ฝนที่ตกหนักจากซากพายุไซโคลนอัลเฟรดทำให้พื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียหลายแห่งต้องจมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งกู้พลังงานไฟฟ้าให้กับบ้านเรือนและสถานประกอบการมากกว่า 190,000 แห่ง
น้ำท่วมที่เอ่อล้นจากแม่น้ำวิลสันส์ ในเมืองลิสมอร์ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 9 มีนาคม (Photo by David GRAY / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2568 กล่าวว่า แม้พายุไซโคลน 'อัลเฟรด' พัดผ่านชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียไปแล้ว แต่หางพายุทิ้งซากความเสียหายเป็นฝนตกหนักไว้ จนกลายเป็นน้ำท่วมในหลายพื้นที่
พายุที่พัดขึ้นฝั่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาและถล่มชายฝั่งยาว 400 กิโลเมตรเป็นเวลา 5 วัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
แม้ว่าลมและฝนจะเบาลง แต่ทางการได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับอุทกภัยและสภาพอากาศเลวร้ายอย่างต่อเนื่องทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ระหว่างรัฐควีนส์แลนด์และนิวเซาท์เวลส์
สำนักอุตุนิยมวิทยารายงานว่าพายุอัลเฟรดทำให้มีฝนตกหนักด้วยปริมาณถึง 30 เซนติเมตรในเวลา 24 ชั่วโมง ในพื้นที่บางส่วนของบริสเบน เมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์
ภาพที่เผยแพร่ผ่านสื่อของออสเตรเลียแสดงให้เห็นน้ำท่วมบนถนนบางสายในเมืองและบริเวณโดยรอบ และรถยนต์ที่จมอยู่ใต้น้ำครึ่งหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด
เดวิด คริซาฟูลลี ผู้ว่าการรัฐควีนส์แลนด์กล่าวว่า หน่วยกู้ภัยได้ช่วยเหลือผู้คน 17 คนจากน้ำที่ไหลเชี่ยวในควีนส์แลนด์เมื่อคืนก่อน
"ฝนตกทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและแม่น้ำเอ่อล้นในบางพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้"
"เราเรียกร้องให้ประชาชนติดต่อสื่อสารกันต่อไป เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะเกิดน้ำท่วมรุนแรงขึ้นในช่วงวันนี้" เขากล่าวในการแถลงข่าว
นักพยากรณ์อากาศของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย กล่าวว่า ฝนตกหนัก, น้ำท่วมฉับพลัน และแม่น้ำล้นระดับปานกลางถึงมาก ยังคงเป็นความเสี่ยง โดยทั้งหมดนี้เกิดจากซากของพายุไซโคลนอัลเฟรด
"พายุไซโคลนอัลเฟรดเคลื่อนตัวผ่านชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของควีนส์แลนด์เมื่อวันเสาร์ แต่เคลื่อนตัวช้ามากแม้จะเคลื่อนตัวบนบก และที่สำคัญคือ พายุไซโคลนยังคงลากเอาความชื้นจำนวนมากมาด้วย" นักพยากรณ์ฯกล่าว
บริษัทผู้ให้บริการสาธารณูปโภคระบุว่า บ้านเรือนและสถานประกอบการมากกว่า 185,000 แห่งยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ในรัฐควีนส์แลนด์ และอีก 10,000 แห่งในนิวเซาท์เวลส์
"รูปแบบของสภาพอากาศยังคงไม่สามารถคาดเดาได้ เราคาดว่าจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า" คริส มินส์ ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวในการแถลงข่าว
จนถึงขณะนี้ สภาพอากาศเลวร้ายคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 1 ราย หลังจากรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อของชายวัย 61 ปีถูกพัดตกจากสะพานเมื่อวันศุกร์ทางตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ตำรวจกล่าวว่าเขาพยายามเกาะกิ่งไม้ในแม่น้ำแต่ไม่เป็นผล ก่อนจะหายลงไปในน้ำที่เชี่ยวกราก และพบศพของเขาในวันรุ่งขึ้น
ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ ทหาร 13 นายได้รับบาดเจ็บและถูกนำส่งโรงพยาบาล เมื่อรถบรรทุกของกองทัพ 2 คันพลิกคว่ำระหว่างการเคลื่อนพลเพื่อแผ้วถางเส้นทางถนนใกล้กับเมืองลิสมอร์ทางตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์.
