สังคมออนไลน์จีนระอุ หญิงท้องแก่ 8 เดือนถูกโรงพยาบาลในนครซีอานปฏิเสธรับการรักษาเพราะไม่มีผลตรวจไวรัส ระหว่างที่เมืองยังล็อกดาวน์ควบคุมโควิด-19 ส่งผลให้เธอแท้งลูก เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขต้องแถลงขอโทษและสั่งพักงานผู้รับผิดชอบ

รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม 2565 กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ได้รับการเปิดเผยผ่านโพสต์ทางเว่ยป๋อ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเหมือนทวิตเตอร์ของจีน เมื่อวันที่ 1 มกราคม โดยหลานของหญิงผู้นี้โพสต์ภาพถ่ายและวิดีโอที่สตรีตั้งครรภ์ 8 เดือนคนนี้นั่งบนเก้าอี้พลาสติกด้านนอกโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองซีอาน โดยมีเลือดนองรอบตัว
โพสต์ถูกลบไปแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นได้ผ่านสายตาผู้ใช้งานออนไลน์หลายร้อยล้านคน และก่อความเดือดดาลเกี่ยวกับความยากลำบากที่ชาวเมืองซีอานในมณฑลฉ่านซีต้องเผชิญในช่วงเวลาของการล็อกดาวน์นาน 2 สัปดาห์ เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19
เหตุการณ์นี้ทำให้หลิว ซุนจื้อ ผู้อำนวยการคณะกรรมการสุขภาพเมืองซีอาน ต้องแถลงขอโทษเมื่อวันพฤหัสบดี "ข้าพเจ้าขอโทษอย่างสุดซึ้งต่อคนไข้ท่านนี้ ในนามของคณะกรรมการสุขภาพของเมือง" เขากล่าวก่อนจะลุกขึ้นแล้วโค้งคำนับขอโทษต่อหน้าผู้สื่อข่าว
เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวว่า โรงพยาบาลได้รับคำสั่งให้ "ชดใช้" แก่สตรีผู้นี้ และขอโทษที่การเข้าถึงการดูแลทางการแพทย์ไม่ราบรื่นระหว่างภาวะโรคระบาด
ก่อนหน้านี้เมืองซีอานออกแถลงการณ์ว่า เหตุการณ์ที่โรงพยาบาลซีอานเกาสินก่อให้เกิดความกังวลอย่างกว้างขวางและส่งผลกระทบต่อสังคมในเชิงลบ สำนักงานด้านสุขภาพท้องถิ่นกำลังสอบสวน โดยผู้จัดการโรงพยาบาลถูกพักงาน รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบแผนกผู้ป่วยนอก
แถลงการณ์ดังกล่าวมีคนอ่านมากกว่า 700 ล้านครั้งในวันพฤหัสบดี แสดงให้เห็นว่าสังคมจีนให้ความสนใจกับเหตุการณ์นี้อย่างมากมาย
ข้อมูลในโพสต์เมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่สะพัดทางเว่ยป๋อกล่าวว่า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลปฏิเสธรับหญิงท้องแก่คนนี้เป็นคนไข้ โดยปล่อยให้เธอรอนาน 2 ชั่วโมง เหตุผลเพราะเธอไม่มีผลตรวจโควิดเป็นลบภายใน 48 ชั่วโมงมาแสดง หลานสาวของเธอกล่าวว่า ผลตรวจเก่าของเธอเพิ่งหมดอายุไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น
กรณีของหญิงคนนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของความเดือดร้อนที่เกิดจากการบริหารจัดการที่สับสนอลหม่านระหว่างการล็อกดาวน์เมืองนี้ โดยก่อนหน้านี้ชาวเมืองพากันร้องเรียนว่าขาดแคลนอาหารและสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน
เมื่อวันพุธ เจ้าหน้าที่เมืองซีอานเปิดเผยว่ากำลังเปิด "ช่องทางสีเขียว" สำหรับการรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วนสำหรับคนบางกลุ่ม เช่น หญิงมีครรภ์และผู้ป่วยหนัก
คำประกาศนี้มีออกมาหลังจากสตรีรายที่ 2 เปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียว่า เธอเองก็เพิ่งแท้งลูกคนแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากโดนโรงพยาบาลหลายแห่งปฏิเสธ
ยังมีชาวซีอานอีกคนเผยว่า พ่อของเธอที่มีอายุ 61 ปีเสียชีวิตลงเมื่อวันจันทร์ เพราะถูกโรงพยาบาลหลายแห่งปฏิเสธการรักษาอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง "เนื่องจากกฎที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาด" เธอต้องขับรถนาน 8 ชั่วโมงเพื่อหาโรงพยาบาล สุดท้ายเมื่อมีโรงพยาบาลรับเป็นคนไข้ หมอก็บอกว่าคนไข้รอนานเกินไป โพสต์นี้มีคนเข้าดูมากกว่า 500 ล้านครั้ง
ทางการจีนยึดนโยบายกำจัดโควิดให้เหลือศูนย์ โดยใช้มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด แต่ยอดผู้ติดเชื้อในช่วงไม่กี่สัปดาห์เพิ่มขึ้นเป็นสถิติสูงสุดนับแต่เดือนมีนาคม 2563 โดยเฉพาะที่เมืองซีอาน ซึ่งทำให้ต้องล็อกดาวน์ประชากรทั้งเมือง 13 ล้านคน ข้อมูลอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดี จีนมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 189 คน รวมถึง 63 คนในเมืองซีอาน
วันเดียวกัน ทางการเมืองซวีฉาง มณฑลเหอหนาน ซึ่งอยู่ติดกับฉ่านซี ประกาศว่าจะตรวจไวรัสชาวเมืองมากกว่า 4 ล้านคน หลังจากพบผู้ติดเชื้อ 50 รายในวันพฤหัสบดี ขณะที่เมืองเจิ้งโจว เมืองหลวงของมณฑลนี้สั่งระงับเส้นทางเดินรถบัสโดยสารหลายสิบสาย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขำไม่ออก! อดีต รมว.กต. โวรัฐบาลอิ๊งค์เจรจาสหรัฐ-จีน กดดันกัมพูชาเคารพข้อตกลงสันติภาพได้สำเร็จ
"มาริษ" แนะดึงจีนร่วมกดดันกัมพูชาให้เคารพข้อตกลง-รักษาสมดุลมหาอำนาจ-สื่อสารสหรัฐฯ โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง
กระแสชื่นชม สมเด็จพระราชินี จากชาวจีนสะท้อนอะไร
ความคิดเห็นของชาวจีนจำนวนมากพูดตรง ๆ เลยว่า “งดงาม สง่างาม มีความสูงศักดิ์” และ “ดูจริงใจ ไม่ใช่การแสดง”
ไทยหวังพึ่งจีนได้หรือไม่ ในกรณีถูกสหรัฐฯกดดัน 'เอ็ดดี้' มีคำตอบ
ไทยสามารถหวังพึ่งจีนในมิติของการสนับสนุนทางการทูตและเศรษฐกิจเพื่อคานอำนาจได้ แต่ไม่สามารถคาดหวังความช่วยเหลือทางทหารโดยตรงในปัญหาชายแดนกับกัมพูชา
ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ เยือนปักกิ่ง วันที่ 2 รัฐบาลจีนต้อนรับถวายพระเกียรติยศสูงสุด
ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ เยือนปักกิ่งวันที่ 2 รัฐบาลจีนต้อนรับถวายพระเกียรติยศสูงสุด
นายกฯ เผยข่าวดี 'ปธน.สี จิ้นผิง' กราบบังคมทูล 'ในหลวง' จีนซื้อข้าวไทย 5 แสนตัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ที่อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

