โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน วิพากษ์วิจารณ์คู่แข่งทางการเมืองจากพรรคเดโมแครตอย่างรุนแรง และเตือนถึงผลที่เลวร้ายต่อตะวันออกกลางหากเขาไม่ได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง ขณะพบกับเบนจามิน เนทันยาฮู ที่ฟลอริดา
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล (ซ้าย) และซารา ผู้เป็นภริยา (ขวา) ได้รับการต้อนรับจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่มาร์อาลาโกในปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม (Photo by Handout / Israeli Government Press Office / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2567 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ และได้ทำภารกิจสำคัญหลายอย่างทั้งกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาสหรัฐ, หารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน และพบปะกับรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต
ล่าสุด เนทันยาฮูเดินทางไปยังฟลอริดาเพื่อเข้าพบกับโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน
ทรัมป์ทักทายเนทันยาฮูและซารา ภริยาของเขาอย่างอบอุ่น โดยหอมแก้มเธอทั้งสองข้าง จากนั้นจับมือกับนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งมานานขณะที่พวกเขามาถึงรีสอร์ตมาร์อาลาโก
เนทันยาฮูโพสต์รูปถ่ายออนไลน์ซึ่งเป็นภาพที่เขาถือหมวกที่มีข้อความว่า "ชัยชนะโดยสมบูรณ" ซึ่งสื่อถึงคำมั่นว่าจะบรรลุผลสำเร็จเหนือกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ขณะที่เขายืนอยู่ข้างทรัมป์
การพบปะครั้งนี้มีการเชื่อมโยงกับกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีผู้ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำอิสราเอลเกี่ยวกับสถานการณ์ในฉนวนกาซาในการพบปะเมื่อวันก่อน
ทรัมป์เปิดประเด็นกับเนทันยาฮูว่า "ประเทศของเรามีคนไร้ความสามารถกำลังบริหารงานอยู่"
ทรัมป์กล่าวว่า "ถ้ารีพับลิกันชนะเลือกตั้ง ทุกอย่างจะออกมาดีและรวดเร็ว แต่ถ้าเราไม่ชนะ โลกอาจต้องเผชิญกับสงครามใหญ่ๆ ในตะวันออกกลาง และอาจเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม"
ต่อมาทีมหาเสียงของทรัมป์ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการพบปะครั้งนี้ โดยระบุว่าทรัมป์รับปากว่าหากเขากลับไปที่ทำเนียบขาว เขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อนำสันติภาพมาสู่ตะวันออกกลางและต่อสู้กับลัทธิต่อต้านชาวยิวไม่ให้แพร่กระจายไปทั่วมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ
บรรยากาศของการพูดคุยดังกล่าวแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากการพบกันของเนทันยาฮูกับแฮร์ริสเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งรองประธานาธิบดีหญิงบอกให้เขาลงนามข้อตกลงสันติภาพในฉนวนกาซา และยืนกรานว่าเธอจะไม่นิ่งเฉยเกี่ยวกับความทุกข์ทรมานในดินแดนปาเลสไตน์
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซาในช่วงเก้าเดือนที่ผ่านมานั้นเลวร้ายมาก เต็มไปด้วยภาพของเด็กที่เสียชีวิตและผู้คนหิวโหยสิ้นหวังที่หลบหนีเพื่อความปลอดภัย รวมทั้งต้องอพยพครั้งแล้วครั้งเล่า" แฮร์ริสกล่าว
ทรัมป์กล่าวถึงแฮร์ริสว่าเป็น "พวกหัวรุนแรงฝ่ายซ้าย" และ "คำพูดของเธอไม่ให้เกียรติ ไม่ค่อยเป็นมิตรต่ออิสราเอล"
ฉนวนกาซาได้รับความเสียหายจากปฏิบัติการของอิสราเอลที่ดำเนินมานานกว่าเก้าเดือนต่อกลุ่มฮามาสซึ่งเปิดฉากโจมตีในเดือนตุลาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในอิสราเอล 1,197 ราย ขณะที่ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 39,175 รายเสียชีวิตในการตอบโต้ของอิสราเอล
เนทันยาฮูมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทรัมป์มากกว่าไบเดนอย่างเห็นได้ชัด และขัดแย้งกับฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีคนปัจจุบันในประเด็นต่างๆ รวมถึงการเสียชีวิตของพลเรือนในฉนวนกาซาและความรวดเร็วในการส่งมอบอาวุธของสหรัฐฯ ให้กับอิสราเอล
ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภา ผู้นำอิสราเอลยกย่องทั้งไบเดนและทรัมป์ แต่ขอบคุณต่อเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในยุคสมัยของอดีตประธานาธิบดีเป็นพิเศษ
"ผมขอขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์สำหรับทุกสิ่งที่เขาทำเพื่ออิสราเอล ตั้งแต่การยอมรับอำนาจอธิปไตยของอิสราเอลเหนือที่ราบสูงโกลัน ไปจนถึงการเผชิญหน้ากับการรุกรานของอิหร่าน, การยอมรับเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของเรา และการย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ไปที่นั่น" เนทันยาฮูกล่าว.