กลุ่มฮามาสประณามการโจมตีของสหรัฐฯ ในอิรักและซีเรียเมื่อคืนวันศุกร์ว่าเป็นการราดน้ำมันลงบนกองไฟในภูมิภาคตะวันออกกลาง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง จิล ไบเดน เข้าร่วมพิธีรับศพทหารสหรัฐฯ 3 นายที่ถูกสังหารจากการโจมตีด้วยโดรนในจอร์แดน ที่ฐานทัพอากาศโดเวอร์ในเมืองโดเวอร์ รัฐเดลาแวร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ (Photo by Roberto SCHMIDT / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 กล่าวว่า สืบเนื่องจากเหตุโดรนโจมตีลำหนึ่งพุ่งชนฐานทัพทหารในจอร์แดนและคร่าชีวิตทหารอเมริกัน 3 นาย ซึ่งรัฐบาลวอชิงตันให้คำมั่นว่าจะตอบโต้อย่างเด็ดขาดต่อการโจมตีดังกล่าวที่เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
ล่าสุดเมื่อคืนวันศุกร์ กองทัพสหรัฐเปิดปฎิบัติการทางอากาศโจมตีเป้าหมายกลุ่มติดอาวุธดังกล่าวทั้งหมด 85 จุด ใน 7 พื้นที่ทั้งของซีเรียและอิรัก
การโจมตีข้ามคืนได้สังหารนักรบกองหนุนอิหร่านในซีเรียอย่างน้อย 23 ราย และอีก 16 รายในอิรัก ซึ่งมีรายงานว่าพลเรือนบางส่วนเสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ด้วย
กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ "ฮามาส" ได้ประณามการโจมตีของสหรัฐฯ ในอิรักและซีเรียเมื่อคืนวันศุกร์ โดยระบุว่า รัฐบาลวอชิงตันได้ราด "น้ำมันลงบนกองไฟ" ในตะวันออกกลาง
"สหรัฐฯต้องรับผิดชอบต่อผลที่ตามมาของการรุกรานอันโหดร้ายต่ออิรักและซีเรีย เสมือนเป็นการราดน้ำมันลงบนกองไฟ" กลุ่มฮามาสระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เป็นภาษาอังกฤษ
"เรายืนยันว่าภูมิภาคนี้จะไม่มีทางพบกับความมั่นคงหรือสันติภาพใดๆ เว้นเสียแต่ว่าจะมีการหยุดยั้งการรุกรานของอิสราเอลและอาชญากรรมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อประชาชนปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา" แถลงการณ์ระบุ
นอกจากกลุ่มฮามาสแล้ว อิรัก, อิหร่านและรัสเซียก็ออกมาประณามการโจมตีของสหรัฐฯเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ นับตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมปีที่แล้ว กองทหารสหรัฐฯ และกองกำลังพันธมิตรถูกโจมตีมากกว่า 165 ครั้งในอิรัก, ซีเรีย และจอร์แดน ด้วยฝีมือของกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านซึ่งไม่พอใจที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนอิสราเอลในสงครามฉนวนกาซา
ความสูญเสียของทหารสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางและการตอบโต้เอาคืนของรัฐบาลวอชิงตันทำให้เกิดความกังวลว่าความขัดแย้งจะทวีความรุนแรงและแพร่ระบาดจากฉนวนกาซาไปยังพื้นที่อื่นๆ ของภูมิภาค
สงครามในฉนวนกาซาเกิดขึ้นจากการที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม อันส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,160 ราย และจับตัวประกันได้ประมาณ 250 คน โดยปัจจุบันมี 132 คนที่ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซา และอีกอย่างน้อย 29 รายที่เชื่อว่าเสียชีวิตไปแล้วจากหลายสาเหตุ
กองทัพอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่องเป็นการตอบโต้ ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 27,238 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มกบฏยึดครองอเลปโปเบ็ดเสร็จ ‘อัสชาด’ ถึงขั้นขู่จะทำลายล้าง
ตามรายงานระบุว่า นักรบญิฮาดได้เข้ายึดเมืองอเลปโปของซีเรียเรียบร้อยแล้ว ด้านอิหร่านให้คำมั่นจะสนับสนุนระบอบการปกครองของบาชาร์ อัล-อัสซาดต่อ
ฝนและความหนาวเย็นทำให้สถานการณ์ของผู้พลัดถิ่นและตัวประกันในฉนวนกาซารุนแรงขึ้น
ชาวปาเลสไตน์ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ในฉนวนกาซาต้องพลัดถิ่นตั้งแต่เริ่มสงคราม ขณะนี้พวกเขากำลังเผชิญกับภาว