กองทัพเกาหลีเหนือยังคงยิงกระสุนปืนใหญ่ใกล้เกาะยอนพย็องเป็นวันที่ 2 หลังกองทัพเกาหลีใต้ตอบโต้การคุกคามด้วยการซ้อมรบโดยใช้กระสุนจริง
ภาพข่าวออกอากาศการยิงปืนใหญ่ของเกาหลีเหนือ ที่สถานีรถไฟในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 6 มกราคม (Photo by Jung Yeon-je / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 6 มกราคม 2567 กล่าวว่า หนึ่งวันก่อนหน้านี้ กองทัพเกาหลีเหนือดำเนินการยิงกระสุนปืนใหญ่ 200 นัดไปตกใกล้เกาะยอนพย็องและแบ็งนย็อง ซึ่งเป็นเกาะ 2 แห่งของเกาหลีใต้ที่มีประชากรอาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง จนทางการออกต้องคำสั่งให้อพยพผู้อยู่อาศัยในเกาะทั้งสองไปอยู่ในที่หลบภัย และกองทัพเกาหลีใต้ได้ทำการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงเพื่อเป็นการตอบโต้การคุกคามดังกล่าว
ล่าสุด กองทัพเกาหลีเหนือดำเนินการยิงกระสุนปืนใหญ่ 60 นัดใส่บริเวณพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะยอนพย็องเป็นวันที่ 2 ตามรายงานของเสนาธิการร่วมเกาหลีใต้
กระสุนปืนใหญ่ทั้งสองวันของเกาหลีเหนือตกลงในบริเวณที่เรียกว่าเขตกันชนตามแนวชายแดน ซึ่งสร้างขึ้นตามข้อตกลงลดความตึงเครียดปี 2560 แต่หลังจากเกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมสอดแนมเมื่อเดือนพฤศจิกายน ข้อตกลงดังกล่าวก็ถูกสองฝ่ายระงับไปในทางปฎิบัติ
กองทัพเกาหลีใต้ระบุเมื่อวันเสาร์ว่า "การยิงปืนใหญ่ซ้ำแล้วซ้ำอีกภายในเขตอยู่อาศัยของพลเรือน ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี และเพิ่มความตึงเครียดอย่างมากจากการกระทำที่ข่มขู่พลเมืองของเรา"
"เพื่อเป็นการตอบสนอง กองทัพของเราจะใช้มาตรการที่เหมาะสมต่อไป" คำแถลงระบุ
แต่เกาหลีเหนือระบุเมื่อวันศุกร์ว่า การซ้อมรบด้วยกระสุนจริงของตนไม่มีผลกระทบใดๆต่อหมู่เกาะบริเวณชายแดนด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ เกาะยอนพย็องซึ่งมีผู้อยู่อาศัยประมาณ 2,000 คน อยู่ห่างจากกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ ประมาณ 115 กิโลเมตร
ย้อนหลังไปในปี 2553 เกาหลีเหนือได้ทิ้งระเบิดโจมตีเกาะยอนพย็อง ทำให้ชาวเกาหลีใต้เสียชีวิต 4 ราย แบ่งเป็นทหาร 2 นายและพลเรือน 2 ราย ซึ่งครั้งนั้นเกาหลีเหนืออ้างว่าทำเพื่อตอบโต้การซ้อมรบด้วยกระสุนจริงของเกาหลีใต้ใกล้ชายแดนทางทะเล
การโจมตีของเกาหลีเหนือครั้งนั้นถือเป็นการโจมตีพื้นที่พลเรือนครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคสงครามเกาหลี (2493-2496)
ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีตกต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ หลังจากที่คิมจองอึนบรรจุสถานะพลังงานนิวเคลียร์ไว้ในรัฐธรรมนูญของประเทศ และทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลขั้นสูงหลายต่อหลายครั้ง
ในทางเทคนิคแล้ว เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ยังคงสถานะอยู่ในภาวะสงคราม เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างปี 2493-2496 สิ้นสุดลงด้วยการสงบศึก ไม่ใช่สนธิสัญญา และพรมแดนส่วนใหญ่ระหว่างทั้งสองมีการป้องกันอย่างแน่นหนา อีกทั้งพรมแดนทางทะเลที่มีข้อโต้แย้งอยู่ในปัจจุบันก็ไม่เคยมีการทำข้อตกลงแบ่งเขตกันอย่างเป็นทางการมาก่อน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ปูติน' ส่งมอบรถรัสเซียให้กับ 'คิม จอง อึน'
วลาดิมีร์ ปูติน-ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ส่งมอบรถยนต์ที่ผลิตในรัสเซียให้แก่ผู้นำเกาหลีเหนือ-คิม จอง อึน เป็นของขวัญ ตาม