เซเลนสกีและพันธมิตรแสดงพลังสามัคคี หลังความขัดแย้งกับทรัมป์

โวโลดีมีร์ เซเลนสกีและพันธมิตรมารวมตัวกันในลอนดอน เพื่อร่างแผนงบประมาณความมั่นคงสำหรับสันติภาพของยูเครน และไม่ละความพยายามในการต่อรองกับรัฐบาลทรัมป์

(จากซ้ายไปขวา) ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ร่วมประชุมเต็มคณะพร้อมกับผู้นำยุโรปที่แลนคาสเตอร์เฮาส์ ใจกลางกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 2 มีนาคม (Photo by JUSTIN TALLIS / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 3 มีนาคม 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีเดินทางเยือนประเทศอังกฤษ เพื่อหารือร่วมกับพันธมิตร 18 ประเทศที่สนับสนุนการปกป้องสันติภาพของยูเครน

เซเลนสกียืนยันว่าเขาจะทำงานร่วมกับยุโรปเพื่อกำหนดเงื่อนไขสำหรับข้อตกลงสันติภาพที่จะนำเสนอต่อสหรัฐอเมริกา หลังจากพันธมิตรที่รวมตัวกันในกรุงลอนดอนให้คำมั่นว่าจะใช้จ่ายด้านความมั่นคงมากขึ้นและตั้งกลุ่มเฉพาะเพื่อปกป้องสันติภาพในยูเครน

วิกฤตการเจรจาในช่วงสุดสัปดาห์ซึ่งนำบรรดาชาติพันธมิตรมาพบกันนั้น เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันละเอียดอ่อนสำหรับยูเครนที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ซึ่งเผชิญกับการสนับสนุนที่ไม่แน่นอนของสหรัฐฯ และอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบต่อการรุกรานของรัสเซียที่กินเวลานานถึง 3 ปี

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ตำหนิเซเลนสกีต่อหน้าผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ทำให้เกิดความกลัวว่าเขาตั้งใจจะบีบให้ยูเครนทำข้อตกลงสันติภาพเพื่อให้รัสเซียได้ในสิ่งที่ต้องการ

อย่างไรก็ตาม ผู้นำยุโรปต่างแสดงจุดยืนในการสนับสนุนยูเครน โดยเซเลนสกีกล่าวภายหลังการประชุมสุดยอดว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของพวกเขาในการทำงานเพื่อสันติภาพ

"เราต้องการสันติภาพ ไม่ใช่สงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น และในอนาคตอันใกล้นี้ พวกเราทุกคนในยุโรปจะกำหนดจุดยืนร่วมกัน ซึ่งก็คือแนวทางที่เราต้องบรรลุและแนวทางที่เราไม่สามารถประนีประนอมได้ จากนั้นจุดยืนเหล่านี้จะถูกนำเสนอต่อพันธมิตรของเราในสหรัฐ" ผู้นำยูเครนกล่าว

นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษกล่าวเช่นเดียวกันว่า อังกฤษ, ฝรั่งเศส และพันธมิตรรายอื่นๆ จะทำงานร่วมกับยูเครนในแผนยุติการสู้รบ ซึ่งพวกเขาจะนำไปเสนอต่อรัฐบาลวอชิงตันในภายหลัง

ขณะที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่เดินทางกลับมาจากการประชุมสุดยอด ได้บอกกับหนังสือพิมพ์เลอ ฟิการ์โรว่า ฝรั่งเศสและอังกฤษต้องการเสนอข้อตกลงหยุดยิงบางส่วนเป็นเวลา 1 เดือน ทั้งทาางอากาศ, ทางทะเล และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน แต่ข้อตกลงหยุดยิงจะไม่ครอบคลุมการสู้รบภาคพื้นดินอย่างน้อยในช่วงแรก

เอมมานูเอล มาครงกล่าวว่า เขาและผู้นำอังกฤษพร้อมที่จะส่งทหารอังกฤษและฝรั่งเศสไปยังยูเครนเพื่อช่วยรักษาข้อตกลงหยุดยิงไว้ ซึ่งเป็นภาระอันหนักอึ้งของยุโรป เนื่องจากสหรัฐฯอาจไม่เข้ามามีส่วนร่วมด้วย

ปัญหาใหญ่คือ การบังคับใช้ข้อตกลงเป็นเรื่องยากมาก เนื่องจากแนวหน้าของการรบมีขนาดใหญ่มาก

เขากล่าวว่า กองกำลังรักษาสันติภาพจะถูกส่งไปในภายหลัง และจะไม่มีทหารยุโรปอยู่บนผืนแผ่นดินยูเครนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

นอกจากนี้ มาครงยังเสนอว่าประเทศต่างๆ ในยุโรปควรเพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศเป็น 3.0 ถึง 3.5 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี เพื่อตอบสนองต่อลำดับความสำคัญที่เปลี่ยนไปของรัฐบาลวอชิงตันและการทหารของรัสเซีย

แม้ว่าทรัมป์ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีจะแสดงตนเป็นคนกลางระหว่างปูตินและเซเลนสกี แต่แนวทางของเขากลับทำให้รัฐบาลเคียฟและยุโรปต้องหยุดชะงัก เนื่องจากความพยายามสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำรัสเซีย

การเปลี่ยนแปลงนี้ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในการประชุมที่ห้องทำงานรูปไข่กับเซเลนสกี ซึ่งทรัมป์กล่าวหาว่าเซเลนสกีไม่รู้สึกขอบคุณมากพอสำหรับความช่วยเหลือของสหรัฐฯ และไม่พร้อมสำหรับการสันติภาพกับรัสเซีย

ผู้นำอังกฤษซึ่งเพิ่งพบกับทรัมป์เพียงไม่กี่วันก่อน ยืนกรานว่าสหรัฐฯไม่ใช่พันธมิตรที่ไม่น่าเชื่อถือ และข้อตกลงใดๆ ต้องได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากสหรัฐฯจึงจะประสบความสำเร็จได้

แต่หลังจากที่ผู้นำรวมตัวกันในวันอาทิตย์ เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเตือนว่า ทวีปยุโรปต้องเตรียมพร้อมอย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเลวร้ายที่สุด และนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์เรียกร้องให้สหรัฐและยุโรปแสดงให้ปูตินเห็นว่า ชาติตะวันตกไม่มีเจตนาที่จะยอมจำนนต่อการกระทำอันรุนแรงของเขา

เมื่อวันอาทิตย์ ทรัมป์พูดเกี่ยวกับปัญหาสงครามยูเครนแค่เพียงว่า สหรัฐควรกังวลเกี่ยวกับปูตินให้น้อยลง และกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับอาชญากรรมในประเทศ

พรรครีพับลิกันของทรัมป์ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางของรัสเซียเกี่ยวกับสงครามยูเครน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้เสนอให้เซเลนสกีลาออกเพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงสันติภาพจะเกิดขึ้นได้โดยเร็ว

ไมค์ วอลทซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ กล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่า "เราต้องการผู้นำที่ทำงานร่วมกับเราได้ รวมทั้งเปิดกว้างการเจรจากับรัสเซีย และยุติสงครามนี้ในที่สุด"

ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกล่าวว่า เซเลนสกีต้องกลับมาที่โต๊ะเจรจาด้วยความขอบคุณ หรือไม่ก็ต้องมีคนอื่นมาเป็นผู้นำประเทศ

เซเลนสกีได้เสนอซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเขาจะลาออกเพื่อแลกกับการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ทรัมป์ดูแคลน

"หากยูเครนได้เป็นสมาชิกนาโตและสงครามสิ้นสุดลง นั่นหมายความว่าผมได้บรรลุภารกิจแล้ว" เซเลนสกีกล่าวเมื่อวันจันทร์

เขายังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการให้รัฐบาลวอชิงตันอยู่เคียงข้าง และส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะลงนามข้อตกลงแร่ธาตุที่ทรัมป์ปรารถนา

"ผมพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในรูปแบบที่สร้างสรรค์ใดๆ ก็ตามในความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ" ผู้นำยูเครนกล่าว.

เพิ่มเพื่อน