เฮติประกาศภาวะฉุกเฉินหลังนักโทษแหกคุกครั้งใหญ่

รัฐบาลเฮติประกาศภาวะฉุกเฉินและเคอร์ฟิวในเวลากลางคืนเมื่อวันอาทิตย์ เพื่อพยายามควบคุมความสงบ หลังจากกลุ่มอาชญากรโจมตีเรือนจำหลักของเมืองหลวงจนทำให้นักโทษหลายพันคนหลบหนีออกมาได้

ยางรถยนต์กำลังลุกไหม้ใกล้กับเรือนจำแห่งชาติในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของประเทศเฮติ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม หลังจากการแหกคุกโดยนักโทษหลายพันคน (Photo by Luckenson JEAN / AFPTV / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 4 มีนาคม 2567 กล่าวว่า รัฐบาลของสาธารณรัฐเฮติประกาศเคอร์ฟิวในภูมิภาคแวสต์ รวมถึงเมืองหลวงปอร์โตแปรงซ์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 05.00 น. จนถึงวันพุธเป็นอย่างน้อย หลังเกิดเหตุจลาจลในเรือนจำที่นักโทษหลายพันคนหลบหนีออกมาได้

เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ กลุ่มอาชญากรหนึ่งได้เข้าโจมตีเรือนจำแห่งชาติในปอร์โตแปรงซ์ตลอดทั้งคืนวันเสาร์ถึงวันอาทิตย์ เป็นส่วนหนึ่งของความรุนแรงครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงของเฮติ ซึ่งกลุ่มติดอาวุธที่ควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองได้ก่อความวุ่นวายมาตั้งแต่วันพฤหัสบดี

กลุ่มอาชญากรกล่าวว่าพวกเขาต้องการขับไล่นายกรัฐมนตรีอารีแยล อองรี ซึ่งเป็นผู้นำประเทศที่ประสบวิกฤตินี้นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโฌเวแนล โมอิส ถูกยิงเสียชีวิตในปี 2564

เครือข่ายแห่งชาติเพื่อการป้องกันสิทธิมนุษยชนเปิดเผยว่า มีนักโทษประมาณ 3,800 คนในเรือนจำแห่งชาติ แต่หลังเกิดการโจมตีเรือนจำดังกล่าว ล่าสุดเหลือนักโทษเพียงประมาณ 100 คนเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบศพอยู่ข้างนอกเรือนจำหลายสิบศพ โดยบางส่วนมีบาดแผลจากกระสุนปืนหรืออาวุธหนักประเภทอื่นๆ

ในแถลงการณ์เมื่อค่ำวันอาทิตย์ รัฐบาลเฮติกล่าวว่ากองกำลังความมั่นคงได้รับคำสั่งให้ใช้วิธีการทางกฎหมายทุกวิถีทางเพื่อประกาศเคอร์ฟิวและควบคุมตัวผู้ที่ฝ่าฝืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้รัฐบาลใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อควบคุมความสงบกลับคืนมาและรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง

ปัจจุบัน แพทริค มิเชล บัวสเวิร์ต รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ เป็นผู้สั่งการบริหารในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรีของประเทศ เนื่องจากอารีแยล อองรี เดินทางไปปฎิบัติภารกิจอยู่ในเคนยาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เพื่อลงนามข้อตกลงขอสนับสนุนกำลังตำรวจจากประเทศแอฟริกาตะวันออกแห่งนี้ ภายใต้การสนับสนุนจากสหประชาชาติ

รัฐบาลเฮติมีความอ่อนแออย่างมากในการจัดการกับพวกอันธพาลนอกกฎหมายที่ทำการลักพาตัวและก่ออาชญากรรมรุนแรงอื่นๆ อย่างแพร่หลาย และกลุ่มแก๊งต่างๆ นั้นเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธได้ดีกว่าตำรวจเสียอีก จึงเป็นที่มาให้เฮติจำเป็นต้องขอการสนับสนุนกำลังตำรวจจากประเทศอื่น

มีรายงานเพิ่มเติมว่ากลุ่มอาชญากรยังได้โจมตีเรือนจำแห่งที่สองชื่อว่า Croix des Bouquets ด้วยเช่นกัน ยังไม่ชัดเจนว่ามีนักโทษกี่คนที่หลบหนีออกจากเรือนจำแห่งนี้ แต่มีรายงานว่าสามารถควบคุมตัวนักโทษได้แล้ว 1,450 คน

หนังสือพิมพ์รายวัน เลอ นูเวลลิสต์ ของเฮติ ระบุว่า หัวหน้าแก๊งและผู้คนที่มีชื่อเสียงในกรณีเกี่ยวข้องกับข้อหาลอบสังหารโฌเวแนล โมอิส เป็นหนึ่งในบรรดานักโทษสำคัญที่ถูกจองจำในเรือนจำแห่งชาติ ซึ่งอยู่ห่างจากพระราชวังแห่งชาติเพียงไม่กี่ร้อยเมตร

เลอ นูเวลลิสต์ ระบุว่าเรือนจำแห่งชาติถูกคนร้ายสอดแนมตั้งแต่วันพฤหัสบดีด้วยโดรน ก่อนถูกโจมตีในช่วงเย็นวันเสาร์ และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่านายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับเฮติแล้วหรือไม่หลังเสร็จภารกิจในเคนยา

เฮติ ซึ่งเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในซีกโลกตะวันตก ตกอยู่ในความสับสนอลหม่านมานานหลายปี และการลอบสังหารประธานาธิบดีในปี 2564 ทำให้ประเทศยิ่งไม่ปลอดภัยมากขึ้น จนตำแหน่งประธานาธิบดีต้องว่างลงถึงปัจจุบัน

กลุ่มอาชญากรเรียกร้องให้นายกฯอองรีลาออกตามข้อตกลงทางการเมืองที่กำหนดให้เฮติต้องจัดการเลือกตั้ง และให้เขาส่งต่ออำนาจให้กับตัวแทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้งใหม่ภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ของปีนี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผู้ช่วยผบ.ตร. บินด่วนติดตามไล่ล่า 'เสี่ยแป้ง' จับได้แล้ว 2 คนช่วยพาหนีคุก

พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. พร้อมด้วยรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เดินทางมาติดตามคืบหน้าของคดีติดตามจับกุมนายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาคนสำคัญจากจ.พัทลุง