เจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอล 2 คนถูกยิงเสียชีวิตนอกพิพิธภัณฑ์ชาวยิวในวอชิงตัน โดยมือปืนที่ตะโกนว่า "ปลดปล่อยปาเลสไตน์" ขณะที่ผู้นำสหรัฐและอิสราเอลแสดงความตกใจและโกรธแค้นต่อการสังหารดังกล่าว

ชายคนหนึ่งซึ่งคลุมตัวด้วยธงชาติอิสราเอลโบกมือขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรักษาความปลอดภัยบริเวณนอกพิพิธภัณฑ์ยิวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. หลังจากเกิดเหตุยิงสังหารที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 22 พฤษภาคม (Photo by Alex WROBLEWSKI / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอล 2 คนถูกยิงเสียชีวิตเมื่อช่วงค่ำวันพุธนอกพิพิธภัณฑ์ชาวยิวในกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยฝีมือของผู้ก่อเหตุที่ตะโกนว่า "ปลดปล่อยปาเลสไตน์" หลังการลงมือสังหาร
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประณามการโจมตีดังกล่าวทันที โดยกล่าวว่าเป็นการสังหารหมู่ที่โหดร้ายซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีพื้นฐานมาจากการต่อต้านชาวยิว
"ความเกลียดชังและลัทธิหัวรุนแรงจะต้องยุติลงทันทีและไม่มีที่ยืนในสหรัฐฯ" เขากล่าวเสริมบนโซเชียลมีเดีย
เหตุสังหารเกิดบนทางเท้าหน้าพิพิธภัณฑ์ 'Capital Jewish Museum' ใจกลางกรุงวอชิงตัน โดยสถานที่ดังกล่าวกำลังจัดงานสังสรรค์สำหรับคนทำงานรุ่นใหม่และเจ้าหน้าที่การทูต
คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นชายหนุ่มมีเคราสวมเสื้อแจ็คเก็ตและเสื้อเชิ้ตสีขาวตะโกนว่า "ปลดปล่อย ปาเลสไตน์" ขณะที่ตำรวจกำลังจับกุมและนำตัวเขาไปสอบสวน
ตำรวจยืนยันว่า ผู้ต้องสงสัยในคดียิงสังหารได้ก่อเหตุบริเวณด้านนอกอาคาร ก่อนเดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ และถูกควบคุมตัวหลังก่อเหตุ
"เราเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยคนเดียวเป็นผู้ก่อเหตุยิงปืน ซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัวแล้ว"
"ก่อนเกิดเหตุยิงสังหาร มีผู้พบเห็นผู้ต้องสงสัยเดินวนไปมาหน้าพิพิธภัณฑ์ เขาเดินเข้าหาคนกลุ่มหนึ่งประมาณ 4 คน หยิบปืนพกออกมาแล้วเปิดฉากยิง"
"หลังจากเกิดเหตุยิงสังหาร ผู้ต้องสงสัยได้เข้าไปในพิพิธภัณฑ์และถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของงานควบคุมตัวไว้" พาเมลา สมิธ หัวหน้าตำรวจวอชิงตันกล่าวกับผู้สื่อข่าว
เธอเล่าว่าผู้ต้องสงสัยซึ่งถูกใส่กุญแจมือได้ระบุตำแหน่งที่ทิ้งอาวุธและตะโกนว่า "ปลดปล่อย ปาเลสไตน์!" และตำรวจระบุว่าเขาชื่อเอเลียส โรดริเกซ อายุ 30 ปี จากชิคาโก
ประธานาธิบดีไอแซค เฮอร์ซ็อก ของอิสราเอลกล่าวในแถลงการณ์ว่า "ผมเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวอชิงตัน นี่เป็นการกระทำที่น่ารังเกียจที่เกิดจากความเกลียดชังและการต่อต้านชาวยิว ซึ่งได้คร่าชีวิตพนักงานหนุ่มสาวสองคนของสถานทูตอิสราเอลไป"
"อเมริกาและอิสราเอลจะยืนหยัดร่วมกันเพื่อปกป้องประชาชนและค่านิยมร่วมกันของเรา การก่อการร้ายและความเกลียดชังจะไม่สามารถทำลายเราได้" ประธานาธิบดีอิสราเอลกล่าว
แดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า "การทำร้ายนักการทูตและชุมชนชาวยิวถือเป็นการข้ามเส้นแดง และอิสราเอลจะดำเนินการอย่างแน่วแน่ต่อไปเพื่อปกป้องพลเมืองและตัวแทนของตน ทุกที่ในโลก"
ทั้งนี้ งานที่จัดขึ้นในสถานที่เกิดเหตุเป็นงานเลี้ยงรับรองที่จัดโดยคณะกรรมการชาวยิวอเมริกัน (AJC) สำหรับคนหนุ่มสาวชาวยิวและชุมชนนักการทูตในวอชิงตัน เพื่อส่งเสริมความสามัคคีและเฉลิมฉลองมรดกของชาวยิว
เท็ด ดิวช์ ซีอีโอของ AJC กล่าวในแถลงการณ์ว่า "เราเสียใจมากที่เกิดการกระทำรุนแรงที่เลวร้ายนอกสถานที่จัดงาน ณ บัดนี้ความสนใจและหัวใจของเราอยู่ที่ผู้ที่ได้รับอันตรายและครอบครัวของพวกเขาเท่านั้น"
พิพิธภัณฑ์ดังกล่าวตั้งอยู่ในใจกลางกรุงวอชิงตัน, ใกล้กับอาคารรัฐสภาสหรัฐ และห่างจากทำเนียบขาวเพียง 1 ไมล์ (1.6 กิโลเมตร)
หัวหน้าตำรวจวอชิงตันกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุยิงปืนหลายครั้งใกล้กับพิพิธภัณฑ์เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันพุธ
เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบชายหญิงคู่หนึ่งนอนหมดสติและไม่หายใจ แม้พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่แล้ว แต่ทั้งคู่ก็เสียชีวิตในท้ายที่สุด
เยเชียล ไลเตอร์ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหรัฐฯกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคู่รักหนุ่มสาวที่กำลังวางแผนแต่งงานกัน
ไลเตอร์กล่าวว่า "ชายหนุ่มคนนี้ซื้อแหวนวงหนึ่งเมื่อสัปดาห์นี้ โดยตั้งใจจะขอแฟนสาวแต่งงานในสัปดาห์หน้าที่เยรูซาเลม"
เขากล่าวเสริมว่าเขาได้พูดคุยกับทรัมป์ทางโทรศัพท์ และประธานาธิบดีรับรองว่าสหรัฐอเมริกาจะทำทุกวิถีทางเพื่อต่อสู้และยุติการต่อต้านชาวยิว
"เราจะยืนหยัดร่วมกันอย่างมั่นคง และเราจะเผชิญหน้ากับความเสื่อมทรามทางศีลธรรมนี้โดยปราศจากความกลัวและด้วยความมุ่งมั่น" ไลเตอร์กล่าว
ขณะที่มูเรียล บาวเซอร์ นายกเทศมนตรีวอชิงตันกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "พวกเราจะยืนหยัดร่วมกันเพื่อส่งสารที่ชัดเจนว่าเราจะไม่ทนต่อการต่อต้านชาวยิว เหตุการณ์ที่น่าสยดสยองนี้อาจทำให้ผู้คนจำนวนมากในเมืองของเราและในประเทศของเราหวาดกลัว ผมต้องการแสดงออกให้ชัดเจนว่าเราจะไม่ทนต่อความรุนแรงหรือความเกลียดชังนี้อีกต่อไป".


