้บทสรุป พร้อมแสดงความมั่นใจมากขึ้นว่าจะบรรลุข้อตกลงที่สามารถนำผู้คนกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง กล่าวว่า ฝรั่งเศสเตรียมส่งเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ 'Dixmude' ไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกเพื่อให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ในฉนวนกาซา โดยเรือดังกล่าวจะออกเดินทางในช่วงต้นสัปดาห์และเดินทางถึงอียิปต์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนเที่ยวบินเช่าเหมาลำที่บรรทุกเวชภัณฑ์มากกว่า 10 ตัน เพื่อสนับสนุนการรักษาพลเรือนในพื้นที่สู้รบ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วราวุธ' ส่งทีม พม. ร่วมเป็นกำลังใจ 5 คนไทย กลับจากอิสราเอลถึงสุวรรณภูมิ กำชับ จนท.ใน จว.บ้านเกิด เยี่ยมทุกครอบครัว-ประเมินสิทธิสวัสดิการสังคม

2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.)ได้รายงานโดยระบุว่าเมื่อเวลา 07.49 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมรับคนไทย 5 คน ที่เดินทางกลับจากอิสราเอลหลังจากได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 68 โดยได้ร่วมพูดคุยให้กำลังใจและส่งทั้ง 5 คนพร้อมครอบครัวและญาติ เดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาของแต่ละคน

อียิปต์เตือน จุดยืนของอิสราเอลต่อแผนฉนวนกาซาของทรัมป์อาจกระทบต่อการเจรจาหยุดยิง

การสนับสนุนของอิสราเอลต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะผลักดันฉนวนกาซาให้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสหรัฐฯ และการตั้งถิ่

กรณีฉนวนกาซา ทรัมป์เชื่อว่าการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์เป็นทางออกที่ดีที่สุด

หลังจากสงครามในฉนวนกาซาดำเนินมายาวนานกว่า 15 เดือน ดินแดนของปาเลสไตน์แทบหมดสภาพที่จะสามารถอยู่อาศัยได้ ทรัมป์สนับสนุ

“วราวุธ” เตรียมส่ง พม.จังหวัดภูมิลำเนา 5 แรงงานไทย หลังกลับจากอิสราเอล เยี่ยมให้กำลังใจ-ช่วยเหลือเยียวยาสิทธิสวัสดิการสังคม

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุม ครม. ว่า นายกรัฐมนตรี กำชับกระทรวงการต่างประเท