กรุงนิวเดลีเผชิญกับหมอกควันพิษในวันศุกร์ เนื่องมาจากการฝ่าฝืนกฎหมายห้ามจุดพลุไฟในเทศกาลแห่งแสงสีของศาสนาฮินดู หรือเทศกาลดิวาลี

ภาพอันลางเรือนของราษฎร์ปติภวัน หรือ ทำเนียบประธานาธิบดีของอินเดีย ท่ามกลางหมอกควันหลังสิ้นสุดเทศกาลดิวาลี ในกรุงนิวเดลี เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน (Photo by Arun SANKAR / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2567 กล่าวว่า กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย เผชิญกับมลพิษทางอากาศจากการปกคลุมของควันสีขาวขุ่นทั่วพื้นที่อีกครั้ง โดยมีสาเหตุหลักจากการจุดพลุไฟในเทศกาลแห่งแสงสีของศาสนาฮินดู หรือเทศกาลดิวาลี
นิวเดลีเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรมากกว่า 30 ล้านคนและได้รับการจัดอันดับให้เป็นพื้นที่เขตเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ในเดือนตุลาคม ทางการนิวเดลีได้สั่ง "ห้าม" การจุดพลุไฟทุกชนิดอย่างสิ้นเชิง ทั้งการผลิตและการขาย เพื่อรักษาผลประโยชน์สาธารณะในการควบคุมมลพิษทางอากาศที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
แต่ในทางปฏิบัติ กฎหมายห้ามจุดพลุไฟกลับถูกละเลย โดยตำรวจมักลังเลที่จะดำเนินการกับผู้ฝ่าฝืน เนื่องจากผู้ศรัทธาในศาสนาฮินดูมีความรู้สึกทางศาสนาที่แรงกล้าต่อวิถีการจุดพลุไฟเพื่อพิธีบูชา
นิวเดลีถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันพิษทุกปี โดยสาเหตุหลักมาจากการเผาวัชพืชของเกษตรกรในบริเวณใกล้เคียงเพื่อถางไร่นา รวมถึงควันพิษจากโรงงานและจากการจราจร ทำให้ระดับของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง พุ่งสูงขึ้นเกือบ 23 เท่าของค่าสูงสุดที่องค์การอนามัยโลกแนะนำต่อวัน
ก่อนหน้านี้ ตำรวจนิวเดลีทำการยึดพลุไฟได้เกือบสองตันก่อนเทศกาล แต่พลุไฟเหล่านั้นกลับวางขายได้ง่ายในรัฐใกล้เคียง จึงทำให้การจุดเกิดขึ้นตามปกติในพื้นที่เมืองส่วนใหญ่ เป็นที่มาของเมืองหลวงในหมอกขาวช่วงสุดสัปดาห์
สารมลพิษที่ตรวจพบในอากาศของนิวเดลีมีปริมาณสูงถึง 345 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามรายงานของบริษัทตรวจสอบ IQAir ในวันศุกร์ ซึ่งระบุว่าอากาศในมหานครขนาดใหญ่แห่งนี้เป็น "อันตราย" และจัดอยู่ในกลุ่มที่แย่ที่สุดในโลก
โดยบริษัทฯจัดอันดับให้นิวเดลีเป็นเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก สูงกว่าเมืองลาฮอร์ของปากีสถานซึ่งเต็มไปด้วยควันบุหรี่ และอยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเพียง 400 กิโลเมตร
ในช่วงเทศกาล ชาวเมืองหลายคนเฉลิมฉลองกันที่บ้าน โดยรับประทานอาหารร่วมกันและจุดเทียนเล็กๆ เพื่อสรรเสริญพระแม่ลักษมี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของแสงสว่างเหนือความมืด ขณะที่ชาวเมืองบางคนจุดพลุไฟและประทัดที่ดังสนั่น ทำให้เมืองคับคั่งไปด้วยผู้คนตลอดทั้งคืน
นักวิจารณ์กล่าวว่า การโต้เถียงระหว่างนักการเมืองคู่แข่งที่เป็นผู้นำรัฐใกล้เคียง รวมทั้งระหว่างหน่วยงานระดับกลางและระดับรัฐ ได้ทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงขึ้น
เมื่อเดือนที่แล้ว ศาลฎีกาของอินเดียตัดสินว่าอากาศบริสุทธิ์เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และสั่งให้ทั้งรัฐบาลกลางและหน่วยงานระดับรัฐดำเนินการแก้ไขปัญหามลพิษอย่างเร่งด่วน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดียพยายามลดภาวะมลพิษด้วยการจำกัดการจราจรของยานพาหนะ รวมถึงโครงการที่อนุญาตให้รถยนต์ที่มีป้ายทะเบียนเลขคี่หรือเลขคู่วิ่งสลับวันกัน รวมทั้งสั่งห้ามงานก่อสร้างและห้ามรถยนต์ดีเซลเข้ามาวิ่งในเมืองในบางช่วงอีกด้วย
แต่ความพยายามของรัฐบาลก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาคุณภาพอากาศของประเทศได้ โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นเพราะการขาดความมุ่งมั่นจากทั้งรัฐบาลกลางและรัฐบาลของแต่ละรัฐ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ลำพูน วอริเออร์' เปิดตัว'The Air Pollution Jersey' เสื้อบอลแจ้งค่าฝุ่น PM2.5
ลำพูน วอริเออร์ สโมสรฟุตบอลไทยลีก ร่วมกับสภาลมหายใจภาคเหนือ เปิดตัวเสื้อแข่งคอลเลกชันพิเศษ ‘The Air Pollution Jersey’ หรือ ‘เสื้อบอลแจ้งค่าฝุ่น’ ซึ่งเป็นแคมเปญที่ต้องการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนในภาคเหนือ โดยเฉพาะนักฟุตบอลที่ต้องใช้ชีวิตและแข่งขันกลางแจ้งตลอดทั้งฤดูกาล
ทหารภาค 3 ระดมกำลังอากาศยานดับไฟป่าแม้ฝนตก จุดความร้อนยังลุกลาม
ทหารภาค 3 ยังคงนำอากาศยานช่วยดับไฟป่าในหลายพื้นที่ แม้จุดความร้อนจะลดลงจากฝนตก แต่ไฟป่ายังคงลุกลามต่อเนื่องต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เชียงใหม่เฝ้าระวังฝุ่น PM 2.5 แนะใช้หน้ากากป้องกันและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สาธารณสุขเชียงใหม่แนะประชาชนตรวจสอบค่าฝุ่น PM 2.5 ก่อนออกจากบ้าน ใช้หน้ากากป้องกันตามกิจกรรม พร้อมกำชับหน่วยงานรับมือเชิงรุกดูแลสุขภาพประชาชน หลังค่าฝุ่นเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ค่าฝุ่น PM2.5 ช่วง 3-8 มี.ค. มีแนวโน้มทรงตัวถึงลดลง หลังการระบายอากาศอยู่เกณฑ์ดี
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร