พายุทรายที่พัดถล่มอิรักตอนกลางและตอนใต้ทำให้ผู้คนมากกว่า 1,800 รายต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างฉุกเฉินด้วยปัญหาทางเดินหายใจ
ถนนบนทางหลวงเผชิญสภาพทัศนวิสัยต่ำ ขณะพายุทรายขนาดใหญ่เคลื่อนตัวเข้าถล่มจังหวัดนาจาฟ ทางตอนกลางของอิรัก เมื่อวันที่ 14 เมษายน (Photo by Qassem al-KAABI / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 15 เมษายน 2568 กล่าวว่า เกิดพายุทรายถล่มหนักในพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของประเทศอิรัก ทำให้หลายเมืองฉาบไปด้วยฝุ่นสีส้มจนส่งผลต่อสุขภาพของผู้คนจำนวนมาก
ทางการสั่งปิดสนามบินในจังหวัดนาจาฟและบาสราทางตอนใต้เป็นการชั่วคราว เนื่องจากพายุทรายซึ่งเป็นพายุที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้บดบังทัศนวิสัย
อิรักซึ่งต้องเผชิญกับความร้อนระอุในช่วงฤดูร้อนและพายุทรายเป็นประจำ เป็นหนึ่งในห้าประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุด ตามรายงานของสหประชาชาติ
โรงพยาบาลในจังหวัดมูทันนา ทางตอนใต้ของอิรัก เร่งรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างน้อย 700 รายที่ขาดอากาศหายใจ ตามการระบุของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ขณะที่มีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของจังหวัดนาจาฟอีกมากกว่า 250 ราย และผู้ป่วยอย่างน้อย 322 รายรวมทั้งเด็กๆ หลั่งไหลเข้าโรงพยาบาลในจังหวัดดิวานียะห์
ในจังหวัดดีการ์และบาสรา มีผู้ประสบปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจมากกว่า 530 ราย
ช่างภาพของเอเอฟพีพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและคนเดินเท้าสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเองจากกลุ่มฝุ่นที่ฟุ้งกระจายในอากาศ
กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติรายงานว่า พายุทรายทำให้ทัศนวิสัยลดลงอย่างมากเหลือเพียงไม่ถึง 1 กิโลเมตร (0.62 ไมล์) แต่คาดว่าจะค่อยๆ จางลงภายในเช้าวันอังคาร
กระทรวงสิ่งแวดล้อมเตือนว่า ประเทศอาจเผชิญกับ "วันฝุ่น" ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมในช่วงทศวรรษหน้า
ในปี 2022 มีผู้เสียชีวิต 1 รายและมากกว่า 5,000 รายเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากอาการป่วยทางเดินหายใจ เนื่องมาจากพายุทรายที่รุนแรงในอิรัก.
