เซเลนสกียืนยัน ข้อตกลงแร่ธาตุกับสหรัฐฯ 'เท่าเทียมกันอย่างแท้จริง'

ประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่าข้อตกลงแร่ธาตุสำคัญกับสหรัฐฯ เสนอผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกันสำหรับทั้งสองฝ่าย แม้ว่าจะไม่เป็นไปตามเงื่อนไขรับประกันความปลอดภัยในแบบที่รัฐบาลเคียฟเรียกร้องก็ตาม

สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และยูเลีย สวีริเดนโก รองนายกรัฐมนตรียูเครน (ขวา) เข้าร่วมพิธีลงนามข้อตกลงด้านแร่ธาตุในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 30 เมษายน ท่ามกลางการรุกรานยูเครนอย่างต่อเนื่องของรัสเซีย (Photo by Handout / Facebook / @yulia.svyrydenko / AFP) 

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า การลงนามในข้อตกลงแร่ธาตุสำคัญระหว่างยูเครนและสหรัฐอเมริกาลุล่วงไปได้ด้วยดี หลังจากมีแนวโน้มล้มเหลวเพราะความขัดแย้งที่ทำเนียบขาวระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์และโวโลดีมีร์ เซเลนสกีเมื่อต้นปี

โดยประธานาธิบดียูเครนยืนยันด้วยตัวเองว่า ข้อตกลงแร่ธาตุสำคัญที่เพิ่งลงนามกับสหรัฐฯ นั้นเสนอผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกันสำหรับทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ยูเครนเป็นฝ่ายยอมเสียเปรียบแบบที่หลายคนกังวล

แต่เซเลนสกีย้ำว่ารัสเซียจำเป็นต้องถูกกดดันเพิ่มเติมหลังจากยูเครนยอมลงนามเมื่อวันพุธ เพราะกองกำลังของมอสโกเพิ่งโจมตีด้วยขีปนาวุธที่กรุงเคียฟและเมืองอื่นๆ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 รายและบาดเจ็บ 15 คน

ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวซึ่งใช้เวลาเจรจาหลายเดือนนั้นจะทำให้สหรัฐอเมริกาและยูเครนร่วมกันพัฒนาและลงทุนในแหล่งทรัพยากรแร่ที่สำคัญของยูเครน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวถึงข้อตกลงนี้ในตอนแรกว่าเป็นการ "คืนเงิน" สำหรับความช่วยเหลือในช่วงสงครามที่ยูเครนได้รับภายใต้การนำของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนก่อน

อย่างไรก็ตาม ยูเครนกล่าวว่าข้อตกลงใหม่นี้ไม่ได้เชื่อมโยงกับ "หนี้" ใดๆ ในอดีต และเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ก็เน้นย้ำว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นสัญญาณที่ยืนยันว่าสหรัฐฯ พร้อมสนับสนุนยูเครนต่อไป

สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวที่วอชิงตันว่า "ข้อตกลงนี้ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนต่อรัสเซียว่ารัฐบาลทรัมป์มุ่งมั่นที่จะดำเนินกระบวนการสันติภาพโดยวางตำแหน่งยูเครนในฐานะประเทศที่เสรี, มีอำนาจอธิปไตย และเจริญรุ่งเรืองในระยะยาว"

เซเลนสกีกล่าวในคำปราศรัยประจำวันว่า ข้อตกลงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในระหว่างการเจรจา

"ตอนนี้เป็นข้อตกลงที่เท่าเทียมกันอย่างแท้จริง และจะสร้างโอกาสในการลงทุนที่สำคัญมากในยูเครน"

"ไม่มีหนี้ในข้อตกลงนี้ และจะมีการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูขึ้นเพื่อลงทุนในยูเครนและสร้างรายได้ที่นี่" เซเลนสกีกล่าว

รัฐบาลเคียฟและวอชิงตันวางแผนที่จะลงนามในข้อตกลงดังกล่าวตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่การปะทะกันในทำเนียบขาวระหว่างทรัมป์และเซเลนสกีทำให้การเจรจาต้องหยุดชะงัก

ยูเครนหวังว่าข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยปูทางให้สหรัฐฯ สามารถให้การรับประกันความปลอดภัยประเทศของตนได้ เนื่องจากสหรัฐฯ จะพยายามป้องกันการโจมตีของรัสเซียต่อจากนี้ เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวยังต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาของยูเครนเสียก่อน

ภายใต้ข้อตกลงนี้ ยูเครนและสหรัฐฯ จะจัดตั้งกองทุนร่วมการลงทุนเพื่อการฟื้นฟู

รัฐบาลเคียฟเปิดเผยว่ากำไรจากข้อตกลงดังกล่าวจะถูกนำไปลงทุนในยูเครนโดยเฉพาะเป็นเวลา 10 ปีแรก หลังจากนั้นกำไรอาจถูกแบ่งระหว่างหุ้นส่วนทั้งสอง

ข้อตกลงฉบับใหม่ไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาเกี่ยวกับความปลอดภัยที่เฉพาะเจาะจงของสหรัฐฯ แต่รัฐบาลวอชิงตันโต้แย้งว่าการเพิ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจในยูเครนจะช่วยป้องกันรัสเซียได้

ปัจจุบันรัสเซียยังคงโจมตียูเครนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าทรัมป์จะพยายามไกล่เกลี่ยการหยุดยิงแล้วก็ตาม

ขณะที่ทางการเผยว่า การโจมตีทางอากาศโดยโดรนของรัสเซียที่เมืองท่าโอเดสซาของยูเครนเมื่อคืนนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 12 คน

"เราจำเป็นต้องกดดันรัสเซียเพิ่มเติมเพื่อให้รัสเซียสงบสติอารมณ์และเจรจากัน ยิ่งมาตรการคว่ำบาตรมีประสิทธิผลมากเท่าไร รัสเซียก็ยิ่งมีแรงจูงใจมากขึ้นเท่านั้นที่จะยุติสงคราม" เซเลนสกีกล่าว

ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี หลังการหารือกับมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่วอชิงตันว่า สหภาพยุโรปกำลังเตรียมการคว่ำบาตรรัสเซียรอบที่ 17 โดยระบุว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินถือเป็น "อุปสรรคเพียงอย่างเดียว" ต่อสันติภาพในยูเครน

เมื่อเดือนที่แล้ว กลุ่มวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ซึ่งนำโดยลินด์เซย์ เกรแฮม จากพรรครีพับลิกัน และริชาร์ด บลูเมนธาล จากพรรคเดโมแครตได้ร่วมเสนอร่างกฎหมายที่จะคว่ำบาตรประเทศที่เป็นมิตรกับรัฐบาลมอสโก หากมีการดำเนินการใดที่ขัดขวางความพยายามยุติสงคราม

รัสเซียเคยปฏิเสธข้อตกลงหยุดยิง 30 วันที่สหรัฐฯ และยูเครนเสนอเมื่อเดือนมีนาคม โดยเรียกร้องให้ชาติตะวันตกหยุดให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนเสียก่อน

สหรัฐเตือนว่าสัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์สำคัญในการตัดสินใจว่าพวกเขาจะละทิ้งความพยายามในการไกล่เกลี่ยเพื่อยุติสงครามที่ดำเนินมานาน 3 ปีหรือไม่

ทั้งนี้ ปูตินได้ประกาศหยุดยิงชั่วคราว 3 วันแบบกะทันหันระหว่างวันที่ 8-10 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับช่วงที่รัฐบาลมอสโกจะจัดงานเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 ครบรอบ 80 ปี.

เพิ่มเพื่อน