ความหวังในการค้นหาผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมในซากปรักหักพังของเมืองมัณฑะเลย์เริ่มริบหรี่ลง ผู้ประสบภัยบางส่วนต้องนอนกลางแจ้งเป็นคืนที่สามหลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 1,700 รายในเมียนมา

ผู้คนนอนหลับอยู่บนถนนในเมืองมัณฑะเลย์ สามวันหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเมียนมา เมื่อวันที่ 31 มีนาคม (Photo by Sai Aung MAIN / AFP)

เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารคอนโดมิเนียมสกายวิลลาที่ถล่มลงมาในเมืองมัณฑะเลย์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม (Photo by Sai Aung MAIN / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568 กล่าวว่า สามวันผ่านไปหลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเมียนมา แต่ประเทศยังคงวุ่นวายอยู่กับการรับมืออาฟเตอร์ช็อกและการกู้ภัยตามซากอาคารพังถล่มต่างๆที่อาจมีผู้รอดชีวิต แต่ความหวังเหล่านั้นเริ่มริบหรี่ลงในเมืองมัณฑะเลย์
ความพยายามกู้ภัยในเมืองซึ่งมีประชากรมากกว่า 1.7 ล้านคนในช่วงเช้าของวันจันทร์นั้นเริ่มลดความหวังลงเรื่อยๆ เพราะเลยเส้นตายสำหรับการรอดชีวิตของผู้ประสบภัยแล้ว ประกอบกับอุณหภูมิอากาศที่อาจจะสูงถึงประมาณ 40 องศาเซลเซียส ซึ่งความร้อนอบอ้าวจะทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยหมดแรงและร่างของผู้เสียชีวิตใต้ซากปรักหักพังเน่าเปื่อยเร็วขึ้นจนอาจส่งผลต่อการระบุตัวตนที่ยากขึ้น
เหตุการณ์อันน่าสิ้นหวังเกิดขึ้นที่อาคารพักอาศัยที่พังถล่มในมัณฑะเลย์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยนำตัวหญิงตั้งครรภ์ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังนานกว่า 55 ชั่วโมงออกมาได้อย่างปลอดภัยแม้จำเป็นต้องตัดขาของเธอเพื่อช่วยรักษาชีวิตไว้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เสียชีวิตลง
"เราพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตเธอ" เจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหนึ่งกล่าว แต่เธอเสียเลือดมากเกินไปจากการถูกตัดขา
ขณะเดียวกัน ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามมารวมตัวกันใกล้มัสยิดที่พังถล่มในเมืองเมื่อเช้าวันจันทร์ เพื่อร่วมละหมาดวันอีฎิลฟิตริซึ่งเป็นวันหยุดที่ตามมาหลังสิ้นสุดเดือนรอมฎอนตามปฏิทินของชาวมุสลิม และคาดว่าจะมีการจัดพิธีศพตามหลักศาสนาให้กับผู้ประสบภัยที่เสียชีวิตหลายร้อยรายภายในวันเดียวกัน
ทั้งนี้ แผ่นดินไหวครั้งแรกขนาด 7.7 แมกนิจูดเกิดขึ้นใกล้เมืองมัณฑะเลย์ในภาคกลางของเมียนมาช่วงบ่ายวันศุกร์ ตามด้วยอาฟเตอร์ช็อกขนาด 6.7 แมกนิจูดในอีกไม่กี่นาทีต่อมา
แรงสั่นสะเทือนครั้งแรกและอาฟเตอร์ช็อกทำให้อาคารพังถล่ม, สะพานพังทลาย และถนนทรุดตัว โดยพบความเสียหายอย่างหนักในเมืองแห่งนี้
อาฟเตอร์ช็อกยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและรู้สึกได้ในมัณฑะเลย์ตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนพากันหนีออกไปบนท้องถนนในช่วงเวลาสั้นๆ หลายครั้ง
สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศได้เริ่มการระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยฉุกเฉินกว่า 100 ล้านดอลลาร์
เครือข่ายด้านมนุษยธรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกกล่าวว่า ความจำเป็นเร่งด่วนเพิ่มขึ้นทุกชั่วโมง เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นและฤดูมรสุมที่ใกล้เข้ามาทำให้มีความเสี่ยงต่อ "วิกฤตรอง" เพิ่มขึ้น
ความท้าทายของประเทศอาเซียนที่มีประชากรมากกว่า 50 ล้านคนแห่งนี้คือความยากลำบากอย่างแท้จริงแม้กระทั่งก่อนเกิดแผ่นดินไหว
เมียนมาได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองที่กินเวลานานถึง 4 ปี ซึ่งเกิดจากการรัฐประหารในปี 2564
แม้ในประเทศกำลังเผชิญสถานการณ์ภัยพิบัติใหญ่ แต่ก็ยังมีรายงานการสู้รบเป็นระยะๆ โดยกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารกลุ่มหนึ่งบอกกับเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์ว่านักรบของตน 7 คนเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของกองทัพ ไม่นานหลังจากแผ่นดินไหว
ก่อนเกิดแผ่นดินไหวในวันศุกร์ ประชาชนราว 3.5 ล้านคนต้องเผชิญความลำบากอยู่แล้วเพราะการพลัดถิ่นจากพื้นที่อยู่อาศัยเดิมเนื่องจากสงครามกลางเมืองที่โหมกระหน่ำ และหลายคนเสี่ยงต่อความอดอยากในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติรูปแบบใดก็ตาม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เช็กที่นี่! เปิดจุดในกรุงเทพฯ รับรู้แรงสั่นสะเทือน แผ่นดินไหวขนาด 5.4 ในทะเลเมียนมา
กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 5.4 ความลึก 10 กม. บริเวณ ใกล้ชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.แม่สอด จ.ตาก ประมาณ 211 กม.
'กองทัพเมียนมา' ถล่มมัณฑะเลย์ ชาวบ้านดับ-เจ็บระนาว งัดกฎอัยการศึก ปูทางเลือกตั้ง
'กองทัพเมียนมา' โจมตีทิ้งระเบิดลงชุมชนในมัณฑะเลย์ ชาวบ้านดับ 12 ราย บาดเจ็บระนาว หวังยึดพื้นที่คืนจากกองกำลังปะหล่อง พร้อมประกาศกฎอัยการศึก คาดเตรียมรับเลือกตั้งต้นปีหน้า
กต. แถลงผลการหารือ 'อันวาร์-มินอ่องหล่าย' นำไปสู่การฟื้นฟูเมียนมาจากแผ่นดินไหว
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ถึงการหารือร่วมกันอย่างไม่เป็นทางการระหว่างดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน


