
สงครามระหว่างนายพลในซูดานยืดเยื้อมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว ขณะนี้องค์กร Human Rights Watch ได้บันทึกข้อมูลความโหดร้ายมากมายที่กระทำโดยฝ่ายต่างๆ ในความขัดแย้ง โดยเฉพาะผู้หญิงตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงครั้งใหญ่
ตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 สงครามได้ปะทุขึ้นในซูดาน เป็นความขัดแย้งระหว่างผู้บัญชาการทหารบก อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน กับกองกำลังกึ่งทหาร ‘Rapid Support Forces’ (RSF) ภายใต้การนำของ โมฮาเหม็ด ฮัมดาน ดาโกล ตามรายงานขององค์กรสิทธิมนุษยชนได้อธิบายถึงความรุนแรงทางเพศที่เกิดขึ้นในความขัดแย้ง โดยเฉพาะยิ่งกับผู้หญิงที่เป็นเหยื่อ
รายงานดังกล่าวอ้างถึงเมืองหลวงคาร์ทูมและพื้นที่โดยรอบ โดยสรุปคำอธิบายจากองค์กรช่วยเหลือหรือเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขที่ต้องติดต่อกับเหยื่อของความรุนแรงทางเพศ ระหว่างเดือนกันยายน 2023 ถึงกุมภาพันธ์ 2024 องค์กรสิทธิมนุษยชนได้ทำการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ และนักกฎหมายทั้งหมด 42 ครั้ง ที่กล่าวถึงบันทึกเกี่ยวกับเหยื่อความรุนแรงทางเพศจำนวน 262 ราย
บทสรุปของรายงานฟังดูโหดร้าย “ฝ่ายต่างๆ ในความขัดแย้งส่งผลให้ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 9 ถึง 60 ปีถูกกระทำทารุณทางเพศ” มีการข่มขืน ข่มขืนหมู่ บังคับแต่งงาน แม้จะเป็นเด็กเล็กก็ตาม รายงานดังกล่าวมีชื่อว่า “คาร์ทูมไม่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง” อย่างไรก็ตามยังมีรายงานเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศต่อผู้ชายและเด็กผู้ชายด้วย
“เราได้รับเคสแม่และลูกสาวสี่คนของเธอถูกข่มขืนต่อหน้าพ่อและพี่ชายของพวกเธอ” องค์กรสิทธิมนุษยชนเขียน โดยอ้างถึงคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคนหนึ่ง “พวกเขาออกจากบ้านไม่ได้ เพราะกองกำลัง RSF กักขังพวกเขาไว้ในบ้าน ผู้หญิงเหล่านี้ถูกข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลาหลายวัน” ผลที่ตามก็คือ ผู้หญิงคนหนึ่งตั้งท้อง
ในรายงานยังกล่าวอีกว่ามีผู้หญิงอย่างน้อยสี่คนเสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บอันเป็นผลจากการถูกข่มขืน เพราะพวกเธอไม่ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที ในหลายเคสผู้หญิงที่ต้องการยุติการตั้งครรภ์หลังถูกข่มขืนไม่มีโอกาสได้ทำแท้ง สิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณสุขยังเป็นเป้าหมายของการโจมตีโดยฝ่ายต่างๆ ในความขัดแย้งหลายครั้งอีกด้วย
จากข้อมูลของผู้ให้สัมภาษณ์ อาชญากรรมจำนวนมากเกิดขึ้นโดยฝีมือของสมาชิก RSF มีกรณีความรุนแรงทางเพศเกิดขึ้นมากมายในพื้นที่ของเขตคาร์ทูม-นอร์ธ และเขตออมเดอร์มาน องค์กรพัฒนาเอกชนยังชี้ให้เห็นถึงข้อจำกัดของรายงานของตนเองด้วยว่า เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องพูดคุยกับผู้รอดชีวิตโดยตรง แต่นั่นแทบเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากการเข้าถึงพื้นที่ที่ก่ออาชญากรรมนั้นถูกจำกัด
จนถึงขณะนี้สงครามในซูดานได้สังหารผู้คนไปแล้วหลายหมื่นคน ในจำนวนนั้นมีมากถึง 15,000 คนในเมืองดาร์ฟูร์ตะวันตกเมืองเดียว ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติให้ข้อมูล ประชาชนเกือบ 9 ล้านคนต้องอพยพออกจากภูมิลำเนาของตน ทั้งสองฝ่ายในความขัดแย้งถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงคราม รวมถึงการจงใจมุ่งเป้าไปที่พลเรือน การยิงถล่มพื้นที่อยู่อาศัยอย่างไม่เลือกหน้า และขัดขวางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สหภาพยุโรปกำหนดมาตรการคว่ำบาตรหัวหน้ากองกำลัง RSF ในซูดาน
สหภาพยุโรปได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังสนับสนุน RSF ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหารในซูดานแล้ว
อดีตบิ๊กศรภ. ชี้เหตุผลสำคัญไม่ต้องกลัว 'สหรัฐ' ทิ้ง 'ไทย' แนะรัฐบาลมีจุดยืนมั่นคง
สำหรับพี่ไทยนั้น แม้จะไม่ยอมให้สหรัฐ เข้ามาตั้งฐานทัพ แต่สหรัฐ ก็หวงแหนประเทศไทยมาก เพราะภูมิศาสตร์ที่ตั้งของไทย สหรัฐยังใช้ประโยชน์ได้อีกหลายเรื่อง
โฆษกรัฐบาล ตามแก้เฟกนิวส์เขมร กุข่าวไทยประกาศสงคราม หวั่นประชาชนหลงเชื่อ
รัฐบาล ยืนยันไม่มีเรียกประชุมรัฐสภา เพื่อประกาศสงครามกับกัมพูชา แจงสภาฯประชุม สว.เป็นปกติอยู่แล้ว ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวเท็จบิดเบือน
'ช่อ พรรณิการ์' กับ 'เวลาของฮีโร่' ใครได้ประโยชน์จากสงครามไม่จบ?
“มีคนไม่อยากให้สงครามจบ เพราะช่วงเวลาที่เกิดสงคราม คือเวลาที่ตนเป็นฮีโร่หรือไม่” ถ้อยคำของ ช่อ พรรณิการ์ สะดุดใจทันทีที่ได้ยิน เพราะมันไม่ใช่เพียงประโยคถามเล่นๆ แต่คือการท้าทายที่ชวนให้สังคมต้องหยุดคิด ว่าใครกันแน่ที่ได้ประโยชน์จาก สงครามไม่จบ?
อหิวาตกโรคระบาดรุนแรงในซูดาน คร่าชีวิตอย่างน้อย 40 คนต่อสัปดาห์
ซูดาน ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองมานานกว่าสองปี เวลานี้กำลังเผชิญกับการระบาดของอหิวาตกโรคที่ร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี
อดีตบิ๊กข่าวกรองซัดรัฐบาลคิดไม่เหมือนคนไทยทั้งชาติ!
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ


