ออคัส (AUKUS) จับตาดูความร่วมมือของญี่ปุ่น เล็งดึงเข้ากลุ่มพันธมิตร

ออสเตรเลีย, อังกฤษ และสหรัฐฯ กำลังพิจารณาความร่วมมือกับญี่ปุ่น เพื่อดึงเข้าร่วมสนธิสัญญาความมั่นคงออคัส (AUKUS)

นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น (ซ้ายบนพรมแดง) และยูโกะ คิชิดะ ผู้เป็นภริยา เดินทางถึงฐานทัพร่วมแอนดรูว์ ในรัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 เมษายน (Photo by OLIVIER DOULIERY / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 9 เมษายน 2567 กล่าวว่า พันธมิตรกลุ่มออคัส (AUKUS - กติกาสัญญาความมั่นคงไตรภาคีระหว่างประเทศออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา) ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่ากำลังพิจารณาจุดแข็งของญี่ปุ่นจากความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับประเทศต่างๆ ในฐานะพันธมิตรใหม่ของกลุ่มซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อตรวจสอบอำนาจทางการทหารที่เพิ่มขึ้นของจีน

"นับตั้งแต่ก่อตั้ง AUKUS ทางกลุ่มก็มีความชัดเจนในเจตนาที่จะมีส่วนร่วมกับชาติอื่นด้วยในโครงการ Pillar II" คำแถลงระบุ

AUKUS ก่อตั้งขึ้นในปี 2564 และมีเป้าหมายเชิงปฏิบัติหลัก 2 ประการ ได้แก่ 'Pillar I' คือเป้าหมายในการจัดหากองเรือดำน้ำโจมตีพลังงานนิวเคลียร์ให้กับออสเตรเลีย

'Pillar II' คือการมุ่งเน้นการพัฒนาความสามารถในการสู้รบขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์, โดรนใต้ทะเล และขีปนาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียง

คำแถลงเมื่อวันอังคารระบุว่า ในการแสวงหาโอกาสในอนาคต กลุ่มพันธมิตรจะพิจารณานวัตกรรมทางเทคโนโลยี, การเงิน, จุดแข็งของอุตสาหกรรม และความสามารถในการปกป้องข้อมูลและสารสนเทศที่ละเอียดอ่อนอย่างเพียงพอ

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลวอชิงตันมีความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของญี่ปุ่นในการปกป้องและจัดการกับข่าวกรองที่ละเอียดอ่อน

แต่นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบานีส ของออสเตรเลียกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงแคนเบอร์ราว่า การมีส่วนร่วมของญี่ปุ่นจะมีไว้สำหรับ 'Pillar II' เท่านั้น โดยจะไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มแบบถาวร

คำแถลงดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น จะพบปะกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ในการประชุมสุดยอดในวันพุธ ซึ่งถือเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ

ญี่ปุ่นกำลังเพิ่มงบประมาณใช้จ่ายทางทหารเป็นสองเท่าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยกเครื่องกลยุทธ์ด้านความปลอดภัย และมีรายงานว่าคิชิดะและไบเดนอาจตกลงที่จะยกระดับโครงสร้างการบังคับบัญชาและควบคุมของสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

คิชิดะบอกกับสื่อท้องถิ่นก่อนออกเดินทางว่า ความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-สหรัฐฯ มีความสำคัญ เนื่องจากสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงทั่วโลกเริ่มผันผวนมากขึ้น.

เพิ่มเพื่อน