อิสราเอลเดินหน้าถล่มราฟาห์ ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนออกปากเตือนว่าจะตัดความช่วยเหลือด้านอาวุธ หากยังดื้อดึงโจมตีต่อไป
รถถังและยานพาหนะทางทหารอื่นๆ ของกองทัพอิสราเอลประจำการอยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอลใกล้ชายแดนฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม (Photo by AHMAD GHARABLI / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม 2567 กล่าวว่า อิสราเอลไม่สนคำทัดทานนานาชาติ เดินหน้าส่งรถถังเข้าไปยังเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ในปฏิบัติการโจมตีแบบกำหนดเป้าหมายยังที่ตั้งกองพันสุดท้ายของกลุ่มฮามาส ที่รายล้อมด้วยพลเรือนพลัดถิ่นชาวปาเลสไตน์
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า มีการยิงโจมตีอย่างหนักในเมืองราฟาห์เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดี และกองทัพอิสราเอลกล่าวในเวลาต่อมาว่าพวกเขายังมุ่งโจมตีที่มั่นของกลุ่มฮามาสบริเวณใจกลางฉนวนกาซาอีกด้วย
ในการให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นเมื่อวันพุธ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เตือนอิสราเอลว่า วอชิงตันจะหยุดส่งอาวุธให้กับอิสราเอล หากพวกเขายังคงดื้อดึงโจมตีภาคพื้นดินในเมืองราฟาห์ที่ถูกคุกคามมายาวนาน
"ถ้าพวกเขาเข้าไปในราฟาห์ ผมจะไม่จัดหาอาวุธและกระสุนปืนใหญ่เพื่อให้พวกเขาไปใช้ทำลายเมืองอีกแล้ว" ไบเดนบอกกับซีเอ็นเอ็น
เมื่ออิสราเอลได้ทราบถึงข้อความดังกล่าว ก็ตอบกลับว่าคำขู่ของผู้นำสหรัฐนั้นน่าผิดหวังอย่างยิ่ง
กิลาด เออร์ดาน ทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติพูดถึงคำสัมภาษณ์ของไบเดนว่าเป็นคำกล่าวที่น่าผิดหวังอย่างยิ่งที่ได้รับฟังจากประธานาธิบดีที่เรารู้สึกขอบคุณมาตั้งแต่เริ่มสงคราม
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าวันอังคาร อิสราเอลได้ยึดจุดผ่านแดนราฟาห์ที่เชื่อมต่อกับพรมแดนอียิปต์และทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นหลักในการนำทางความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อม
ทำเนียบขาวประณามการหยุดชะงักของการส่งมอบเพื่อมนุษยธรรมในขณะนั้น และรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐยืนยันว่ารัฐบาลวอชิงตันได้ระงับการส่งระเบิดหนักไปยังอิสราเอลชั่วคราว หลังจากที่ล้มเหลวในการจัดการกับข้อกังวลเกี่ยวกับการโจมตีภาคพื้นดินในราฟาห์
ไบเดนกล่าวในการให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ด้วยว่า เขาเสียใจที่พลเรือนถูกสังหารในฉนวนกาซาด้วยระเบิดของสหรัฐ แต่ก็ยังยืนยันว่าสหรัฐฯ จะไม่เดินหนีจากความมั่นคงของอิสราเอลในฐานะพันธมิตรเหนียวแน่น
ปัจจุบัน สหรัฐฯ, อียิปต์ และกาตาร์ ต่างพยายามอย่างหนักในการเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่ในไคโร โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นผู้ไกล่เกลี่ยในข้อตกลงหยุดยิงของสงครามที่กินเวลานาน 7 เดือน
แหล่งข่าวระบุว่า กลุ่มนักรบญิฮาดอิสลามซึ่งต่อสู้เคียงข้างกลุ่มฮามาส และแนวร่วมมาร์กซิสต์เพื่อการปลดปล่อยปาเลสไตน์ ก็เข้าร่วมกับการเจรจาและเปิดกว้างที่จะบรรลุข้อตกลงเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กลุ่มฮามาสเคยเตือนว่าการเจรจาในกรุงไคโรจะเป็น "โอกาสสุดท้าย" ของอิสราเอลที่จะได้ตัวประกันคืนไป ดังนั้นอิสราเอลจึงควรพิจารณาให้ดี
นอกจากนี้ ผู้ไกล่เกลี่ยอย่างกาตาร์ยังได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้มีการดำเนินการระหว่างประเทศอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันไม่ให้เมืองราฟาห์ถูกรุกรานจนกลายเป็นอาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฝนและความหนาวเย็นทำให้สถานการณ์ของผู้พลัดถิ่นและตัวประกันในฉนวนกาซารุนแรงขึ้น
ชาวปาเลสไตน์ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ในฉนวนกาซาต้องพลัดถิ่นตั้งแต่เริ่มสงคราม ขณะนี้พวกเขากำลังเผชิญกับภาว