ทหารจากปากีสถานและอินเดียยิงตอบโต้กันข้ามเส้นควบคุมในแคชเมียร์ที่เป็นข้อพิพาท หลังเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวในภูมิภาค

กลุ่มผู้ประท้วงปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ระหว่างเดินขบวนไปยังสถานเอกอัครราชทูตปากีสถานในกรุงนิวเดลีเพื่อประณามเหตุโจมตีนักท่องเที่ยวในพาฮาลแกม เมื่อวันที่ 24 เมษายน (Photo by Arun SANKAR / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2568 กล่าวว่า ความสัมพันธ์ของอินเดียและปากีสถานตกสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปี โดยอินเดียกล่าวหาปากีสถานว่าสนับสนุนการก่อการร้ายข้ามพรมแดน หลังจากมือปืนก่อเหตุโจมตีพลเรือนในแคชเมียร์ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ และถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 25 ปี
ไซเอ็ด อัชฟัก กิลานี เจ้าหน้าที่รัฐบาลในพื้นที่แคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของปากีสถาน กล่าวกับเอเอฟพีว่า ทหารทั้งสองฝ่ายยิงตอบโต้กันตามแนวควบคุมที่กั้นระหว่างสองประเทศ แต่ไม่มีการยิงใส่ประชาชนพลเรือน
ขณะที่กองทัพอินเดียยืนยันว่ามีการยิงอาวุธขนาดเล็กเพียงเล็กน้อย ซึ่งกองทัพระบุว่าปากีสถานเป็นผู้เริ่มก่อน และกองทัพได้ทำการตอบโต้อย่างมีประสิทธิผล
เมื่อวันพฤหัสบดี สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกสหประชาชาติกล่าวกับผู้สื่อข่าวในนิวยอร์กว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างสองประเทศควรได้รับการแก้ไขโดยสันติวิธีผ่านการมีส่วนร่วมที่มีความหมายร่วมกัน
"เราขอวิงวอนรัฐบาลทั้งสองประเทศอย่างยิ่ง ให้ใช้ความอดกลั้นสูงสุด และให้แน่ใจว่าสถานการณ์และการพัฒนาที่เราเห็นจะไม่เลวร้ายลงไปอีก" เขากล่าว
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียประกาศว่าจะดำเนินการตามล่ามือปืนที่ก่อเหตุสังหารพลเรือน 26 รายที่เมืองพาฮาลแกมซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม หลังจากตำรวจอินเดียระบุว่ามือปืน 2 ใน 3 รายที่หลบหนีเป็นชาวปากีสถาน
"ผมขอบอกกับคนทั้งโลกว่า อินเดียจะระบุ, ติดตาม และลงโทษผู้ก่อการร้ายและผู้สนับสนุนทุกคน และเราจะไล่ตามพวกมันไปจนสุดขอบโลก" โมดีกล่าวในสุนทรพจน์ครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการโจมตีในภูมิภาคหิมาลัยเมื่อวันอังคาร
รัฐบาลอิสลามาบัดปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ และกล่าวว่าความพยายามที่จะเชื่อมโยงปากีสถานกับการโจมตีที่พาฮาลแกมเป็นเรื่องไร้สาระ และให้คำมั่นว่าจะตอบโต้การกระทำใดๆ ของอินเดีย
"ภัยคุกคามใดๆ ต่ออำนาจอธิปไตยของปากีสถานและความมั่นคงของประชาชน จะถูกตอบโต้ด้วยมาตรการที่ชัดเจนในทุกด้าน" แถลงการณ์ระบุ หลังจากนายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟจัดการประชุมคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติร่วมกับผู้นำทหารระดับสูง
แคชเมียร์ถูกแบ่งแยกระหว่างอินเดียและปากีสถานตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี 1947 โดยทั้งสองอ้างสิทธิ์ในดินแดนทั้งหมดแต่ปกครองพื้นที่บางส่วนแยกจากกัน
ตั้งแต่ปี 1989 กลุ่มกบฏได้ก่อความรุนแรงในแคชเมียร์ที่อินเดียควบคุม เพื่อเรียกร้องเอกราชหรือไม่ก็รวมเข้ากับปากีสถาน
ล่าสุด กองทัพอากาศและกองทัพเรือของอินเดียได้จัดการซ้อมรบเมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์
ตำรวจอินเดียระบุว่ามือปืนทั้งสามคนเป็นสมาชิกของกลุ่ม Lashkar-e-Taiba ซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ในปากีสถาน และเป็นองค์กรก่อการร้ายตามการประกาศของสหประชาชาติ
ตำรวจฯเสนอเงินรางวัลสองล้านรูปี (ประมาณ 785,000 บาท) สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมตัวผู้ก่อเหตุแต่ละคน
หนึ่งวันหลังจากเกิดเหตุโจมตี รัฐบาลนิวเดลีได้ระงับสนธิสัญญาแบ่งปันน้ำ, ประกาศปิดจุดผ่านแดนทางบกหลักกับปากีสถาน, ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต และเพิกถอนวีซ่าสำหรับชาวปากีสถาน
เพื่อตอบโต้การกระทำดังกล่าว รัฐบาลอิสลามาบัดได้สั่งขับไล่เจ้าหน้าที่ทูตและที่ปรึกษาทางทหารของอินเดีย, ยกเลิกวีซ่าสำหรับพลเมืองอินเดียยกเว้นผู้แสวงบุญชาวซิกข์ และปิดจุดผ่านแดนหลักในฝั่งของตน
ปากีสถานยังเตือนด้วยว่าความพยายามใดๆ ของอินเดียที่จะหยุดการส่งน้ำจากแม่น้ำสินธุจะถือเป็น "การก่อสงคราม"
เมืองพาฮาลแกม (Pahalgam) ถือเป็นจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญในการโจมตีของกลุ่มกบฏชาวแคชเมียร์เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งปกติแล้วมุ่งเป้าไปที่กองกำลังรักษาความปลอดภัยของอินเดีย
ในปี 2019 การโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายได้สังหารทหารอินเดีย 41 นายในแคชเมียร์ และจุดชนวนให้อินเดียโจมตีทางอากาศภายในปากีสถาน ทำให้ทั้งสองประเทศเกือบจะทำสงครามเต็มรูปแบบ
"ไม่ว่าผู้ก่อการร้ายจะมีดินแดนน้อยแค่ไหน ก็ถึงเวลาที่จะทำลายมันให้สิ้นซาก" ผู้นำอินเดียกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 2 นาทีเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นชาวอินเดีย
การโจมตีที่เลวร้ายที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในดินแดนแคชเมียร์ส่วนของอินเดีย คือเหตุการณ์ที่เมืองปุลวามาในปี 2019 เมื่อผู้ก่อความไม่สงบขับรถที่บรรทุกวัตถุระเบิดพุ่งเข้าชนขบวนรถตำรวจ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 40 รายและบาดเจ็บ 35 คน และหลังจากนั้น 12 วัน อินเดียส่งเครื่องบินขับไล่เข้าไปโจมตีทางอากาศในดินแดนปากีสถานเป็นการตอบโต้
ทั้งนี้ เหตุกราดยิงเมื่อวันอังคารเกิดขึ้นในขณะที่นักท่องเที่ยวกำลังเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ภูเขาอันเงียบสงบที่สถานที่ยอดนิยมในพาฮาลแกม โดยกลุ่มคนร้ายกรูออกมาจากป่าข้างทางและรุมทำร้ายฝูงชนด้วยอาวุธปืน
ผู้รอดชีวิตบอกกับสื่อของอินเดียว่า กลุ่มคนร้ายเล็งเป้าไปที่ผู้ชายและละเว้นผู้ที่สามารถให้คำประกาศศรัทธาในศาสนาอิสลามได้
กองกำลังความมั่นคงของอินเดียได้เริ่มการล่าตัวผู้ก่อเหตุครั้งใหญ่ โดยมีผู้คนจำนวนมากถูกควบคุมตัว
การโจมตีครั้งนี้ทำให้กลุ่มชาตินิยมฮินดูโกรธแค้น และนักศึกษาจากแคชเมียร์ในสถาบันต่างๆ ทั่วอินเดียรายงานว่าถูกคุกคามและข่มขู่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักท่องเที่ยวเสียชีวิต จากเหตุโจมตีในแคชเมียร์
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 รายจากเหตุโจมตีนักท่องเที่ยวของกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธในพื้นที่หิมาลัยของแคว้นแคชเมียร์ที่อินเดียควบคุม