กองทัพเมียนมาประกาศหยุดยิงชั่วคราว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวยังคงเพิ่มขึ้น และผู้รอดชีวิตอยู่ในภาวะสิ้นหวังท่ามกลางสถานการณ์การแจกจ่ายความช่วยเหลือที่วุ่นวาย

ผู้คนกำลังอาบน้ำในแม่น้ำอิระวดี โดยมีฉากหลังเป็นสะพานอังวะที่พังถล่มลงมาเพราะแผ่นดินไหว ในเมืองสะกาย ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 2 เมษายน (Photo by Sai Aung MAIN / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน 2568 กล่าวว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดส่งผลให้อาคารต่างๆ ทั่วเมียนมาพังราบเป็นหน้ากลอง, คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 3,000 ราย และทำให้ผู้คนอีกหลายพันคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย
ล่าสุด กองทัพเมียนมาประกาศหยุดยิงชั่วคราวกับกลุ่มต่อต้าน เพื่อทุ่มกำลังในการแก้ไขวิกฤตที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และผู้รอดชีวิตร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมท่ามกลางความขาดแคลน
รัฐบาลทหารกล่าวว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงตั้งแต่วันพุธไปจนถึงวันที่ 22 เมษายน เพื่อให้การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์จากแผ่นดินไหวทำได้ง่ายขึ้น หลังจากกลุ่มต่อต้านติดอาวุธอื่นๆให้คำมั่นสัญญาในลักษณะเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ กลุ่มสิทธิมนุษยชนและรัฐบาลต่างประเทศหลายแห่งได้ประณามคณะทหารที่ยังคงโจมตีทางอากาศ แม้ว่าประเทศกำลังเผชิญกับผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
คณะทหารระบุในแถลงการณ์ว่าข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อเร่งความพยายามบรรเทาทุกข์และฟื้นฟู รวมทั้งรักษาสันติภาพและเสถียรภาพ แต่ก็ได้เตือนฝ่ายตรงข้ามว่าจะยังคงตอบสนองต่อการโจมตี, การก่อวินาศกรรม, การรวมตัว, การจัดระเบียบ และความเคลื่อนไหวใดๆที่เป็นการบ่อนทำลายสันติภาพ
คณะทหารยังกล่าวอีกว่า พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่ายจะเดินทางไปยังกรุงเทพฯ ในวันพฤหัสบดีเพื่อร่วมประชุมสุดยอดของประเทศเอเชียใต้, เมียนมา และไทย ซึ่งเขาจะหารือเกี่ยวกับการตอบสนองต่อเหตุแผ่นดินไหว
นักข่าวเอเอฟพีพบเห็นภาพที่น่าตื่นตระหนกเมื่อผู้คนนับร้อยรีบเร่งไปรับความช่วยเหลือในสะกายซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากที่สุด โดยมีอาสาสมัครคอยแจกน้ำ, ข้าว, น้ำมันปรุงอาหาร และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ ให้กับประชาชนที่ร้องขอความช่วยเหลือ
ความเสียหายในเมืองนั้นเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่าบ้านเรือนราว 1 ใน 3 พังเสียหายจนผู้คนไร้ที่อยู่ และเหตุแผ่นดินไหวผ่านไป 5 วันแล้ว แต่ผู้ประสบภัยก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ
ผู้คนจำนวนมากต้องนอนบนถนนนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว โดยไม่สามารถกลับไปที่อาคารที่ได้รับความเสียหายได้ ขณะที่บางคนยังคงหวาดกลัวต่ออาฟเตอร์ช็อก
องค์การอนามัยโลกรายงานล่าสุดว่า สถานพยาบาลซึ่งได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวและมีขีดความสามารถจำกัดนั้นเต็มไปด้วยผู้ป่วยจำนวนมาก ขณะที่เสบียงอาหาร, น้ำ และยาต่างๆ ก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ นอกจากนี้ในหลายพื้นที่ยังขาดแคลนน้ำประปาและไฟฟ้าอีกด้วย
ความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มขึ้นนั้นเลือนลางลง แต่ในวันพุธก็มีช่วงเวลาแห่งความสุข เมื่อชาย 2 คนถูกช่วยออกมาจากซากปรักหักพังของโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเนปยีดอได้สำเร็จ
เมื่อวันพุธ คณะทหารกล่าวว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 2,886 ราย, บาดเจ็บมากกว่า 4,600 คน และยังสูญหายอีก 373 คน
แต่เนื่องจากการสื่อสารและโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ได้คุณภาพเพียงพอ ทำให้ความพยายามในการรวบรวมข้อมูลและส่งมอบความช่วยเหลือล่าช้า จึงยังไม่สามารถระบุขอบเขตทั้งหมดของภัยพิบัติได้ และมีแนวโน้มว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กต. แถลงผลการหารือ 'อันวาร์-มินอ่องหล่าย' นำไปสู่การฟื้นฟูเมียนมาจากแผ่นดินไหว
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ถึงการหารือร่วมกันอย่างไม่เป็นทางการระหว่างดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน
อารักขาเข้ม! วงดินเนอร์ ทักษิณ-อันวาร์-มินอ่องหล่าย
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน เป็นเจ้าภาพเลี้ยงรับรอง ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน และคณะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ในช่วงค่ำวันนี้ (17 เม.ย.)